กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--ฮิลล์แอนด์นอลตันสแตรทิจีส์
บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด(มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลแช่แข็งชั้นนำระดับโลก พร้อมพนักงาน 32,000 คนจากบริษัทในเครือของทียูเอฟในประเทศต่างๆทั่วโลก ได้ร่วมฉลองความภาคภูมิในวาระที่องค์กรร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของบลู ริบบอน พาเนล หรือ บีอาร์พี (Blue Ribbon Panel)เพื่อร่วมวางกลยุทธ์ระดับโลกในการที่จะอนุรักษ์ ปกป้องและพัฒนาท้องทะเลไปพร้อมๆกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ โดยนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร ทียูเอฟถือเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะผู้ทำงานด้านกลยุทธ์ของบีอาร์พีโดยคณะทำงานทั้งหมดประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญและผู้นำจากองค์กร และองค์การต่างๆ จำนวน 21 ท่าน จาก 16 ประเทศทั่วโลกที่เห็นร่วมกันว่าผลกระทบที่จะเกิดต่อเศรษฐกิจ ชุมชน และระบบนิเวศน์อาจรุนแรงเกินเยียวยา หากไม่เริ่มลงมือปกป้องและฟื้นฟูคุณภาพของท้องทะเลตั้งแต่วันนี้
บีอาร์พี เป็นคณะทำงานที่จัดตั้งขึ้นจากการสนับสนุนผลักดันโดยธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ เพื่อให้เป็นคณะที่ปรึกษาให้กับโกลบอลพาร์ทเนอร์ชิพ ฟอร์ โอเชี่ยน หรือจีพีโอ(Global Partnership for Ocean) โดยมีบริษัทผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกเพียง 3 บริษัทเป็นสมาชิกร่วมกับตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน องค์การไม่แสวงหาผลกำไร นักวิชาการ และสถาบันที่เกี่ยวข้องอื่นๆทั่วโลก
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า “ทียูเอฟมีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ ปกป้องท้องทะเลเพื่อรักษาทรัพยากรโลกอันสำคัญนี้เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมประมงได้มีการริเริ่มโครงการดีๆหลายโครงการ แต่ยังมีเพียงไม่กี่โครงการที่เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในวงกว้างระดับโลกได้”
“จากการที่ผมได้ร่วมงานกับสมาชิกท่านอื่นๆ จากหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ผมเห็นว่าการร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสามารถเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริง และผมเชื่อว่าจีพีโอจะสามารถตอบโจทย์ความท้าทายในการอนุรักษ์ รักษาท้องทะเลอย่างยั่งยืนได้” นายธีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม
ตามรายงานของบีอาร์พีที่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณะไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วิธีการแก้ปัญหาที่ท้องทะเลกำลังประสบอยู่จากแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง โดยไม่ได้คำนึงถึงความเชื่อมโยงทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และระบบนิเวศน์จะไม่สามารถตอบโจทย์ความท้าทายในการอนุรักษ์และดูแลท้องทะเลที่นับวันจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นได้ รายงานดังกล่าวได้เรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาในองค์รวมโดยเน้นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชน โดยผู้สนใจสามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ http://www.globalpartnershipforoceans.org/indispensable-ocean
มร. โอฟ โฮก กูลเบิร์ก ประธาน บีอาร์พี และที่ปรึกษาคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวว่า “ระดับน้ำทะเลและอุณหภูมิที่สูงขึ้น รวมทั้งจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณสำคัญที่ทำให้เราตระหนักว่าแหล่งอาหารจากท้องทะเลเพื่อเป็นอาหารของคนนับพันล้านบนโลก กับการดูแลอนุรักษ์ รักษาท้องทะเลและชายหาดนั้น จำเป็นที่จะต้องดำเนินการไปควบคู่กัน”
“การอนุรักษ์ รักษาคุณภาพของท้องทะเลนั้น เป็นความท้าทายระดับโลกที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาคเอกชนทั้งรายย่อยและรายใหญ่ ภาครัฐ และภาควิชาการ แม้ว่าแต่ละภาคส่วนจะมีมุมมองที่ต่างกันไปบ้าง แต่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันกับความจริงที่ว่าเราจะเมินเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้และทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ปัญหานี้”
จากรายงานของบีอาร์พีชี้ให้เห็นการที่คณะทำงานมีความเห็นตรงกันว่าความท้าทายในการอนุรักษ์รักษาคุณภาพของท้องทะเลนั้นเป็นเรื่องที่ต้องหาแนวทางแก้ไขและดูแลในระยะยาว ดังนั้นคณะทำงานจึงนำเสนอหลักการ5 ประการเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการพิจารณาโครงการเพื่อรับการสนับสนุนเงินทุนโดยจีพีโอ ประกอบด้วย 1.)คุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน ความเท่าเทียมทางสังคม และความมั่นคงด้านอาหาร2.) คุณภาพสิ่งแวดล้อมของทรัพยากรทางทะเล3.) การกำกับดูแลเชิงนโยบายจากภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ 4.) ความต่อเนื่องของโครงการและผลลัพธ์ที่ยั่งยืน และ 5.) การสร้างศักยภาพและนวัตกรรมเพื่อการต่อยอดและขยายผลในอนาคตคณะทำงานได้เสนอว่าหลักการทั้ง 5 ประการนี้ควรถูกพิจารณาสำหรับโครงการในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการประมง การฟื้นฟูระบบนิเวศน์ และการลดมลภาวะต่างๆ
“ในฐานะตัวแทนของทียูเอฟและพนักงานทุกคนทั่วโลก ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจระดับโลกอย่างบีอาร์พีนี้ และอุทิศตนเพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกันของทรัพยากรทางทะเลและอุตสาหกรรม ถึงเวลาแล้วที่เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด และคืนสิ่งดีๆกลับสู่ท้องทะเล แม้ว่าเราอาจยังไม่พร้อมเต็มที่ (หรือ แม้ว่าความพร้อมของเราจะยังไม่เต็มร้อยก็ตาม)”นายธีรพงศ์ จันศิริ กล่าวปิดท้าย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)
ศศินันท์ ออลแมนด์
Head of Corporate Communication
โทร. 02-298-0024 ต่อ 568 Email: sasinan_al@thaiunion.co.th
วิสาขา จันทกิจ
โทร. 02-298-0024 ต่อ 678 Email: wisaka_ch@thaiunion.co.th
ฮิลล์แอนด์นอลตันสแตรทิจีส์ประเทศไทย
วลัยสมร ผึ้งน้อย
โทร. 02 627 3501 ต่อ 222 Email: wbheungnoi@hkstrategies.com
ศรายุธ อินทรโฆษิต
โทร. 02 627 3501 ต่อ 107 Email: sintarakosit@hkstrategies.com