คาดการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงพาณิชย์ในเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าสูงสุดในปีนี้

ข่าวอสังหา Friday October 25, 2013 16:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--โจนส์ แลง ลาซาลล์ การลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงเชิงพาณิชย์ ได้แก่ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกในไตรมาสสามของปีนี้ มีมูลค่ารวม 3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2555 ส่วนการซื้อขายรวมของ 3 ไตรมาสแรกมีมูลค่า 8.96 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.77 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จาก 3 ไตรมาสแรกของปี 2555 นายสจ๊วต โครว์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการลงทุนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของโจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าว่า “ตลาดการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้เชิงเชิงพาณิชย์ในเอเชียแปซิฟิก มีการขยายตัวสูงต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากมีทุนต่างชาติกลับเข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของภูมิภาค โดยพบว่ากองทนบำเหน็จบำนาญและกองทุนเพื่อความมั่นคงแห่งชาติจากทั่วโลก ลงทุนซื้อมากขึ้น และยังพบด้วยว่ามีแหล่งทุนใหม่ๆ ที่ขยายการลงทุนเข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเอเชียแปซิฟิกเป็นครั้งแรก จากการที่ไตรมาสสามเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่มูลค่าการลงทุนซื้อขายในเอเชียแปซิฟิกสูงกว่าความคาดหมาย ดังนั้น โจนส์ แลง ลาซาลล์จึงปรับประมาณการณ์มูลค่าการลงทุนสำหรับภูมิภาคของทั้งปีนี้เพิ่มขึ้น จาก 1.1 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 1.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นยอดการลงทุนซื้อขายสูงสุดใกล้เคียงกับปี 2550” การลงทุนซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาค มีปัจจัยหลักมาจากปริมาณการลงทุนที่ขยายตัวสูงในญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย ซึ่งมีมูลค่ารวมกันคิดเป็น 69% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในเอเชียแปซิฟิก ที่ญี่ปุ่นในไตรมาสที่ผ่านมา การลงทุนซื้อขายมีมูลค่ารวม 8.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 139% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2555 และมีมูลค่าการซื้อขายรวมสำหรับ 3 ไตรมาสแรกของปีนี้เท่ากับ 2.95 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 69% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยทั้งนักลงทุนของญี่ปุ่นและต่างชาติลงทุนเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ส่วนที่จีน การลงทุนซื้อขายขยายตัวเพิ่มขึ้นมากในไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนยอดรวมของทั้งสามไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่า 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อโดยนักลงทุนต่างชาติ โดยมีสัดส่วนการลงทุนคิดเป็นกว่ากึ่งหนึ่งของมูลค่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในไตรมาสที่ผ่านมา แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการขยายสินเชื่อ แต่เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจที่แท้จริง (real economy) ของจีน มีความมั่นคงมากขึ้น ที่ออสเตรเลีย การลงทุนซื้อขายในไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่า 4.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้จะขยายตัวน้อยกว่าไตรมาสสองของปีนี้ แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสามของปีที่แล้ว 17% กลุ่มทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อรายหลักในไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนการซื้อคิดเป็นกว่า 50% ดร.มีแกน วอลเตอร์ส ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกฝ่ายวิจัย หน่วยธุรกิจบริการด้านการลงทุนของโจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าวว่า “แม้ปริมาณการลงทุนซื้อขายจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ แต่นักลงทุนเริ่มแสดงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย หลังรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีประกาศออกมาเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับแผนการชะลอการซื้อสินทรัพย์ ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวทั่วภูมิภาคปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลก และทำให้นักลงทุนที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ ใช้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเข้ามาคำนวณต้นทุนการซื้อ อย่างไรก็ดี โดยภาพรวมแล้ว บรรยากาศการลงทุนซื้อขายยังคงมีแนวโน้มที่ดี”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