กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--พีอาร์พีเดีย
เอปสันขับเคลื่อนกลยุทธ์ในการรุกตลาด พร้อมเพิ่มไลน์สินค้าเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง ส่งเครื่องพิมพ์ติดแท็งค์รุ่นแรกของโลก SureColor F-Seriesและ B-Seriesบุกตลาดอุตสาหกรรมงานพิมพ์เพื่อสินค้าแฟชั่นสิ่งทอและตลาดป้ายโฆษณาประเภทต่างๆ
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าในปัจจุบัน เครื่องพิมพ์หน้ากว้างของเอปสันเป็นที่นิยมอย่างมากในธุรกิจพรีเพรส ธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพ และมินิแล็ป และเริ่มได้รับการตอบรับมากขึ้นในอุตสาหกรรมการพิมพ์แพ็คเกจจิ้งและลาเบล และการพิมพ์เชิงเทคนิค เช่น งานออกแบบภาพจำลองสามมิติ ประเภท CAD และงานแผนที่ GIS ในหน่วยงานราชการ รวมถึงธุรกิจประเภทต่างๆ ที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูง เช่น ธุรกิจผลิตสื่อการเรียนการสอน ธุรกิจสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์
“วันนี้เอปสันได้ขยายฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจให้กว้างขึ้นออกไปอีก ด้วยการออกสินค้าใหม่พร้อมกัน 4รุ่น ในตระกูล SureColor F-Series และ B-Series เครื่องพิมพ์หน้ากว้างติดแท็งค์รุ่นแรกของโลก ซึ่ง B-Series เข้ามาเสริมทัพอุตสาหกรรมการพิมพ์ป้ายโฆษณาประเภทต่างๆ ประกอบด้วย SC-B6070 เครื่องขนาด 44 นิ้ว และ SC-B7070 ขนาด 64 นิ้ว เอปสันยังพลิกโฉมอุตสาหกรรมการพิมพ์ผ้า ส่ง SC-F6070 เครื่องขนาด 44 นิ้ว และ SC-F7070เครื่องขนาด 64 นิ้ว ซึ่งเป็นพรินเตอร์ระบบ Dye-sublimation แบบป้อนม้วนกระดาษ roll-fed)เพื่ออุตสาหกรรมการพิมพ์ผ้ารุ่นใหม่ ที่เน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจแฟชั่นและสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม ทั้งสองรุ่นสามารถรองรับการพิมพ์ผ้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งกาย ชุดกีฬา แอกเซสเซอรีเสริมแฟชั่นหลากหลายประเภท”
Epson SureColor B-Series เป็นพรินเตอร์สำหรับการพิมพ์ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ เช่น แบนเนอร์ โปสเตอร์ ป้ายไฟต่างๆ ประกอบด้วย SC-B6070 เครื่องขนาด 44 นิ้วและ SC-B7070 ขนาด 64 นิ้ว ด้วยหัวพิมพ์ไมโคร ปิเอโซ แบบปิเอโซฟิล์มบาง TFP ให้ความละเอียดสูงถึง 720x1,440dpi และสามารถปรับระดับความเร็ว ได้ 30.6 ตารางเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งตลับหมึกของตัวเครื่องมีความจุถึง 1.5 ลิตรช่วยลดความถี่ในการเติมหมึก และเอปสันยังมีหมึกพิมพ์ชนิดเติมที่มีคุณภาพความทนทานสูง สามารถเก็บไว้นอกสถานที่โดยสีไม่ซีดจาง
Epson SureColor F-Series เป็นเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับงานพิมพ์ผ้าที่ต้องการชิ้นงานคุณภาพสูง โดยใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ Micro Piezo TFP ของเอปสัน ที่สามารถควบคุมการหยดน้ำหมึกในขนาดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เครื่องพิมพ์ทั้งสองรุ่นสามารถพิมพ์งานที่ความละเอียดสูงสุดถึง 720x1,440dpi และสามารถปรับระดับความเร็ว ได้ 30.6 ตารางเมตรต่อชั่วโมง ส่วนหมึกพิมพ์ที่ใช้คือ Epson UltraChromeDS ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยใช้เทคโนโลยี Dye-sublimation เพื่อให้ได้สีที่ดูมีชีวิตชีวา สีดำที่ดำสนิท เส้นขอบที่คมชัด และสามารถไล่ระดับเฉดสีต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
“สำหรับ Epson UltraChrome DS เป็นเทคโนโลยีสีที่ทันสมัย เพราะหมึกจะอยู่บนเนื้อผ้าที่สัมผัสตัวผู้สวมใส่อยู่ตลอดเวลา เอปสันจึงต้องใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัย สีนี้มีคุณสมบัติของ Safe Pigment Formulation ซึ่งปราศจากสารตะกั่วและสารประกอบฟลูออไรด์ ไม่สร้างความระคายเคืองต่อผิวหนัง มีความทนทานต่อความเป็นกรดและด่างในเหงื่อของผู้สวมใส่ ทั้งยังทนทานต่อแสงแดดและการซักล้าง และยังแห้งเร็วอีกด้วย” นายยรรยง กล่าวเสริม
นอกจากนี้ เครื่องพิมพ์ทั้ง 4 รุ่น เป็นเครื่องหน้ากว้างติดแท็งค์แท้ โดยทุกชิ้นออกแบบและผลิตจากโรงงานของเอปสัน ทำให้ลูกค้ามั่นใจในประสิทธิภาพและคุณภาพของเครื่องได้เต็มที่ ระบบแท็งค์ที่สามารถจุน้ำหมึกได้ถึง 1.5 ลิตร ช่วยให้พิมพ์งานได้จำนวนมาก และลดความถี่ในการเปลี่ยนหมึกพิมพ์ พร้อมชุดหมึกพิมพ์ชนิดรีฟิลล์ที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ
นายยรรยง กล่าวเพิ่มเติมว่า “หากมองถึงโอกาสทางการขายของ SureColor F-Series และ B-Series แล้ว เอปสันมีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการอย่างรวดเร็ว และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะพิจารณาจากจำนวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มในเมืองไทยและผู้ประกอบการงานพิมพ์ป้ายต่างๆ มีจำนวนมาก อีกทั้งการเปิดเสรีอาเซียนในอีก 2 ปี จะทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องพบกับการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ต้องยกระดับความสามารถในการผลิต และต้องปรับตัวเป็นผู้ผลิตที่มีการออกแบบสินค้า หรือมีแบรนด์เป็นของตนเอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความได้เปรียบในการแข่งขัน”
“นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีความต้องการที่จะยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศให้เป็นผู้นำแฟชั่นในภูมิภาคนี้ ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพถูกผลักดันให้รุกเข้าสู่ตลาดส่งออกมากขึ้น สินค้าต้องมีความหลากหลายเหมาะกับผู้ซื้อในตลาดต่างๆ ดีไซน์ต้องมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ตกเทรนด์” นายยรรยง กล่าวสรุป
ติดต่อ:
เอปสัน ฮอทไลน์
02-685-9899