กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“พีทีจี” ลงทุนเปิดคลังน้ำมันแห่งใหม่ในพิษณุโลก ซึ่งเป็นคลังน้ำมันแห่งที่ 8 เพื่อรองรับการขยายตัวไปยังแถบภาคเหนือฝั่งตะวันออก โดยหวังว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้และการบริการที่ครอบคลุมพื้นที่ในภาคเหนือมากยิ่งขึ้น
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมลงทุนเปิดคลังน้ำมันแห่งใหม่ในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งถือเป็นคลังน้ำมันแห่งที่ 8 จากเดิมที่มีอยู่ 7 แห่ง ประกอบไปด้วยลำปาง ขอนแก่น สระบุรี นครราชสีมา (อ. ปักธงชัย) สมุทรสงคราม ชุมพร และนครศรีธรรมราช โดยคาดว่าสามารถให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมกราคม ปี 2557
ทั้งนี้ คลังน้ำมันแห่งที่ 8 ในจังหวัดพิษณุโลกนี้ มีขนาดปริมาณความจุน้ำมันทั้งสิ้น 7 ล้านลิตร โดยสามารถรองรับปริมาณน้ำมันหมุนเวียนเพื่อการจำหน่ายผ่านคลังน้ำมันแห่งนี้สูงสุดได้ถึง 50 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในเขตภาคเหนือโซนตะวันออก โดยมีจังหวัดที่รับน้ำมันจากคลังพิษณุโลก 7 จังหวัด ดังต่อไปนี้ เชียงราย พะเยา อุตรดิตถ์ น่าน พิษณุโลก สุโขทัย และแพร่
โดยคลังน้ำมันที่พิษณุโลกจะทำหน้าที่รับผิดชอบครอบคลุมสถานีบริการน้ำมันพีที ทั้งสถานีบริการน้ำมันที่บริษัทบริหารเอง (สถานีบริการน้ำมัน COCO) และสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของบริษัท (สถานีบริการน้ำมัน DODO) รวม 60 สถานี
“จากการที่บริษัทฯ มีแผนจะเปิดคลังน้ำมันแห่งใหม่เพื่อให้ครอบคลุมการบริการทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากสำรวจแล้ว บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเปิดให้บริการคลังน้ำมันแห่งใหม่ในเขตภาคเหนืออีกหนึ่งแห่งนอกเหนือจากลำปาง ซึ่งพื้นที่ที่เหมาะสมคือจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้การบริการในส่วนของภาคเหนือฝั่งตะวันออก และคาดว่าการเปิดคลังน้ำมันแห่งใหม่นี้ จะช่วยให้ทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้น และระบบการขนส่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
นายพิทักษ์ กล่าวว่า นอกจากการเพิ่มจำนวนคลังน้ำมันที่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆเพื่อรองรับการเติบโต และการเพิ่มของปริมาณยอดขายแล้วนั้น ส่วนของการขยายสาขาของสถานีบริการน้ำมันพีทีก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยในขณะนี้ บริษัทฯ ได้เปิดบริการเกินกว่า 700 สาขาทั่วประเทศแล้ว และในส่วนของการขยายสาขาตามที่ตั้งเป้าไว้ 155 สาขา ในปีนี้นั้น บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการไปแล้ว 142 สาขา โดยแบ่งเป็น สถานีบริการน้ำมัน COCO จำนวน 122 สาขาและสถานีบริการน้ำมัน DODO จำนวน 20 สาขา อย่างไรก็ดี ในส่วนของการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้