กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,317 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,300 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.42 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,500 บาท กับ 19,600 บาท และกลับมาปิดที่ 19,450 บาท กับ 19,550 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,086 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,394 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2.28% แบบ 10 บาท ลดลง 1.37% GFV13 ปิด 19,640 บาท และGFZ13 ปิด 19,710 บาท GF10V13 ปิด 19,640 บาท GF10Z13 ปิด 19,710 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 17.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,307.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 55.2 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.891 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 898.18 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 101.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 26.45 จุด ปิดที่ 14,802.98 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ทองคำปรับตัวลงหลังจากที่เจเน็ต แยลเลน ได้รับตำแหน่งว่าที่ประธานเฟดหญิงต่อจาก เบน เบอร์นันเก้ เธอแสดงความมั่นใจและเสนอแผนนโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเข้ากดดันตลาดทองคำ ขณะที่ตลาดทองคำนั้นมีทิศทางเป็นภาวะหมีขาลง
นอกจากนี้ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยที่ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ จึงทำให้ความต้องการทองคำในรูปของสกุลเงินดอลลาร์ลดน้อยลง เมื่อดอลลาร์เทียบกับยูโร ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3520 จากระดับ 1.3566
คิทโก้ รายงานว่า ทองคำนั้นมีปฎิกริยาเล็กน้อยกับการเฝ้าจับตาดูเฟดในเรื่องการลดคิวอีที่อาจได้รับการเลื่อนออกไปถึง ปี 2015
LMBA รายงานว่า ทาง Goldman Sach ได้ให้เป้าหมายของราคาทองคำไว้ที่ระดับ $1,050 ต่อออนซ์ สำหรับปลายปี 2014
WGC ระบุว่าทองคำได้รับแรงเทขายกดดันราคาต่ำสุดปี 1999 จากรายงานตัวเลขของข้อตกลงค้าทองคำระหว่างธนาคารกลาง
แรงซื้อทองคำของ ฮ่องกงปรับตัวลง 5 %ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาแม้ว่าราคาทองคำจะ ปรับตัวลงมาดึงดูดผู้ชื่นชอบเครื่องประดับและทองคำแท่งแต่ทองคำยังคงมีแรง ความต้องการในตลาดตะวันตกและตะวันออก
ทองคำได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์อินเดีย ที่ระบุว่า ยอดนำเข้าทองคำและโลหะเงินประจำเดือนของอินเดีย ลดลงแตะ 800 ล้านดอลลาร์ฯ เมื่อเทียบรายปี
ตลาดยังคงจับตาการเจรจาเรื่อง Debt Ceiling ของสหรัฐฯ ซึ่งหากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายเพื่อเพิ่มเพดานการกู้ยืมให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯในวันที่ 17 ต.ค. นี้ได้ จะส่งผลให้สหรัฐฯไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะหดตัวลงอย่างหนัก
อย่างไรก็ดี วิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐฯ ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า เฟดอาจจะยังไม่ปรับลด QE ในการประชุมเดือนนี้
ไอเอ็มเอฟ กล่าวเตือนว่า ทั่วโลกอาจเผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพทางการเงิน หากญี่ปุ่นล้มเหลวในการปฏิรูปโครงสร้างและการคลัง และหากสหรัฐฯปรับลด QE เพราะอาจทำให้ภาวะเงินฝืดกลับมาอีก จึงขอให้ตลาดการเงินทั่วโลกเตรียมรับมือ
ฮิโรชิ นากาโซะ รองผู้ว่าการบีโอเจ กล่าวแสดงความกังวลเกี่ยวกับความไม่คืบหน้าการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่อาจทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับสูงขึ้น ตลาดหุ้นจะทรุดตัวลง สร้างความผันผวนให้กับตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ
มาริโอ้ ดาร์กี้ ประธานอีซีบี เปิดเผยว่า ไม่สามารถคาดการณ์เงินทุนใหม่ ที่จะจัดการเรื่อง Refinance ระยะยาวได้ที่ระดับอัตราดอกเบี้ยFix Rate ระยะยาว ให้แก่ธนาคารพาณิชย์จะยังคงไว้ก่อนในระดับ 0.5%และยังไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าจะกลางปี 2015
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับต่อข่าวที่ประธานาธิบดี โอบามา ประกาศแต่งตั้งนางเยลเล็น เป็นประธานเฟดคนใหม่ โดยข่าวดังกล่าวช่วยบรรเทาปัจจัยลบจากความกังวลเกี่ยวกับ Debt Ceiling ของสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น0.4% หลังจากที่เจเน็ต แยลเลน ได้รับตำแหน่งว่าที่ประธานหญิงธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนเบน เบอร์นันเก้ เธอเปิดเผยเรืองการร่วมลงทุนในเกาหลีใต้และบราซิลซึ่งการลดคิวอีก็ส่งผลกระทบต่อเงินทุนที่จะไหลเข้าประเทศ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 308K คาดการณ์ว่าจะออกลดลงมาที่ระดับ 307K
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,300 เหรียญลงมาในช่วงก่อนการซื้อขายในตลาด COMEX เล็กน้อย โดยที่ภาพรวมคงเป็นการรับข่าวของการได้แต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ นางเจเน็ต เยลเลน โดยที่ราคาทองคำลงไปทดสอบระดับต่ำสุด 1,295 เหรียญโดยประมาณ และกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,307.2 เหรียญ ขณะที่เช้านี้กลับมาเปิดตลาดที่ระดับประมาณ 1,303 เหรียญ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงหลังจากทรงตัวในระดับ 1,315 เหรียญมา 3-4 วัน และการที่ราคาทองคำยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องและหลุดระดับ 1,300 เหรียญลงมา ในเชิงเทคนิคค่อนข้างยืนยันแพทเทิร์นของกราฟเป็นลักษณะของ Head and Shoulder ซึ่งมี Neck Line บริเวณ 1,293 เหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นแนวรับที่สำคัญ วิเคราะห์ได้ว่า ถ้าหลุดบริเวณ 1,290 เหรียญลงมา ราคาทองคำมีโอกาสที่จะตกลึกลงไปได้อีกประมาณ 80-100 เหรียญ คงจะลงไปสัมผัสที่ 1,200 เหรียญ ในวันนี้คาดว่าราคาคงจะเคลื่อนตัวในกรอบแนวรับด้านล่างระหว่าง 1,290-1,310 เหรียญ ถ้าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการการว่างงานดีขึ้นอย่างที่มีการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงจาก 308,000 ราย มาเหลือ 307,000 ราย ก็อาจจะกดดันให้ราคาทองคำหลุด 1,300 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังแนะนำให้ใช้กลยุทธ์การลงทุนในแนวโน้มขาลง ตามสภาพตลาดที่กำลังปรับเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นหลักการที่ MTS Gold ย้ำให้ใช้กลยุทธ์ขายก่อนแล้วค่อยมาซื้อกลับทีหลังเป็นหลัก ซึ่งนักลงทุนจะต้องปรับพอร์ตกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาดที่เป็นขาลง นักลงทุนที่มีทองคำแท่ง หาจังหวะที่ดีดตัวขึ้นมาแล้วขายออกก่อน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ขายปิดสถานะ Long Position และหาจังหวะเปิดสถานะ Short Position และย้ำว่าให้พยายามปิดสถานะ Long Position
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ซื้อปิดทำกำไรบริเวณแนวรับสำคัญ และเปิดทำ Short Position เพิ่มที่บริเวณแนวต้านสำคัญ 1,315 เหรียญ
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,360 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,600 บาท
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,430 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,830 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
Research Department Tel: 02-222-6222 ext. 103