กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ไอบีเอ็ม
อัดฉีดระบบวิเคราะห์ข้อมูลเข้าไว้ในผลิตภัณฑ์คลาวด์รุ่นใหม่เพื่อช่วยองค์กรผลักดันการพลิกโฉมธุรกิจลงทุน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐเข้าซื้อกิจการซอฟต์เลเยอร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีระบบคลาวด์ที่เหนือชั้น
ด้วยการพัฒนาต่อยอดจากการเข้าซื้อกิจการของซอฟต์เลเยอร์ มูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไอบีเอ็มเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีทางด้านคลาวด์และระบบวิเคราะห์ข้อมูลอนาไลติกส์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าผลักดันการปฏิรูปธุรกิจและขยายกิจการให้เติบโต
ภายใต้การขยายธุรกิจนี้ ไอบีเอ็มได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในส่วนของโซเชียลบิสซิเนส และโมบายล์ สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นซอฟต์แวร์ในรูปแบบบริการ (Software-as-a-Service — SaaS) ซึ่งผสานเทคโนโลยีด้านคลาวด์ไว้กับผลิตภัณฑ์จากซอฟต์เลเยอร์เข้าไว้ในตัว พร้อมระบบสำหรับรองรับการประมวลผลบนไฮบริดคลาวด์
ในยุคใหม่ของการประมวลผล โอกาสสำหรับเทคโนโลยีคลาวด์มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ที่จริงแล้ว เป็นที่คาดการณ์ว่าร้อยละ 60 ขององค์กรทั้งหมดจะปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งในช่วงปีนี้ ตามข้อมูลจากการ์ทเนอร์ รีเสิร์ช นอกจากนี้ GigaOm Research คาดการณ์ว่าจะมีการลงทุน 158 พันล้านเหรียญสหรัฐในระบบคลาวด์คอมพิวติ้งทั่วโลกภายในปี 2557
ไอบีเอ็มใช้ซอฟต์เลเยอร์เป็นฐานสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์คลาวด์
นับตั้งแต่ไอบีเอ็มเข้าซื้อกิจการ ซอฟต์เลเยอร์ก็ได้มีลูกค้าใหม่เพิ่มเติม 1,600 ราย จากฐานลูกค้าที่มีอยู่แล้ว 21,000 รายใน 140 ประเทศ พร้อมกันนนี้โครงสร้างพื้นฐานหรืออินฟราสตรัคเจอร์ของซอฟต์เลเยอร์จะเป็นรากฐานสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์คลาวด์ของไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มได้เริ่มนำความเปลี่ยนแปลงสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์คลาวด์โดยย้ายไปสู่โครงสร้างพื้นฐานซอฟต์เลเยอร์ เช่น แพลตฟอร์ม IBM Social Learning ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับระบบโซเชียล โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Smarter Workforce และได้ถูกนำไปใช้งานแล้วภายใต้ชื่อ OpenPediatrics โดยโรงพยาบาลเด็กบอสตัน ครอบคลุมโรงพยาบาล 420 แห่ง ใน 78 ประเทศจาก 6 ทวีป
ทั้งนี้แพลตฟอร์ม IBM Social Learning บนเทคโนโลยีของซอฟต์เลเยอร์ สามารถประยุกต์ใช้ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ค้าปลีก พลังงานและสาธารณูปโภค ภาครัฐ การแพทย์ และยานยนต์ การผสานรวมเทคโนโลยีของซอฟต์เลเยอร์เข้ากับระบบคลาวด์ของไอบีเอ็มจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญผ่านทางวิดีโอแบบเรียลไทม์บนระบบการประมาวลผลไฮบริดคลาวด์ ตัวอย่างเช่น แพทย์ที่โรงพยาบาลเด็กบอสตันสามารถแชร์วิดีโอการฝึกอบรมให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในอีกฟากหนึ่งของโลก เพื่อสาธิตเทคนิคใหม่ล่าสุดในการช่วยชีวิตผู้ป่วยเด็ก แพลตฟอร์มใหม่นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนธันวาคม
"เราเชื่อว่าระบบคลาวด์จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทรานส์ฟอร์มหรือปรับรูปแบบซึ่งจะผลักดันให้เกิดการเติบโตขององค์กรธุรกิจ” เจษฎา ไกรสิงขร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว “ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดในปัจจุบัน ไอบีเอ็มมุ่งมั่นพัฒนากลยุทธ์คลาวด์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอเครื่องมือสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมธุรกิจให้แก่ผู้บริหารที่มีหน้าที่กำหนดวิสัยทัศน์ขององค์กรโดยตรง”
