กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--แมสคอท คอมมิวนิเคชั่น
แพทย์แผนจีนนอกจากจะยอมรับในฐานะแพทย์ทางเลือกแล้ว เทคนิคการรักษาในแบบจีนอย่างการฝังเข็ม ยังถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาโรคต่างๆ ในมนุษย์ รวมถึงสัตว์เลี้ยงที่ต้องการหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บจากการผ่าตัด “การฝังเข็ม” ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สัตวแพทย์นำมาใช้รักษา โดยการใช้เข็มกระตุ้นจุดสำคัญบนร่างกาย เพื่อให้มีการเปลี่ยนสภาพทางเคมีและกระตุ้นระบบต่างๆ ให้ทำงานได้ตามปกติ เทคนิคนี้จะช่วยให้ร่างกายเยียวยาตัวเอง ปัจจุบันการฝังเข็มได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์สมาคมแห่งอเมริกา (AVMA) ให้เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาสัตว์ (Alternative Treatment) โดยการบำบัดด้วยการฝังเข็มจะช่วยปรับสมดุลของพลังงาน เพื่อที่จะไปแก้ไขการไหลเวียนของพลังงานให้ราบรื่น
บุญชู ทองเจริญพูลพร กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า สำหรับในวงการสัตวแพทย์ มีการรักษาโดยการฝังเข็มมาหลายปีแล้ว ในช่วง 2-3 ปีหลัง มีสัตวแพทย์ให้ความสนใจ ในการรักษาทางแพทย์แผนตะวันออกมากขึ้น จึงมีการเลือกใช้ หรือแนะนำการรักษาด้วยการฝังเข็ม ร่วมกับการรักษาทางแผนปัจจุบัน หรืออาจให้การรักษาโดยการฝังเข็มอย่างเดียว ในรายที่หมดทางรักษา ในโลกตะวันตกจะเลือกการฝังเข็มเป็นทางเลือกในกรณีที่ยาอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือสัตว์ป่วยไม่สามารถกินยาได้ โดยการฝังเข็มมีผลต่อระบบร่างกายที่สำคัญ โดยจะทำงานผ่านระบบประสาทส่วนกลางซึ่งมีผลต่อกระดูกกล้ามเนื้อ ฮอร์โมนหัวใจ และระบบไหลเวียนเลือดการฝังเข็มเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการรักษาทางยา และการผ่าตัด การฝังเข็มช่วยแก้ปัญหาระบบกระดูก กล้ามเนื้อ เช่น ข้อสะโพกเสื่อม ข้ออักเสบ โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม การบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ช่วยในการแก้ปัญหา เช่น lick granulomaหรือผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเส้นประสาทรับความรู้สึกไม่ทำงาน ช่วยแก้ไขระบบประสาทผิดปกติ เช่น การบาดเจ็บที่ทำให้ตัวสัตว์ไม่มีความรู้สึก อัมพาต ลดปวด (ร่วมกันและอาจใช้ก่อนหรือหลังการผ่าตัด ในกรณีไม่ต้องการใช้ยา)
นอกจากนี้ การฝังเข็มยังช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจมีปัญหา เช่น โรคหอบหืดในแมว โรคภูมิคุ้มกันผิดปกติหรือบกพร่อง และสภาพอื่นๆที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน เช่น โรคต่อมไร้ท่อ นิ่วหรือ ทางเดินปัสสาวะต่างๆ โรคตา เป็นต้น ส่วนขั้นตอนการฝังเข็ม ส่วนมากจะใช้รักษาสัตว์เลี้ยงที่มีอาการทางระบบประสาท เพราะการฝังเข็มจะช่วยในการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นระบบเส้นประสาท ทำให้มีสารและฮอร์โมนออกจากปมประสาท เช่น เอนโดฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยระงับความเจ็บปวด ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ กระตุ้นระบบประสาท และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
หลังจากที่มีการฝังเข็มลงบนตัวสัตว์เลี้ยงแล้ว จะต้องรอเวลาประมาณ 10 นาทีเพื่อให้ร่างกายมีการรับรู้ว่ากำลังมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามา และเป็นการกระตุ้นระบบความรู้สึกด้วย ขณะเดียวกันจุดที่มีการฝังเข็มจะฝังตรงจุดที่ระบบเส้นประสาทมีการเชื่อมโยงกันขั้นตอนต่อไปหลังจากฝังเข็มเรียบร้อยแล้ว จะมีการทำ Aquapuncture ซึ่งเป็นการฉีดสารน้ำ เพื่อไปกระตุ้นให้ร่างกายมีการซ่อมแซมตัวมันเอง อาทิเช่น วิตามิน ยาชา น้ำเกลือ หรือ น้ำกลั่น โดยส่วนมากจะใช้น้ำกลั่นเนื่องจากจะไม่มีตะกอนของสารตกค้างอยู่ หากฉีดด้วยวิตามิน จะทำให้เหลือตะกอนของยาตกค้างอยู่ ทำให้สัตว์เลี้ยงมีอาการปวด ซึ่งสามารถแก้อาการปวดได้ด้วยการนวดเพื่อให้สารตกค้างกระจายตัว