สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 9.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 28, 2013 10:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,343 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,345 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.06 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,700 บาท กับ 19,800 บาท และกลับมาปิดที่ 19,700 บาท กับ 19,800 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 293 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 1,900 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.2 % GFV13 ปิด 19,860 บาท และGFZ13 ปิด 19,920 บาท GF10V13 ปิด 19,880 บาท GF10Z13 ปิด 19,930 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,352.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 18.3 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 22.639 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 872.02 ตัน (ขายออก 4.5 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 74 เซนต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 97.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 61.07จุด ปิดที่ 15,570.28 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นอ่อนแอลงที่ยังคงทำให้เฟดนั้นอาจจะยังคงนโยบาย QE ต่อไป ซึ่งจากตัวเลข Consumer Sentiment ที่ได้ประกาศออกมาร่วงลงสู่ระดับ 74.8 จากเดิม 77.5 ก็ส่งผลเข้าหนุนราคาทองคำให้ยังคงมีระดับสูง ทองคำยังคงประคองตัวที่ ระดับสูงจากการที่รอการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นและจะได้ผลสรุปในวันพุธนี้จาก ที่ตัวเลขเศรษฐกิจนั้นประกาศออกมาอ่อนแอและการปิดหน่วยงานรัฐบาลที่ผ่านมา ตลอด 3 สัปดาห์ทำให้ต้องเฝ้าจับตาดูภาพรวมเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดซึ่งเฟดจะมีเหตุผล อย่างไรที่จะประเมินการลดคิวอี ผลการสำรวจจาก คิทโก้ 26 รายผู้เข้าร่วมทำสำรวจตลาดทองคำ พบว่า 20 รายมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ 5 รายนั้นมองว่าราคาจะลง และ 1 รายให้ความเป็นกลาง แฟรงค์ เลซ นักวิเคราะห์ จาก FuturePath Trading กล่าวว่า ในช่วงเวลานี้ราคาทองคำลดลงถึง 50% ที่อยู่ในกรอบ 1,434 -1,251 เหรียญ จุดตรงกลางอยู่ที่ระดับ 1,342เหรียญที่อาจกลายเป็นแนวรับที่สำคัญ และสำหรับตลอดปีทองคำอยู่ในกรอบระหว่าง 1,704 -1,182 เหรียญ ระดับจุดตรงกลางที่จะทะยานตัวขึ้นให้ประสบความเร็จได้ที่1,443 กับ 1,381 เหรียญ แต่เส้นค่าเฉลี่ยระดับ 20 วันทองคำยังคงมีทิศทางลงและในเวลานี้ทองคำแข็งแกร่งจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ เมื่อคืนวันศุกร์ SPDR ได้ขายออก 4.5 ตัน จาก 876.52 ตัน สู่ระดับ 872.02 ตัน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนแตะระดับ 73.2 จากระดับ 75.2 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าการกลับมาเปิดทำการอีกครั้งของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯประสบความล้มเหลวในการฟื้นความเชื่อมั่นจากชาวอเมริกา กลุ่มนักวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานของ Kitco กำลังจับตาบางสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้กับราคาทองคำที่ระดับ 1,350 เหรียญ/ออนซ์ ในสัปดาห์หน้า โดยผลสำรวจนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสจะปรับตัวอ่อนค่าลงได้อีกจนกว่าจะมีสัญญาณว่าเฟดจะเริ่มต้นปรับลด QE สำนักข่าว CNBC ธนาคารเพื่อการลงทุนกล่าวเตือนนักลงทุนว่า การปรับลด QE ของเฟด จะทำให้สกุลเงินของ 5 ประเทศ อันได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ตุรกี บราซิล และแอฟริกาใต้ อ่อนแอลงและไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งจากเฟดปรับลด QE จริงจะทำให้สกุลเงิน 5 ประเทศได้รับแรงเทขายอย่างหนักและเกิดความผันผวน รวมถึงประเด็นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจทั้ง 5 ประเทศในทันที ยอดค้าปลีกสหรัฐฯมีความเป็นไปได้ที่จะลดลงสำหรับเดือนกันยายน พร้อมทั้งบรรยากาศจาก โชว์รูมรถยนต์นั้นเงียบเหงาแม้ว่าภาคเศรษฐกิจสหรัฐฯจะดีขึ้นแล้วก็ตามก่อนที่จะมีปัญหาเรื่องเพดานหนี้ ผลการสำรวจจาก Bloomberg ได้รายงานว่านักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าระดับค่าใช้จ่ายจะยังไม่เปลี่ยนแปลงซึ่งทะยานตัวขึ้นมา 0.2% ในเดือนสิงหาคมที่ก่อนหน้านั้นร่วงลงติดต่อกันถึง 6 เดือนและในภาคส่วนบริษัทค้ารถยนต์ก็อาจจะทะยานตัวขึ้นราวๆ 0.4% ที่ได้จากการทำโฆษณาหรือโปรโมชั่นจากบริษัท เฟดจะมีการประชุมในสัปดาห์นี้วันที่ 29-30 ต.