การสร้างสรรค์นวัตกรรม SaaS สำหรับโซเชียล โมบายล์คราวด์ซอร์สซิ่ง และการจัดการสินค้าในธุรกิจค้าปลีก
ด้วยการพัฒนาต่อยอดจากแอพพลิเคชั่น SaaS กว่า 100 รายการที่นำเสนอให้แก่ลูกค้าในปัจจุบัน บริการ SaaS ใหม่จากไอบีเอ็มที่สามารถปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของผู้บริหารสายงานธุรกิจ เช่น สายงานการตลาด ทรัพยากรบุคคล และเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
สำหรับการขยายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Smarter Workforce ไอบีเอ็มได้เปิดตัว IBM Mobile Feedback App ซึ่งเป็นโมบายล์แอพพลิเคชั่นบนระบบคลาวด์ที่ช่วยฝ่ายทรัพยากรบุคคลและสายงานธุรกิจ เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายวิจัย สามารถเข้าถึงความคิดเห็นของพนักงานได้อย่างรวดเร็ว ผู้บริหารจึงสามารถใช้เสียงสะท้อนเหล่านี้มาช่วยตัดสินใจร่วมกับข้อมูลด้านอื่นๆอย่างผลการปฏิบัติงาน อัตราการรักษาบุคลากร และการมีส่วนร่วมของพนักงาน
แอพพลิเคชั่นใหม่ IBM Survey Analytics ซึ่งมีวางจำหน่ายแล้ว ใช้ระบบวิเคราะห์อนาไลติกส์สำหรับข้อมูลในรูปแบบข้อความและภาพที่ีมาจากแบบสำรวจความคิดเห็นของพนักงาน ซึ่งรวมถึงข้อคิดเห็นหรือคอมเม้นต์กว่า 4.2 ล้านรายการที่รวบรวมได้เป็นรายปี ผ่านการสำรวจความคิดเห็นที่ดำเนินการโดย Kenexa จากนั้นก็แสดงผลหรือแนวโน้มที่ประมวลได้ในรูปแบบ “ฮีท แมพ” (Heat Map) โดยแยกตามกลุ่มย่อยของพนักงาน ช่วยให้ผู้บริหารสามารถใช้ประโยชน์จากพลังขององค์กร เพื่อปรับปรุงผลการปฏิบัติงานและขวัญกำลังใจ
นอกเหนือจากซอฟต์แวร์และบริการใหม่ๆ แล้ว ไอบีเอ็มยังได้เปิดตัว IBM SmartCloud for Social Business บนโครงสร้างพื้นฐานระดับชั้นนำของซอฟต์เลเยอร์ในดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ที่อัมสเตอร์ดัม
สำหรับระบบคลาวด์ใหม่ที่ใช้ในการจัดการสินค้าสำหรับธุรกิจค้าปลีก ได้แก่ เทคโนโลยีในการช่วยเพิ่มยอดขายและผลกำไร ควบคู่ไปกับการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคา ผู้ค้าที่ใช้โซลูชั่น DemandTec ของไอบีเอ็มจะสามารถใช้ประโยชน์จากการอัพเดตข้อมูลราคาแบบอัตโนมัติทั้งทางออนไลน์และในร้านค้า ความยืดหยุ่นแบบใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ค้าสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของคู่แข่งได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว จึงช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มอำนาจในการควบคุมกลยุทธ์ทางด้านราคา
ไอบีเอ็มยังได้พัฒนาเทคโนโลยีบนระบบคลาวด์ สำหรับนักการตลาดดิจิตอลเพื่อพัฒนาการมีส่วนร่วมของลูกค้าและสามารถวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคค้นหาและเพิ่มไว้ในรถเข็น โซลูชั่นนี้มอบข้อมูลเชิงลึกแก่นักการตลาด และนำเสนอคำแนะนำแบบเรียลไทม์ที่สอดรับกับบุคคล โดยครอบคลุมการเสนอขยายสินค้าที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ นวัตกรรมสำหรับชุดโซลูชั่นด้านการตลาดบนระบบคลาวด์ของไอบีเอ็มยังครอบคลุมความสามารถในการนำเสนอโปรโมชั่นให้แก่ผู้บริโภคในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เช่น เมื่อผู้บริโภคกำลังเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือนำเสนอผ่านทางอีเมลหลังจากที่ผู้บริโภคออกไปแล้ว
ระบบและโซลูชั่นใหม่จากไอบีเอ็มสำหรับไพรเวทคลาวด์ และไฮบริดคลาวด์
