กระทรวงการคลัง ชู“คลินิกภาษี” เสริมศักยภาพการแข่งขัน SMEs นวัตกรรมองค์ความรู้ “ภาษีธุรกิจ - ที่ปรึกษา” แบบ One Stop Service

ข่าวทั่วไป Monday October 14, 2013 14:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--โอเพ่นมายด์ การที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงนั้น สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่องของ “ระบบภาษีธุรกิจ” เพราะการเข้าใจในข้อกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ของภาษีทั้งในขั้นตอนของสรรพากร สรรพสามิต หรือศุลกากร ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับธุรกิจของตนเองอย่างถ่องแท้นั้น ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสมแล้ว ยังช่วยลดต้นทุน เพิ่มโอกาส รวมไปถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาคเอกชน จากความ “ไม่เข้าใจ” ในอดีตได้นำมาซึ่ง “ทัศนคติ” ที่ไม่ถูกต้องต่อการเสียภาษี เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้ SMEs หลายๆ รายไม่สามารถเติบโตขยายกิจการออกไปให้เกิดความมั่นคงได้ดังที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “หากต้องการให้ธุรกิจเติบโตและก้าวหน้า ต้องเข้าใจเรื่องของระบบภาษี และต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง” ากปัญหาต่างๆ ทำให้ปัจจุบัน “กระทรวงการคลัง” ได้พัฒนานวัตกรรมการให้บริการข้อมูลความรู้และคำปรึกษาด้านระบบภาษี “คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” ขึ้นมาโดยมุ่งเน้นบูรณาการให้ความรู้ภาษีธุรกิจจาก กรมสรรพากร กรมสรรสามิต และ กรมศุลกากร ให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไทย นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคลินิกภาษีได้รวบรวมองค์ความรู้จาก 3 กรมจัดเก็บภาษี มาไว้ ณ จุดเดียว และสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลภาษีธุรกิจได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านช่องทางที่ทันสมัยที่ เวบไซต์คลินิกภาษี http://taxclinic.mof.go.th และ Mobile Application เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านภาษีได้ทุกที่ทุกเวลา โดยจะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการด้านความรู้ภาษีอากร ที่มีวัตถุประสงค์ช่วยลดภาระการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของภาคเอกชนให้ต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อผู้ประกอบการมีความรู้และความเข้าใจในระบบภาษีอย่างแท้จริง ก็จะทำให้ภาคเอกชนมีต้นทุนลดต่ำลง และมีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น “นอกจากองค์ความรู้ด้านภาษีที่ถูกรวบรวมไว้ในคลินิกภาษี กระทรวงการคลังแล้ว ยังมีหมอภาษีอีก 268 คนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ผู้ประกอบการสามารถนัดหมายขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการธุรกิจประเภทต่างๆ นอกเหนือไปจากที่ได้รวบรวมไว้ได้ทุกประเภทภาษี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไปที่ไหนก็ได้ที่ใกล้ที่สุดก็สามารถปรึกษาขอความรู้ด้านภาษีได้ทั้ง 3 กรมแบบ One Stop Service นอกจากนี้ กระทรวงการคลังกำลังพัฒนารูปแบบการให้บริการของคลินิกภาษี โดยการเพิ่มข้อมูลภาษีธุรกิจที่สอดคล้องกับภูมิภาคต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับการเปิดประชาคมอาเซียน ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพ และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ” นายรังสรรค์ระบุ นายฤทธิพงษ์ ฤทธิ์ท้วม ศิลปินและครูช่าง OTOP ระดับประเทศ ผู้ผลิตและจำหน่ายศิลปหัตถกรรมผ้าพื้นเมืองภูเก็ตภายใต้แบรนด์ “ภูการ์” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการและภาคเอกชนต่างๆ ในการผลิตเสื้อผ้าหรือเครื่องแบบของหน่วยงานที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นเปิดเผยว่า ในครั้งแรกเมื่อทำธุรกิจแล้วโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ทำให้เกิดความตระหนักว่าเรื่องของภาษีนั้นผู้ประกอบการทุกรายมีความจำเป็นที่จะต้องรู้ให้ลึกซึ้ง “ข้อมูลต่างๆ ด้านภาษีทั้ง 3 ที่นำมารวบรวมไว้ในคลินิกภาษีมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ประกอบการ SMEs หรือ OTOP เพราะข้อมูลและความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะมีความสำคัญต่อการตัดสินใจในการขยายตลาดและกิจการ โดยเฉพาะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งธุรกิจต่างๆ จะมีโอกาสเติบโตมากขึ้นจากการนำเข้าและส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่เปิดการค้าเสรี การที่ผู้ประกอบการความรู้เรื่องของกฎเกณฑ์ภาษีหรือเงื่อนไขของการนำเข้าหรือส่งออก หรือมาตรการภาษีต่างๆ จะทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขันกว่าคนอื่นๆ” อ.ฤทธิ์พงษ์ กล่าว นางศุภลักษณ์ สุหิรัญญวานิช ผู้ประกอบการร้านของฝากจากภูเก็ต “ศรีศุภลักษณ์ ออร์คิด” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลถึงในต่างประเทศจากผลิตภัณฑ์ OTOP “เม็ดมะม่วงหิมพานต์” หลากรสชาติ และผู้ผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “น้ำมะม่วงหิมพานต์” รายแรกของประเทศไทยกล่าวว่า ผู้ประกอบการ SMEs มีความจำเป็นที่จะต้องเติมเต็มความรู้เรื่องของภาษีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเพราะกฎหมายหรือเงื่อนไขด้านภาษีต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา “การให้บริการของคลินิกภาษีกระทรวงการคลังมีช่องทางที่ทันสมัย สะดวกสบายและสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการได้ดีมาก โดยเฉพาะการให้บริการแบบ One Stop Service ที่ช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการหาความรู้ด้านภาษี เพราะไปที่เดียวก็สามารถรู้ได้ทุกเรื่อง ซึ่งในหลายๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราที่ทำอยู่นั้น มีข้อมูลต่างๆ มากมายในเชิงลึกที่ผู้ประกอบการหลายรายไม่เคยรู้ ดังนั้นรูปแบบการให้บริการต่างๆ ของคลินิกภาษีจะมีส่วนสำคัญในการช่วยต่อยอดธุรกิจของผู้ประกอบการออกไปให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และเติมเต็มศักยภาพและความเข้มแข็งของผู้ประกอบการในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี” นางศุภลักษณ์กล่าว ปัจจุบัน “คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาษีสำหรับการ ประกอบธุรกิจต่างๆ ที่น่าสนใจไว้อย่างละเอียดจำนวน 55 ธุรกิจ โดยสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลธุรกิจต่างๆ ได้ที่ เวบไซต์คลินิกภาษี http://taxclinic.mof.go.th รวมทั้งยังเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านภาษีผ่าน Mobile Application ทั้งในระบบ i-OS และ Android รวมถึงการเชื่อมโยงกับ Social Network เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ยังได้พัฒนา ระบบนัดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขอนัดรับคำปรึกษาเรื่องภาษีจากผู้เชี่ยวชาญหรือ “หมอภาษี” ประจำอยู่ ณ จุดให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ จำนวน 268 จุดทั่วประเทศของทั้ง 3 หน่วยงาน และ Call Center 1689 เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ ในการติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งจะทำให้เรื่องของภาษีธุรกิจเป็นเรื่องที่ รู้จริง รู้เร็ว รู้ง่าย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