กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
“ไทคอน” เตรียมออก “กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท” หรือ TGROWTH มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท เผยเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดินและในอาคารโรงงานของไทคอน รวมจำนวน 40 โรง ขนาดพื้นที่รวมประมาณ 121,175 ตารางเมตร และสิทธิการเช่าในที่ดินและในอาคารคลังสินค้าของทีพาร์ค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไทคอน จำนวน 50 ยูนิต ขนาดพื้นที่รวมประมาณ 182,095 ตารางเมตร ระบุเป็นการผสมผสานทรัพย์สินที่มีศักยภาพ และมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต เนื่องจากทรัพย์สินอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ของภาคการผลิตและโลจิสติกส์ที่สำคัญ
นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดตั้ง “กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท” หรือ TGROWTH มีจำนวนเงินทุนของโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะแบ่งทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนครั้งแรกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การลงทุนครั้งแรกส่วนที่ 1 กองทุนรวมจะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารโรงงานของ บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (ไทคอน) เป็นระยะเวลา 30 ปี รวมเป็นจำนวน 38 โรง และสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารคลังสินค้าของบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด (ทีพาร์ค) เป็นระยะเวลา 30 ปี รวม 50 ยูนิต ซึ่งจะใช้แหล่งเงินลงทุนจากการระดมทุนโดยการเสนอขายหน่วยลงทุนต่อนักลงทุนเป็นครั้งแรก และการลงทุนครั้งแรกส่วนที่ 2 กองทุนรวมจะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดินและในอาคารโรงงานของไทคอน เป็นระยะเวลา 30 ปี เพิ่มเติมอีก 2 โรง ซึ่งจะใช้แหล่งเงินลงทุนจากเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนครั้งแรกส่วนที่ 1 กองทุนจะลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดินและในอาคารคลังสินค้า จำนวน 43 ยูนิต ที่โครงการโลจิสติคส์ พาร์ค บางนา และ 7 ยูนิต ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร (บางปะกง) รวมพื้นที่คลังสินค้าประมาณ 182,095 ตร.ม คิดเป็นร้อยละ 57 ของทรัพย์สินที่กองทุนรวมจะเข้าลงทุนครั้งแรกส่วนที่ 1 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 43 จะลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดินและในอาคารโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม รวม 5 แห่ง จำนวน 38 โรง รวมพื้นที่โรงงานประมาณ 104,225 ตร.ม ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 168 ไร่ ได้แก่ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร(บางปะกง) 20 โรง สวนอุตสาหกรรมโรจนะ 7 โรง นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 โรง นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) 4 โรง และที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม นวนคร 2 โรง และในส่วนของการลงทุนครั้งแรกส่วนที่ 2 กองทุนจะลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารโรงงานจำนวน 2 โรง ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้
“จุดเด่นของ TGROWTH ซึ่งเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) อยู่ที่ทรัพย์สินที่กองทุนรวมจะเข้าลงทุนนั้นประกอบด้วยโรงงานและอาคารคลังสินค้าให้เช่าแบบมาตรฐานที่มีคุณภาพสูง ซึ่งการกระจายประเภทของธุรกิจที่กองทุนรวมจะเข้าลงทุนนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจโรงงานให้เช่าหรือคลังสินค้าให้เช่าอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว ทรัพย์สินที่เข้าลงทุนยังเป็นโรงงานและคลังสินค้าที่ใหม่
โดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 2 ปี 4 เดือน1 ทั้งยังมีความทันสมัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ผู้เช่าส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทต่างชาติชั้นนำและประกอบกิจการในอุตสาหกรรมที่มีการเจริญเติบโตสูง ซึ่งส่งผลถึงโอกาสสร้างความมั่นคงทางรายได้ค่าเช่าของทรัพย์สิน” นายวีรพันธ์กล่าว
ด้านนางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุน กล่าวว่าขณะนี้กองทุนรวมนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทรัพย์สินที่กองทุน TGROWTH เข้าลงทุนตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านภาคการผลิตและการกระจายสินค้าที่สำคัญของประเทศ โดยตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรมและเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศไทย ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) นอกจากนี้ กองทุนรวมยังจะได้รับประโยชน์จากการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมถึงการเพิ่มศักยภาพของระบบขนส่งของประเทศ ที่จะช่วยเพิ่มความต้องการใช้อาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า
“ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาทั้งไทคอนและทีพาร์ค นับได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าของประเทศไทยที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญอีกประการหนึ่งของกองทุน TGROWTH ดังนั้น จึงเชื่อว่ากองทุน TGROWTH ซึ่งเป็นการผสมผสานทรัพย์สินระหว่างอาคารโรงงานและอาคารคลังสินค้า และเป็นการผนึกความแข็งแกร่งของไทคอนและทีพาร์ค จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน กองทุน TGROWTH ยังมีนโยบายลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนในอนาคต” นางโชติกากล่าว และยังเสริมอีกด้วยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นับเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น มีโอกาสให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ขณะที่กองทุนรวมมีโอกาสจะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าเช่าด้วย
หมายเหตุ
1. อายุเฉลี่ยของทรัพย์สิน โดยไม่รวมถึงทรัพย์สินที่กองทุนจะเข้าลงทุนครั้งแรกส่วนที่ 2 คิดเป็นประมาณ 2 ปี4 เดือน ณ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ที่มา: ไทคอนและทีพาร์ค
คำเตือน
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
- การเสนอขายหลักทรัพย์จะกระทำเมื่อบริษัทจัดการได้รับอนุมัติให้จัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และได้จัดให้มีและแจกจ่ายหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญตามที่ได้รับอนุมัติแก่ผู้ลงทุน