“PAE”มาแรงลูกค้าเดิมต่อสัญญา 3 ปี คาดกวาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 720 ล้านบาท พร้อมลุ้นรับงานใหม่มูลค่ากว่าพันล้าน มั่นใจผลการดำเนินงานทั้งปีสวยหรู

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 15, 2013 11:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--ธามดี พลัส “PAE”ลูกค้าเดิมต่อสัญญาเพิ่ม 3 ปี คาดโกยรายได้ไม่ต่ำกว่า 720 ล้านบาท พร้อมส่งซิกลุ้นรับงานใหญ่มูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท ระบุหากได้จะทำให้มูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog)พุ่งทะยานเท่าตัวมั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้ดีกว่าปีก่อน วางเป้าผลการดำเนินงานระยะยาว 3 ปี (2557-2559) รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% นายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเออี(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE ผู้ให้บริการงานออกแบบวิศวกรรมครบวงจรในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมีรวมถึงงานระบบไฟฟ้าโรงงาน และงานระบบทดสอบแบบไม่ทำลาย เปิดเผยว่าบริษัทได้รับการต่อสัญญากับบริษัท เซฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ระยะเวลา 3 ปี โดยบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการออกแบบก่อสร้างงานเหล็กและท่อ การจัดหาบุคคลากร วัสดุอุปกรณ์ และการติดตั้ง ในฐานแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทดังกล่าว “ทั้ง 2 บริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน โดยมีการลงนามสัญญาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2540 และมีการต่ออายุสัญญามาเรื่อยจนถึงปัจจุบันนับเป็นระยะเวลากว่า 16 ปีมาแล้ว ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากการรับงานดังกล่าวประมาณเดือนละ 20 ล้านบาท และจากระยะเวลาของอายุสัญญา บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากงานดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 720 ล้านบาท” นายรัตนพล กล่าว นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการรอผลการประมูลโครงการใหญ่ มูลค่างานมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลการประมูลในช่วง 1-2 เดือนนี้ และหากบริษัทได้งานดังกล่าวจะส่งผลให้มูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ของบริษัทขยับพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัว โดยปัจจุบันมีมูลค่างานในมืองานที่รอรับรู้รายได้ ประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้กว่า 500 ล้านบาท นายรัตนพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานปี 2556 บริษัทยังคงตั้งเป้าว่าจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ ส่วนหนึ่งมาจากมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ที่งานส่วนใหญ่เป็นงานทางด้าน Oil and Gas ที่มีอัตราการทำกำไร(Net Profit Margin) ที่ค่อนข้างสูงกว่างานก่อสร้างทั่วไปทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าผลการดำเนินงานระยะยาว 3 ปี(2557-2559) รายได้ของบริษัทจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% “บริษัทยังคงเชื่อว่าผลการดำเนินงานทั้งปีจะดีขึ้นกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน เพราะงานในปัจจุบันมีมาร์จิ้นดีและงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ มีการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วและหากการส่งมอบไม่มีปัญหาการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญดังกล่าวก็มีโอกาสกลับคืนมาเป็นรายได้ ขณะเดียวกันงานใหม่ที่บริษัทรับเข้ามาก็ไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม เชื่อว่าสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทในปัจจุบันเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในปีนี้” นายรัตนพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