กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--เอไอเอ ประเทศไทย
เพราะจริยธรรมคือหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต จัดกิจกรรมเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อความจำเป็นของการมีจรรยาบรรณและธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจในภาครัฐและเอกชน โดย ประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ รพี สุจริตกุล ที่ปรึกษาโครงการ แนวร่วมปฏิบัติ (Collective Action Coalition) ของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ให้เกียรติร่วมเสวนาครั้งนี้ พร้อมด้วย มล. จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เอไอเอ ประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ เอไอเอ ประเทศไทย ถ. สุรวงศ์
ประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยทัศนะในฐานะตัวแทนจากภาครัฐถึงบทบาทของ คปภ. ในการส่งเสริมการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในธุรกิจประกันชีวิตว่า สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานของรัฐเราทำหน้าที่ในการกำกับดูแลและส่งเสริมพัฒนาธุรกิจประกันภัยให้มีประสิทธิภาพและคุ้มครองประชาชนให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากการประกันภัยอย่างครบถ้วน ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมาภิบาลและการปฏิบัติตามแนวทางธรรมาภิบาลที่เป็นสากล เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น โปร่งใส เป็นธรรมและความน่าเชื่อถือต่อทุกฝ่าย
คปภ.ยังตระหนักถึงบทบาทในการเป็นแบบอย่างที่ดี ในการเสริมสร้างและปลูกฝังให้ทุกคนในองค์กรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้องโดยยึดหลักธรรมาภิบาลและคาดหวังให้ทุกคนในองค์กรปฏิบัติตามนโยบาย แนวทางปฏิบัติ หรือระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด อีกทั้งให้ความสำคัญ มุ่งเน้นให้คณะกรรมการสำนักงานของ คปภ. มีการปฏิบัติงานอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายตลอดจนประชาชน และสังคมโดยรวม โดยถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะไม่ให้กรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานทุกระดับ ใช้โอกาสแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
หากทุกองค์กรร่วมมือร่วมใจกันมีความยึดมั่นในจรรยาบรรณ ปฏิบัติตามแนวทางหลักธรรมาภิบาลที่เป็นสากล เราสามารถเสริมสร้างภาคธุรกิจประกันภัยให้มีความโปร่งใส เป็นธรรมและน่าเชื่อถือต่อประชาชน อีกทั้งนำพาไปสู่การเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนอย่างแน่นอน”
ด้านรพี สุจริตกุล ที่ปรึกษาโครงการ แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย กล่าวถึงโครงการต่อต้านการทุจริตในภาพรวมว่ามีความตื่นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคเอกชนที่มีหลายหน่วยงานแสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการต่อต้านการทุจริต ซึ่งสมาคมฯ ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการแนวร่วมปฏิบัติ ได้ขับเคลื่อนโครงการฯ โดยการให้ความรู้แก่ กรรมการ และผู้บริหารของบริษัทเอกชน เกี่ยวกับ การคอร์รัปชั่น ผลเสียหาย และการป้องกัน การให้ความรู้จัดทำในรูปแบบต่างๆเช่น การจัดอบรม การประชุมระดับชาติ การบรรยายให้ความรู้แก่องค์กรต่างๆ ปัจจุบันมีบริษัทแสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 249 บริษัท และผ่านการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต จำนวน 22 บริษัท ซึ่งปัจจุบัน เอไอเอ ประเทศไทย เป็นบริษัทในธุรกิจประกันภัยรายแรก และรายเดียวที่ได้รับการรับรองในฐานะสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต”
ทั้งนี้ กิจกรรมเสวนาดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในงาน” “2013 คอมพลายแอนซ์ คอร์ปอเรท ดีเอ็นเอ (2013 Compliance Corporate DNA — CCDNA)” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยฝ่ายกำกับดูแลธุรกิจของเอไอเอ ประเทศไทย เพื่อให้พนักงานของบริษัท ตระหนักถึงการปฏิบัติงานตามหลักจริยธรรม และ เสริมสร้างวัฒนธรรมการปฏิบัติงานที่ดี เพื่อให้องค์กรมีความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
มล. จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เอไอเอ ประเทศไทย เผยถึงที่มาของการจัดงานว่า “ถ้าองค์กรเปรียบเหมือนร่างกายมนุษย์ ธรรมาภิบาล หรือที่ เอไอเอ เรียกว่า การกำกับดูแลการปฏิบัติงาน ก็เป็นส่วนหนึ่งของลักษณะสำคัญที่ดำรงอยู่ในทุกๆ ส่วนที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นองค์กรนั้นๆ และมีความสำคัญต่อองค์กรในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เอไอเอ ตระหนักถึงความสำคัญของจริยธรรม ในฐานะบริษัทประกันชีวิต และได้ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลในการปฏิบัติงาน ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ซื่อตรงกับลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจเสมอมา”