กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,274 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,268 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด31.27 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท และกลับมาปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,943 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,248 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.3% แบบ10 บาท ลดลง 2.6% GFV13 ปิด 18,840 บาท และGFZ13 ปิด 18,900 บาท GF10V13 ปิด 18,820 บาท GF10Z13 ปิด 18,870 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,273.20 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 16.3 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.191 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDRถือครองทองคำ 889.13 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 101.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 133.25 จุด ปิดที่ 15,168.01 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ทองคำปรับตัวลงและมีดีดตัวกลับขึ้นในช่วงบ่าย เนื่องจากสองพรรคใหญ่ยังคงไม่สามารถที่จะยุติเรื่องเพดานหนี้ได้ตามที่ตลาด คาดว่าจะสิ้นสุดลงในวันอังคารที่ผ่านมาส่งผลกดดันตลาดหุ้นและทองคำ
จิม เวคคอฟ นักวิเคราะห์จากคิทโก้ระบุว่า ทองคำปิดตัวเหนือกว่าแนวรับที่แข็งแกร่งที่ระดับ 1,250 เหรียญ/ออนซ์ได้ซึ่งแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ระดับ1,300เหรียญ/ออนซ์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯจากระดับ AAA สู่ผลเชิงลบ หากว่าสหรัฐฯไม่สามารถแก้ไขปัญหาเพดานหนี้ได้อย่างเหมาะสมก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 17 ต.ค. นี้ส่งผลให้เกิดแรงเทขายดอลลาร์ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงบ่ายของตลาดลอนดอนเป็นต้นมา
รายงานจากคิทโก้ระบุว่า จากที่นางเจเน็ต แยลเลนจะได้รับเข้าตำแหน่งหน้าที่ประธานเฟดหญิงในปีหน้าแทนนาย เบน เบอร์นันเก้ก็ได้ให้สัญญาณเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจบางส่วนทำให้ตลาดทองคำ และหุ้นนั้นคาดว่าปีหน้าตลาดน่าจะเป็นภาวะกระทิงขาขึ้นอีกครั้ง
ตลาด ทองคำในจีนยังคงให้ความสำคัญกับข่าวเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯที่ยังไม่ สิ้นสุดซึ่งนักลงทุนส่วนมากกล่าวว่าค่อนข้างเป็นกังวลเนื่องจากทองคำนั้นมี การแกว่งตัวเป็นรูปแบบหุ้นตัวหนึ่งซึ่งก่อนหน้านี้ราคานั้นอยู่ระดับสูงมา ตลอด
สำหรับประเทศอินเดียแม้ว่าทองคำจะดีดตัวสูงขึ้นแต่ขาดแรงความสนใจในตลาดเพราะยังติดกับเทศกาลทางศาสนาใหญ่ของประเทศ
วิลเลียม ดัดเล่ย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก เผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Manufacturing Index) ประจำเดือนตุลาคมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.52 จากเดิม 6.3 ในเดือนก่อนหน้า และน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.2 แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตในเขตนิวยอร์กขยายตัวช้าลง เพราะได้รับผลกระทบจากการจ้างงานที่ชะลอตัวลง
ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงในระหว่างวัน เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการบรรลุข้อตกลง เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.31 เยน จากระดับ 98.45 เยน
โอบามายังคงยืนกรานที่จะเพิ่มเพดานหนี้จำนวน16.7ล้านล้านเหรียญ สหรัฐฯโดยปราศจากเงื่อนไขใดที่จะเพิ่มเติมและจะแก้ไขปัญหาเรื่องช่องโหว่ของ ใบเสร็จค่าใช้จ่ายภายใต้นโยบายอิสระ
ทางฝ่ายรีพับลีกันได้ถือเสียงครองมากกว่าด้วยผลโหวต 232:200 ก็ตาม แต่ก็ถือว่ายากลำบากจากการยืนกรานในเรื่องโครงการโอบามาแคร์
แมคคอนแนล วุฒิสภาอาวุโสของสหรัฐฯ กล่าวว่า สถานการณ์การออกคะแนนเสียงในสภานั้นผลโหวตอาจสิ้นสุดในวันที่18ตุลาคมถ้าไม่ ผ่านเรื่องเพดานหนี้ไปได้สหรัฐฯอาจมีการผิดนัดชำระหนี้ในช่วงวันที่22-31 ตุลาคม
กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปและออสเตรเลียนั้นแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้นจากตัวเลข GDP ที่เป็นไปตามการรายงานทางด้านเศรษฐกิจของเฟดสหรัฐฯเช่นกัน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงหลังการซื้อขายที่ผันผวนเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการหารือด้านการคลังในสหรัฐ
ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ปรับตัวลง จากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อหาทางยุติปัญหาการคลังของสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 6.3 ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 1.5
ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- ECB President Draghi Speaks
- Beige Book
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวตามทิศทางของข่าวที่เข้ามาเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงไปทำต่ำสุด 1,254 เหรียญ โดยประมาณทดสอบแนวรับแรกที่ 1,250 เหรียญ อย่างไรก็ดีในช่วงตลาดลอนดอนข่าวการที่ผลการประชุมยังไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจน ทำให้ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมา โดยดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันได้ที่ประมาณ 1,288 เหรียญในช่วงหลังเที่ยงคืน และเช้าวันนี้ก็ย่อตัวกลับมาบริเวณ 1,280 เหรียญ โดยที่วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ และพรุ่งนี้จะเป็นวัน Dead Line ของ Debt Ceiling ทำให้ไม่รู้ว่าจะสามารถตกลงกันได้แค่ไหน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมีลักษณะของการตกลงและเป็น Technical Rebound โดยแนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1,290 เหรียญ ในขณะที่แนวรับด้านล่างอยู่ที่ 1,250 เหรียญ ราคายังคงเคลื่อนตามข่าว ซึ่งยังคาดว่าน่าจะรอผลจนถึงคืนพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ ในเชิงเทคนิคแนวต้าน 1,300 เหรียญ ถือว่ามีความแข็งแกร่งมาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับข่าวที่เข้ามาว่าจะเป็นอย่างไร
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เป็นลักษณะ Wait&See รอข่าว ทำ Short Position บริเวณ 1,285 เหรียญขึ้นไป ให้ติดตามข่าวใกล้ชิดและ มี Stop Loss อยู่ในใจ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำให้ปิดสถานะ Long ยังมองว่าระยะกลาง และระยะยาวเป็นขาลง
- นักลงทุนที่ถือ Short Position ปิดทำกำไร และหาจังหวะเปิดสถานะ Short เมื่อราคาเหนือ 1,285 เหรียญขึ้นไป
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,960 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,160 บาท
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,220 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง