กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--อินฟินิตี้ คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ คอนซัลส์แทนส์
โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ พร้อมจัดมหกรรมการแสดงเรือนานาชาติ “โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ 2556” (Ocean Marina Pattaya Boat Show 2013) สุดยิ่งใหญ่สานต่อเป็นปีที่ 2 ประกาศศักยภาพพัทยาสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยงานมหกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 — 24 พฤศจิกายน 2556 นี้ ณ โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ พัทยา ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประกาศกลยุทธ์เชิงรุกโปรโมทการท่องเที่ยว ไฮเอนด์ ผนึกกำลังกับภาคผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอ่าวไทย คาดการณ์นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 10% รับกระแสการเปิดตัวประชาคมอาเซียน
นางสุพัตรา อังควินิจวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เผยว่า “การจัดงาน โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 เนื่องจากมองเห็นว่า เทรนด์ของการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ทางทะเลในภูมิภาคเติบโตมากขึ้น โดยเห็นได้จากจำนวนเรือที่นำมาจอดในโอเชี่ยนมารีน่ามีมากขึ้นทุกปี ทำให้ต้องสร้างที่จอดเรือเพิ่มเติม คนไทยเริ่มมีการซื้อเรือมากขึ้น จากเดิมสัดส่วนของเรือที่จอดที่มารีน่านั้นเป็นของต่างชาติร้อยละ 80 และคนไทยร้อยละ 20 ในปีที่ผ่านมาสัดส่วนของเรือที่มีคนไทยเป็นเจ้าของนั้นสูงขึ้นถึงร้อยละ 38 ซึ่งเป็นดัชนีที่บ่งชี้ได้ว่า คนไทยมีไลฟ์สไตล์ทางทะเลมีเพิ่มมากขึ้นและมีแนวโน้มสูงขึ้น โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ พัทยา เป็นท่าจอดเรือยอช์ทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีศักยภาพพร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวรับประชาคมอาเซียน”
“ในปีที่ผ่านมางาน โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ ได้มีการสร้างรายได้กว่า 90 ล้านบาท สู่ธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลโดยภาพรวม ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จสำหรับการจัดงานในปีแรก ในปีนี้เรามีความมั่นใจว่า การจัดงานปีที่ 2 นี้จะเต็มไปด้วยคุณภาพและความยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ในปีนี้เราได้ขยายพื้นที่เพื่อรองรับจำนวนผู้มาร่วมงาน อีกทั้งปรับรูปแบบการจัดสถานที่ให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยพื้นที่สำหรับการจัดแสดงบนพื้นน้ำและบนพื้นชายฝั่งรวมกว่า 2,600 ตร.ม. ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดีในภาคธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเล ไม่ว่าจะเป็น เรือยอช์ทแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ซุปเปอร์ไบค์และซุปเปอร์คาร์ และอสังหาริมทรัพย์สุดหรู รวมถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องมากมาย”
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยนับเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาโดยเรือยอช์ท ทั้งกลุ่มที่เดินเข้ามายังประเทศไทยแล้วมีการเช่าเรือยอช์ทเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทยและกลุ่มที่เดินทางเชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศใกล้เคียง ซึ่งประเทศไทยของเรานั้นมีความพร้อมในการรองรับการเดินทางเข้ามาของเรือยอช์ท ดังจะเห็นได้จากความพร้อมของท่าเรือ (Marina) ที่ได้รับมาตรฐาน ระดับสากล ทั้งมาตรฐานการดูแลบำรุงรักษาเรือยอช์ท (Maintenance) ที่สร้างรายได้สู่ประเทศไทยจำนวนมหาศาลในแต่ละปี นับได้ว่าการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวกลุ่มเรือยอช์ทนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการค้าขายสินค้าและการบริการรวมถึงการจ้างงานของช่างเรือ ผู้มีฝีมือและมีทักษะจนเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักเดินเรือทั่วโลก
