กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2556 ถึงปัจจุบันเกิดสถานการณ์อุทกภัยรวม 45 จังหวัด 351 อำเภอ 2,183 ตำบล 17,245 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,112,216 ครัวเรือน 3,643,040 คน คิดเป็นร้อยละ 5.65 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ บ้านเรือนเสียหาย 31,523 หลัง ถนน 5,967 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,571,038 ไร่ ผู้เสียชีวิต 61 ราย ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 23 จังหวัด นยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 22 จังหวัด 93 อำเภอ 606 ตำบล 4,414 หมู่บ้าน 276,253 ครัวเรือน 809,107 คน อพยพ 3,586 ครัวเรือน 7,376 คน ในจังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
นายกฯ สั่งการ ปภ.เตรียมพร้อมรับมือพายุ “นารี”
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า พายุไต้ฝุ่นนารีได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้ว และในวันพรุ่งนี้ (16 ตุลาคม 2556) จะอ่อนกำลังลงเป็นความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย อาจส่งผลให้เกิดฝนตกและลมแรงในพื้นที่ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีห่วงผลกระทบจากพายุนารี สั่งการกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานทุกภาคส่วนและจังหวัดเตรียมรับมือ โดยจัดเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังสถานการณ์ และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและลมแรง
นายกฯ กำชับ ปภ.ประสานอำนวยความสะดวกในการเดินทางและเร่งซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหาย
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย และติดตั้งป้ายเตือนอันตรายในเส้นทางที่มีน้ำท่วมสูง พร้อมจัดเรือให้บริการด้านการสัญจรแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ในส่วนของถนนที่ได้รับความเสียหาย ให้ประสานกระทรวงคมนาคม กระทรวงกลาโหม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งซ่อมแซมถนน ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว
นายกฯ สั่งการ ปภ.ประสาน จว.อุทกภัยคลี่คลายเร่งสำรวจพื้นที่-ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย โดยเฉพาะในส่วนของบ้านเรือน ทรัพย์สิน และพื้นที่การเกษตร รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ตามหลักเกณฑ์และระเบียบกระทรวงการคลังฯ อาทิ กรณีบ้านเรือนเสียหาย จ่ายค่าวัสดุซ่อมแซมและก่อสร้างที่อยู่อาศัย หลังละไม่เกิน 33,000 บาท กรณีมีผู้เสียชีวิต จ่ายค่าจัดการศพรายละไม่เกิน 25,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือผู้หารายได้เลี้ยงครอบครัวจ่ายเงินสงเคราะห์เพิ่มอีก 25,000 บาท