กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--Shine Communications
เผยไฮไลท์สุดเด็ด “นิทรรศการความใฝ่ฝันแสนงาม 40 ปี 14 ตุลา” ย้ำอิทธิพลของความรู้ที่ส่งผลถึงประวัติศาสตร์สำคัญ ปะทะดินแดนมหัศจรรย์ “Book Wonderland” ชวนสนุกกับหนังสือที่มากกว่าแค่การอ่าน พร้อมเปิดตัว Application B Scan ครั้งแรก ค้นทุกสิ่งในงานมหกรรมหนังสือด้วยปลายนิ้ว !!!
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT)เตรียมจัดงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 18 (Book Expo Thailand 2013)” อย่างยิ่งใหญ่ ในระหว่างวันที่ 16-27 ตุลาคม 2556 เวลา 10.00 — 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “หนังสือเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโลก”เพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและอิทธิพลของการอ่านที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งในส่วนของบุคคล สังคม และประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยจำลองบรรยากาศของ “หนังสือเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโลก” ทั่วทั้งบริเวณงาน โดยมีสำนักพิมพ์ชั้นนำทั่วประเทศร่วมออกงานมากถึง 425 สำนักพิมพ์ รวมกว่า 1,000 บูทอัดแน่นเต็มพื้นที่22,000 ตารางเมตร!!!
นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า งานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 18 นี้จะมีความเปลี่ยนแปลงจากหลายๆครั้งที่ผ่านมา โดยนอกจากจะคงความเป็นบุ๊คแฟร์หนังสือราคาพิเศษที่ทุกคนรอคอยแล้ว ยังมีการเปิดพื้นที่ทางปัญญามากขึ้นด้วยกิจกรรมไฮไลท์ต่างๆให้สมกับแนวคิดดังกล่าว
“หนังสือเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับจุลภาคอย่างปัจเจกบุคคลและระดับมหภาคอย่างสังคม เพราะหนังสือนอกจากจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้แล้วนั้นอุบัติการณ์ใดๆในโลกนี้ก็ล้วนเปลี่ยนแปลงโดยอิทธิพลของหนังสือ สังคมไหนที่ประชาชนมีความรักหรือความชื่นชอบในการอ่านหนังสือสูง รัฐจะไม่สามารถปกครองโดยไร้เหตุผลได้สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯในฐานะองค์กรที่สนับสนุนและส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน จึงจำเป็นที่จะต้องร่วมสร้างการอ่านให้เกิดขึ้นให้ได้ในสังคม หลายกิจกรรมถือเป็นการสร้างบรรยากาศใหม่ๆของงาน โดยเป็นการระดมความคิดของกลุ่มนักคิดที่ได้รับการยอมรับของหลายภาคส่วน”จรัญอธิบายถึงสาเหตุของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ดังนั้นนอกจาก 425 สำนักพิมพ์ ที่ขนทัพหนังสือสุดฮอตฮิตของตัวเองมาร่วมแล้วนั้น จึงมีกิจกรรมไฮไลท์อีกมากมาย อาทิ นิทรรศการความใฝ่ฝันแสนงาม 40 ปี 14 ตุลา ซึ่งผู้ร่วมงานที่อายุครบ 40 ปีในปีนี้ จะได้รับวีซีดี“14 ตุลา บันทึกประวัติศาสตร์” โดยอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ พร้อมโปสการ์ด และท่านที่เกิดในตุลาคมก็จะได้รับโปสการ์ดสุดพิเศษ,นิทรรศการองคมนตรีกับสถาบันพระมหากษัตริย์,นิทรรศการจากกลุ่มสห+ภาพ ที่มาพร้อมภาพถ่ายชีวิตและโลกที่เปลี่ยนไปเพราะหนังสือ โดยคุณจิรนันท์ พิตรปรีชา และคุณธีรภาพ โลหิตกุล
“เราเปิดพื้นที่แสดงงานเชิงความรู้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการสำคัญซึ่งจะช่วยแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ (International Publishers Association)เพราะในปีหน้าจะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงาน “การประชุมผู้จัดพิมพ์สมาคมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ (IPA Congress 2014 )” ซึ่งมีสมาชิกกว่า 50 ประเทศจากทุกทวีปทั่วโลกทั้งแอฟริกา เอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา มาร่วมประชุม ตั้งแต่วันที่ 25-27 มีนาคม พ.ศ.2557 โดย IPA Congress ถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่สุดในแวดวงสิ่งพิมพ์ระดับนานาชาติ เพราะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆในวงการสิ่งพิมพ์โลกด้วย”
นายจรัญยังเผยอีกว่า ครั้งนี้จะมีโซนหนังสือใหม่เกิดขึ้น คือโซน Book Wonderland ในโซน D ที่มาพร้อมแนวความคิด “หนังสือมีความสนุกมากกว่าการอ่าน” โดยเกิดขึ้นจากการรวมตัวของสำนักพิมพ์แนวเดียวกัน คือการ์ตูน หนังสือกลุ่มเด็กและเยาวชน รวมถึงไลท์โนเวล อาทิ เซนชู เด็กซ์เพรส พูนิก้า ลัคพิมพ์ 1168 ฯลฯ
รวมถึงอีกหนึ่งความพิเศษคือ เป็นครั้งแรกที่จะมี Application งานมหกรรมหนังสือเกิดขึ้น โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จับมือกับบริษัท บีอีซี-เทโร แอ๊พพ์ จำกัด พัฒนาแอพพลิเคชั่น ชื่อว่า B Scan เพื่อใช้อำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมงาน โดยฟังก์ชั่นหลักคือ การค้นหาตำแหน่งและโปรโมชั่นของสำนักพิมพ์ได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส และยังมีระบบคูปองส่วนลด ที่สามารถกดรับคูปองส่วนลดจากสำนักพิมพ์ที่เข้าร่วมรายการผ่านแอพฯ และนำไปแสดงที่บูธหนังสือ เพื่อรับส่วนลดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกิจกรรมลุ้นของที่ระลึกจากการใช้แอพฯสแกนโปสเตอร์ของงานมหกรรมหนังสือฯ อีกด้วย โดยจะพร้อมเปิดให้ดาวน์โหลด วันที่ 15 ตุลาคม ทั้งจากApp Store และ Google Play
ด้าน “นายปราบดา หยุ่น” อุปนายกฝ่ายต่างประเทศสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ และประธานจัดนิทรรศการ “ความใฝ่ฝันแสนงาม 40 ปี 14 ตุลา”เปิดเผยถึงแนวความคิดของงานที่ทำร่วมกับนักคิดนักเขียนอาทิ อุทิศ เหมะมูล นักเขียนซีไรต์ปี 2552, ดวงฤทัย เอซะนาชาตัง และอ.ประจักษ์ ก้องกีรติ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมกันสร้างนิทรรศการนี้ขึ้น
“ท่านนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯดำริให้มีนิทรรศการความฝันอันแสนงาม 40 ปี 14 ตุลาขึ้นมา ธีมของงานเลยเป็นการยกประเด็นเรื่องความเปลี่ยนแปลงชีวิต เปลี่ยนโลกโดยผ่านการอ่านหนังสือ เพราะช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 นักศึกษาที่ลุกขึ้นมาประท้วงอยากให้สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลง ก็มาจากการอ่าน โดยได้รับอิทธิพลมาจากหนังสือหลายๆเล่ม เป็นตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนว่าหนังสือมีพลังในการเปลี่ยนแปลงคนอ่าน เปลี่ยนแปลงสังคม เปลี่ยนแปลงโลกได้มากแค่ไหน”
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดหลักของงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่18 ที่ว่า ‘หนังสือเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนโลก’ ภายในนิทรรศการจึงนำเสนอบรรดาหนังสือและข้อเขียนต่างๆ ที่กระตุ้นให้เกิด ‘ความใฝ่ฝันแสนงาม’ แสดงความเป็นไปตามเส้นเวลา ตั้งแต่ช่วงปี 2500 จนถึงก่อนวันที่ 14 ตุลา 2516 โดยเน้นเรื่องราวของหนังสือ ตั้งแต่รับอุดมการณ์ความคิดมาจากคนรุ่นก่อนหน้า จนถึงก้าวเข้ามาเขียนและผลิตหนังสือกันเองอย่างคึกคัก
“พยายามเสนอภาพประวัติศาสตร์ช่วงนั้นให้สัมผัสจับต้องได้ เน้นการสร้างบรรยากาศภายในงาน ใช้พื้นที่เล่นกับผู้ชม มากกว่าเพียงการอ่านบอร์ดนิทรรศการ โดยนิทรรศการจะทำหน้าที่เชื่อมโยงให้คนรุ่นปัจจุบันเข้าถึงและเข้าใจผู้คนในยุคสมัยนั้นมากยิ่งขึ้น” นายปราบดากล่าว
นอกจากนี้สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังมุ่งมั่นส่งเสริมให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมการอ่านในสังคมไทยให้เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมการอ่านต่างๆ โดยเฉพาะโครงการ “PUBAT Charity ปันกันอ่าน แบ่งกันให้” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางสาวฐาปนี โปร่งรัศมี อุปนายกฝ่ายในประเทศสมาคมผู้จัดพิมพ์ และประธานโครงการ PUBAT Charity เปิดเผยว่าสำหรับกิจกรรมในโครงการ PUBAT Charity ในครั้งนี้คือ “โครงการทอฝันปันหนังสือให้น้อง” ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 29 แล้ว เพราะการให้โอกาสทางการอ่านแก่ผู้ที่ขาดโอกาสเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง
“สังคมจะพัฒนาไปได้ไกลต้องมีการศึกษาและเศรษฐกิจที่สัมพันธ์กันจึงจะขับเคลื่อนให้สังคมก้าวต่อไปได้แต่ในความเป็นจริงมิติทางสังคมไทยยังมีความเหลื่อมล้ำอยู่มากโดยเฉพาะสังคมที่ห่างไกลรวมถึง เด็กด้อยโอกาสทั้งที่อยู่ในเมืองและชานเมืองก็ยังขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานทางด้านหนังสืออื่นที่นอกเหนือจากหนังสือเรียนเพราะเศรษฐกิจไม่อำนวย
“ทอฝันปันหนังสือให้น้อง” จึงจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการปลูกฝังการสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเรามีพันธมิตรที่เกื้อหนุนในการสรรหาโรงเรียนหรือกลุ่มที่เหมาะสมคือมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งจะมีการมอบบัตรกำนัลให้แก่เด็กด้อยโอกาสจากองค์กรต่างๆ
นางสาวฐาปนีเผยอีกด้วยว่าโครงการPUBAT Charity ยังจำหน่ายสินค้าในพื้นที่พิเศษบริเวณบันไดทางขึ้นระหว่างโซนC1และโซนC2 ขึ้นด้วย โดยรายได้ทั้งหมดนั้นจะนำเข้าโครงการ PUBAT Charity โดยไม่หักค่าใช้จ่ายเพื่อทำกิจกรรมสาธารณกุศลเกี่ยวกับการอ่านต่อไป
งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 18” จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 16-27 ตุลาคม 2556 เวลา 10.00 — 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ Error! Hyperlink reference not valid.www.facebook.com/Book Thai