ทั้งนี้แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างพัทยา มีอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวทางทะเลมากขึ้น เนื่องจากมีฮับคือ โอเชี่ยนมารีน่า ยอช์ท คลับ ซึ่งเป็นมารีน่ามาตรฐานระดับโลกเป็นศูนย์กลางของการให้บริการต่างๆ และนอกจากนั้น กลุ่ม Yacht broker ในประเทศไทย ได้คาดการณ์ว่า จำนวนของเรือยอช์ทที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 31.25 หรือ จะมีเรือยอช์ทประมาณ 2,100 ลำเดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทยภายในปี 2558
หากพิจารณาถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ พบว่า การเข้ามาของนักท่องเที่ยวในกลุ่มเรือยอช์ทนี้ เป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยว High-end ซึ่งมีพฤติกรรม การใช้จ่ายต่อคนต่อวัน ที่ค่อนข้างสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ดังสังเกตได้จากพฤติกรรม การเข้าพักในโรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาว พฤติกรรมการเลือกร้านอาหารที่หรูหรา มีความเป็นส่วนตัว รวมถึงสินค้าที่นักท่องเที่ยวกลุ่มเรือยอช์ทนี้มักมีการจับจ่ายสินค้าที่มีราคาสูง เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับและอัญมณี ตลอดทั้งมีระยะเวลาในการพำนักในประเทศไทย มากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป
จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และข้อมูลที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ในแต่ละปีจะมีเรือซุปเปอร์ยอช์ทมาท่องเที่ยวในไทยปีละ 110 ลำ ซึ่งนับได้ว่า เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวมียอดการใช้จ่ายทางด้านการท่องเที่ยวมากที่สุด โดยคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 190 ลำ ภายในปี 2558 ซึ่งมีการเติบโตสูงถึงร้อยละ 72.72 ซึ่งหมายถึงจะเป็นการสร้างรายได้จำนวนมากให้กับการท่องเที่ยวทะเลของไทย
ทั้งนี้แหล่งท่องเที่ยว 3 แหล่งหลักชายฝั่งทะเลอ่าวไทย คือ พัทยา หัวหินและเกาะสมุย ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ดังกล่าวเฉลี่ยประมาณปีละ 8.5 ล้านคน โดยมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นทุกปี กว่าร้อยละ 10 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านอาทิ พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา สิงคโปร์และจีน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงมาก
โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ 2556 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2556 ณ โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจและผู้ประกอบการธุรกิจด้านเรือและการท่องเที่ยวทางทะเล ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องและไลฟ์สไตล์ทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมออกแสดงสินค้าและบริการมากกว่า 100 ราย และคาดมีผู้เข้าชมงานกว่า 3,000 คน จากไทยและนานาประเทศ นอกจากการแสดงเรือยอช์ทสุดหรูแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ อีกมากมาย อาทิ กิจกรรมบนชายหาด กิจกรรมกีฬาทางน้ำ กิจกรรมนันทนาการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นร่วมทดสอบและสัมผัสการล่องเรือยอช์ทหรูฟรี การพายเรือคายัครุ่นใหม่ล่าสุด การแข่งขันเรือ Dragon Boat พร้อมลุ้นรับของรางวัลจากสินค้าแบรนด์ดังภายในงาน ดื่มด่ำเทศกาลอาหารและวงดนตรีสดและเพลิดเพลินบรรยากาศเทศกาลเบียร์ในสวนริมทะเล
ผู้สนใจเข้าร่วมจองพื้นที่แสดงสินค้าและบริการ ในงานมหกรรมการแสดงเรือนานาชาติ แสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์เรือและกีฬาทางน้ำประจำปี 2556 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณพัชราภรณ์ ศิริทรัพย์วงศ์ (สนง.กรุงเทพฯ) อีเมล์ patcharaporn@oceanproperty.co.th หรือ
มิสเตอร์สก็อต ฟินสเตน (สนง.พัทยา) อีเมล์ scott.finsten@oceanmarinayachtclub.com
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับงานได้ที่ เว็บไซต์ www.oceanmarinaboatshow.com
เฟสบุ๊ค www.facebook.com/oceanmarinaboatshow