กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมการดำเนินงานการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2556/57 ของจังหวัดลพบุรี ณ วัดธรรมเจดีย์ อำเภอเมืองลพบุรี ว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่มุ่งหวังให้มีการยกระดับราคาสินค้าเกษตร เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง และเกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างเป็นธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มีการปรับปรุงการขึ้นทะเบียน ทั้ง 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนการรับขึ้นทะเบียน จะมีการเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วน ขั้นตอนการประชาคม จะมีมาตรการเข้มงวด โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมรายตำบล และตรวจสอบพื้นที่จริงด้วย GPS และขั้นตอนการออกใบรับรอง มีการเข้มงวดการพิมพ์และการจ่ายใบรับรองให้ถูกต้องและทันเวลา
นายวราเทพ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้เน้นย้ำให้มีความแม่นยำและถูกต้องในทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันการทุจริตที่จะเกิดขึ้นกับโครงการฯ และไม่ให้เกษตรกรสูญเสียประโยชน์ จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ แจ้งข้อมูลที่เป็นจริง หากแจ้งข้อมูลเท็จก็จะถูกเพิกถอนสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการฯ เป็นระยะเวลา 3 ปี และมีความผิดตามกฎหมาย สำหรับเจ้าหน้าที่ ให้ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ด้านโรงสี ก็จะต้องให้ความร่วมมือกับรัฐ โดยมีความเที่ยงตรงในเรื่องการวัดความชื้นและการชั่งน้ำหนักข้าว ไม่เอารัดเอาเปรียบชาวนา และในส่วนของการระบายข้าว ก็เป็นภารกิจของรัฐในการจำหน่ายข้าวเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนใช้ในการดำเนินโครงการฯต่อไป
นายวราเทพ กล่าวถึงกรณีที่เกษตรกรยังไม่ได้รับเงินจากการจำนำข้าวในฤดูกาลที่ผ่านมา จำนวน 4.25 แสนตัน เป็นวงเงิน 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนที่เกินจากวงเงินที่รัฐกำหนดไว้ เนื่องจากมีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำเป็นจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเพื่อขยายวงเงิน และจะเร่งรัดให้ ธ.ก.ส. จ่ายเงินให้เกษตรกรโดยเร็ว สำหรับกรณีที่เกษตรกรจำนวนประมาณ 8.9 แสนราย ที่เข้าร่วมโครงการไม่ทันวันที่ 15 กันยายน 2556 นั้น คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณามาตรการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรดังกล่าว
นายวราเทพ กล่าวอีกว่า การเตรียมความพร้อมในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ นอกจากได้ให้นโยบายการปฏิบัติงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังมีความเข้มงวดกับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการฯมากขึ้น
ซึ่งในการลงพื้นที่จังหวัดลพบุรีในครั้งนี้ ได้ตรวจเยี่ยมจุดรับจำนำโรงสีประชานุกูลกิจ ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี ที่เป็นโรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ที่คัดเลือกโดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และพร้อมเปิดการรับจำนำตามโครงการแล้ว ซึ่งได้เน้นย้ำให้ อ.ต.ก. มีความเข้มงวดในเรื่องการดูแลจุดรับจำนำ การคัดเลือกโรงสี การจัดหาบุคลากรประจำจุด รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการอำนวยความสะดวกและตรวจสอบ เช่น กล้องวงจรปิด ตลอดจนการเก็บรักษาข้าว พร้อมกำชับให้โรงสีดำเนินการในเรื่องการตรวจสอบคุณภาพข้าว การวัดความชื้น และการชั่งน้ำหนัก ด้วยความเที่ยงตรงและเป็นธรรมกับเกษตรกร
อนึ่ง ผลการรับขึ้นทะเบียน ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2556 บันทึกการขึ้นทะเบียนในระบบแล้วจำนวน 2,603,347 ครัวเรือน พื้นที่ 46,771,707 ไร่ ผ่านประชาคม 444,086 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 17.06 ของการบันทึก พื้นที่ 9,904,734 ไร่ ผลการออกใบรับรอง 310,178 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 69.85 ของการผ่านประชาคม พื้นที่ 7,408,428 ไร่ ในส่วนของจังหวัดลพบุรี มีเป้าหมายการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2556/57 จำนวน 27,000 ครัวเรือน พื้นที่ 750,000 ไร่ ผลการขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 13,945 ครัวเรือน ผ่านการประชาคม 7,242 ครัวเรือน ออกใบรับรองให้เกษตรกรแล้ว 6,252 ครัวเรือน