โดยเข็มที่ถูกฝังไปยังจุดสำคัญจะช่วยเพิ่มไหลเวียนทำให้มีสารและฮอร์โมนออกจากปมประสาท เช่น เอนโดฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนจากร่างกายที่ใช้ระงับความเจ็บปวด ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อกระตุ้นระบบประสาท และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายรวมถึงผลอื่นๆ ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจตามหลักปรัชญาของจีนที่ว่า “โลกเกิดจากความไม่สมดุลของพลังงานในร่างกาย” พลังงานของชีวิต (live energy) จะหมุนเวียนตามช่องทางหมุนเวียน (Meridian or Channel) โดยมีอวัยวะสำคัญต่างๆเป็นตัวสร้างพลังงาน เรียกว่า ฉี่ หรือ ชี่ (Chi/Qi) ให้ไหลเวียนไปถ้า Qi ไหลเวียนได้อย่างราบรื่นสัตว์จะมีสุขภาพดี การฝังเข็มมักจะใช้เข็มที่เล็กมากและฆ่าเชื้อแล้ว เมื่อเข็มเข้าที่แล้วสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่จะรู้สึกผ่อนคลายและมักจะรู้สึกง่วงนอนระหว่างที่ร่างกายปรับสมดุลของพลังงานเพื่อแก้ไขการไหลเวียนของพลังงานให้ราบรื่นและเยียวยาตัวเองได้ในเวลาต่อม
นายบุญชู ทองเจริญพูลพร อธิบายว่า การฝังเข็มไม่น่ากลัวอย่างที่คิดการฝังเข็มเป็นหนึ่งในการบำบัดที่มีความปลอดภัยที่สุด มีผลข้างเคียงน้อยมากเพราะไม่มีการทำลายเนื้อเยื่อ อาจมีบ้างที่สัตว์มีอาการไม่ดีขึ้นในช่วงแรก เพราะการฝังเข็มจะทำให้เกิดสมดุลระหว่างระบบร่างกายที่จะเยียวยาตัวเองโดยไม่ใส่สารเคมี หรือยาเข้าไปในร่างกาย ทำให้มีโอกาสน้อยมากที่เกิดผลแทรกซ้อนจากสารเหล่านี้การฝังเข็ม ถือว่าเป็นการรักษาที่ปลอดภัยมาก เข็มที่ใช้จะเป็นเข็มที่ใช้ฝังเข็มโดยเฉพาะ เป็นเข็มปลอดเชื้อใช้ครั้งเดียวทิ้ง เข็มฝังเข็มจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เล็กมาก ดังนั้นการฝังเข็มจะเจ็บน้อยมาก การรักษาจะใช้ครั้งละ 15- 20 นาที ความถี่ในการรักษาจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสัตวแพทย์ การเตรียมตัวก่อนการฝังเข็มและระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาก่อนที่จะมีการฝังเข็ม สัตว์เลี้ยงควรได้รับการตรวจเรื่องโรคหัวใจ กระดูกสันหลัง กระดูกหรือสะโพกว่ามีการแตกหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันโรคแอบแฝง ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจ และพบว่าสัตว์เลี้ยงมีโรค การฝังเข็มก็จะเป็นอันตรายได้ เนื่องจากการฝังเข็มอาจจะไปกระตุ้นให้อาการเลวร้ายขึ้นโดยปกติสัตวแพทย์จะนัดสัตว์ป่วยมาทำการฝังเข็มสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ ซึ่งปฏิกิริยาหลังการฝังเข็มที่เห็นผลว่าดีขึ้นมักจะพบภายในการรักษาครั้งที่ 3-4 หรืออาจดีขึ้นก่อนหน้านั้นขึ้นอยู่กับสภาพและอาการของสัตว์เลี้ยงที่มารักษาส่วนผลข้างเคียงในการรักษานั้นน้อยมากอาจทำให้สัตว์เลี้ยงมีอาการเหนื่อย และนอนมากขึ้นในวันที่ได้รับการรักษาใน 1-2 วันแรก แต่ไม่ได้เกิดกับทุกตัวในการรักษา จึงไม่แนะนำให้ฝังเข็มในสัตว์ที่กำลังตั้งท้อง สัตว์ที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง หรือในสัตว์ที่ร่างกายอ่อนแอมากๆ ดังนั้นจึงควรนำให้สัตว์ป่วยเข้าพบหมอให้ได้อย่างน้อย 3 ครั้ง และถึงแม้ว่าการฝังเข็มจะไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายเหมือนกับการรักษาประเภทอื่นๆ แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้จากโรคทุกชนิดเช่นกัน ทั้งนี้ประโยชน์ของการฝังเข็มการฝังเข็มในสัตว์เลี้ยง ทำให้ลดการใช้ยาหลายประเภทและกระตุ้นให้ร่างกายมีการซ่อมแซมตัวเอง ทำให้ไม่ต้องได้รับปริมาณยาที่เกินความจำเป็น ใช้ยาน้อย ลดกลุ่มยาสเตียรอยด์ ซึ่งมีผลทำให้ทานน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย กินจุ ทำให้ตัวบวม
นอกจากนี้การฝังเข็มสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีอายุมาก จะช่วยทำให้กระชุ่มกระชวยขึ้น เนื่องจากเข็มจะไปช่วยกระตุ้นระบบประสาทให้มีการตื่นตัว ทำให้สัตว์เลี้ยงกลับมากระชุ่มกระชวยเหมือนวัยหนุ่มสาวอีกด้วย สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-712-6301-4 หรือที่ www.thonglorpet.com