ระบบและโซลูชั่นใหม่ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการเอาต์ซอร์ส หรือ MSP สามารถติดตั้ืงระบบคลาวด์ภายในองค์กรหรือไพรเวทคลาวด์ และระบบไฮบริดคลาวด์เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากกระแสโซเชียล โมบายล์ และบิ๊กดาต้า รวมถึงโซลูชั่น IBM PureFlex Systems และ IBM Power Systems ที่รองรับการปรับใช้ระบบและบริการคลาวด์อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น โซลูชั่น Power Systems รุ่นใหม่จะสนับสนุนการทำงานบนระบบไฮบริดคลาวด์และเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการนำมาปรับใช้ ในขณะที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่ยืดหยุ่นมากกว่า เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปที่ใช้ดีไซน์ระบบในยุคพีซีที่เก่าแก่ ส่วน Power Systems Solution เวอร์ชั่นสำหรับผู้ให้บริการจะรองรับโซลูชั่นคลาวด์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าบน OpenStack สำหรับ SmartCloud Entry และ PowerVC จากไอบีเอ็มเพื่อปรับปรุงการใช้ทรัพยากรและเพิ่มความคล่องตัวสำหรับการติดตั้ง OpenStack ด้วยเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นชั้นนำ
ส่วน IBM PowerVP เป็นเครื่องมือตรวจวัดประสิทธิภาพทางด้านเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่ช่วยให้ลูกค้าตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้รวดเร็วกว่า ด้วยการจัดหาข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นผ่านการแสดงผลกราฟิก ในขณะที่ Power Integrated Facility for Linux จะช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากเสถียรภาพ ความสามารถในการปรับขนาด และประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์ Power ระดับองค์กร เพื่อปรับปรุงคุณภาพในการให้บริการ และลดค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังประกาศสนับสนุน OpenStack สำหรับ PureApplication System ทุกรุ่น รวมถึง PureApplication System on Power รุ่นใหม่ๆ เพื่อรองรับระดับเริ่มต้นที่ต่ำกว่า โดยเริ่มต้นที่ 32 คอร์
เกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งของไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มคือผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีคลาวด์ โดยนำเสนอโซลูชั่นคลาวด์แบบเปิดที่เหนือชั้นเพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้าง เช่า หรือใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ไม่มีบริษัทอื่นใดอีกแล้วที่จะสามารถผสานรวมความรู้ทางด้านอุตสาหกรรมเข้ากับเทคโนโลยีคลาวด์ที่ก้าวล้ำได้เทียบเท่ากับไอบีเอ็ม โดยปัจจุบัน ลูกค้ากว่า 20,000 รายทั่วโลกไว้วางใจเลือกใช้เทคโนโลยีของไอบีเอ็ม ทุกวันนี้ไอบีเอ็มมีโซลูชั่น SaaS บนระบบคลาวด์มากกว่า 100 โซลูชั่น พร้อมผู้เชี่ยวชาญ 37,000 คนที่มีความรู้เชิงลึกทางด้านอุตสาหกรรมและคอยให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการปรับปรุงธุรกิจ และเครือข่ายศูนย์บริการคลาวด์ทั่วโลกกว่า 25 แห่ง ตั้งแต่ปี 2552 ไอบีเอ็มได้ใช้เงินลงทุนกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ในการเข้าซื้อกิจการเพื่อเร่งโครงการริเริ่มทางด้านคลาวด์ และล่าสุด ไอบีเอ็มได้เข้าซื้อกิจการของซอฟต์เลเยอร์ซึ่งมีลูกค้ากว่า 21,000 รายใน 140 ประเทศ เพื่อเสริมสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ IaaS ด้วยการผนวกรวมเข้ากับ IBM SmartCloud อย่างง่ายดายและปลอดภัย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์จากไอบีเอ็มได้ที่ http://www.ibm.com/smartcloud ติดตามเราบน Twitter ที่ @IBMcloud และเยี่ยมชมบล็อกของเราที่ http://www.thoughtsoncloud.com เข้าร่วมการสนทนา #ibmcloud