บลจ. ทิสโก้ เฮอีกรอบ! ปิดกองทริกเกอร์หุ้นสหรัฐฯ เข้าเป้า 8% ขึ้นแท่นผู้นำกองทริกเกอร์ ทั้งหุ้นนอก-หุ้นไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 21, 2013 14:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป บลจ. ทิสโก้ พิสูจน์ฝีมือบริหารกองทริกเกอร์เข้าเป้าต่อเนื่อง ล่าสุดปิดกองหุ้นสหรัฐฯ “ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%” เข้าเป้าหมาย 8% ก่อนกำหนด หลังดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รับเจรจาเพดานหนี้สหรัฐฯ สำเร็จ ชี้มองหุ้นสหรัฐฯ Top Pick มาโดยตลอด ตอกย้ำภาพผู้นำตลาดกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่มีครบทั้งหุ้นไทยและต่างประเทศ บริหารเข้าเป้าหมาย 17 กองทุนรวดในช่วง 2 ปี นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, First Senior Vice President, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า จากที่ บลจ.ทิสโก้ ได้เสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 1” (TISCO US Equity Trigger 8% Fund # 1) ซึ่งเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR S&P 500 ETF เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 ซึ่งจะสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดหากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) มากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท โดยเสนอขายไปในช่วง ปลายเดือนเม.ย. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ณ วันที่ 17 ต.ค. 56 กองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8% โดย NAV อยู่ที่ 10.8085 บาท ทำให้เข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการได้ก่อนกำหนด โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 5 เดือนกว่าเท่านั้น แสดงถึงความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการกองทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้สามารถปิดกองทุนได้ก่อนครบกำหนด คือ สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ชัดเจนขึ้น จากเดิมที่ในตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการผ่านร่างงบประมาณและการขยายเพดานหนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจลดขนาดหรือยกเลิก QE (QE Tapering) อีกทั้งได้สร้างความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามปัญหาได้คลายความกังวลลงแล้วจากการที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณและเพิ่มเพดานหนี้ (ข้อตกลงในการการจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. และปรับเพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 ก.พ.) และเตรียมส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาอนุมัติ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ที่ระดับ 1,733.45 จุด (ณ 17 ต.ค. 56) และจากสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงต่อจากนี้นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและน่าจะช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่ง บลจ. ทิสโก้ มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็น Top pick มาโดยตลอดในช่วงที่ผ่านมา นายสาห์รัช กล่าวว่า ผลการดำเนินงานกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ของ บลจ.ทิสโก้ ในช่วง 2 ปีนี้ ถือว่ามีความโดดเด่นมาก โดยสร้างผลตอบแทนเข้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวนถึง 17 กองทุนรวด ทั้งกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยและกองทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 1 นี้ด้วย โดยสถิติในการบริหารกองทุนเข้าเป้าหมายที่เร็วที่สุดใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงมุมมอง การตัดสินใจ และการเลือกจังหวะในการเสนอขายและเข้าลงทุนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากหัวใจของการลงทุนประเภทนี้อยู่ที่ช่วงจังหวะที่เหมาะสม หากเลือกจังหวะพลาดอาจทำให้ไม่ได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายและภายในระยะเวลาที่คาดหวังไว้ ซึ่งผลงานที่ปรากฎของ บลจ.ทิสโก้ ได้พิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำในตลาดนี้ “บลจ.ทิสโก้ ยังคงเดินหน้าตอบโจทย์การลงทุน เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านกองทุนรวมที่มีหลากหลายนโยบายการลงทุน ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ในช่วงหวะเวลาที่เหมาะสม พร้อมเดินหน้าให้บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน จัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจกองทุนรวมอย่างต่อเนื่อง” นายสาห์รัช กล่าว สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4 การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