ค. ซึ่งส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะคงนโยบาย QE ต่อไป ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ ในขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการรายงานผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชน ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้เพิ่มขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทส่งออกทะยานขึ้นด้วย ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.4% ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ -0.1% - Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2 % ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% - Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 75.2 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 73.2 ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ - Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.6% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.5% ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วโดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาในวันอังคารและวันพฤหัสบดี คนว่างงานมากขึ้นและเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ผิดความคาดหมายค่อนข้างมากทำให้ราคาทองคำพุ่งทะยานทะลุแนวต้าน 1,330 เหรียญ และกำลังทดสอบแนวต้านสุดท้ายที่ 1,350 เหรียญ วันศุกร์ SPDR ได้ขายทองคำออกอีก 4.5 ตัน ถือครองที่872.02 ตัน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวันศุกร์ ตัวเลข Core Durable Goods และ Durable Goods ออกมาดีกว่าเดิม แต่ Revised UoM Consumer Sentiment ออกมาแย่กว่าเดิม โดยที่วันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจจะมีตัวเลข Pending Home Sales ซึ่งคาดว่าจะออกมาดีขึ้น วิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองคำขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,350 เหรียญ โดยที่ 1,352 เหรียญเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันของนักลงทุนรายวัน และราคาขึ้นมาทะลุระดับ Fibonacci 50% ที่ระดับ 1,345 เหรียญ ในขณะที่แนวต้านถัดไปทางเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,418 เหรียญและ Fibonacci 61.8% อยู่ที่ 1,366 เหรียญ และนักลงทุนรายสัปดาห์เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันอยู่ที่ 1,372 เหรียญ ในเชิงเทคนิคเห็นได้ว่ากราฟ ราย 4 และ 8 ชั่วโมงเกิด Bearish Divergence ขึ้นทั้ง 2 อัน ในขณะที่กราฟ รายวันไม่มี Divergence บ่งบอกถึงสภาวะที่ราคาเข้าสู่ช่วงของความสับสนไม่แน่นอนที่มีโอกาสที่จะขึ้นต่อหรือตกลงมาเลยก็ได้ทั้งสองทาง โดยที่กราฟฟอร์มตัวเป็นลักษณะ Upside Wave Shape วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำอาจจะขึ้นทะลุไปทดสอบ 1,366-1,370 เหรียญซึ่งเป็นแนวต้านถัดไปได้ โดยที่แนวโน้มระยะสั้นดูจะยังขึ้นต่อ ขณะที่แนวโน้มระยะกลางและระยะยาวยังถือว่าเป็นแนวโน้มขาลงอยู่ โดยที่ราคาจะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,330-1,360 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุน ในสภาวะแบบนี้นักลงทุนคงจะต้องบริหารพอร์ทให้ดี ซึ่ง MTS Gold ได้ย้ำโดยตลอดให้ทำการ Stop Loss ออกไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง การบริหารความเสี่ยงในการลงทุนจึงมีความจำเป็นในสภาวะแบบนี้จะต้องตัดขาดทุนออกไปบางส่วน โดยที่ย้ำว่าไม่ให้ Leverage เพิ่ม ก็ด้วยกังวลกับสภาวะที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน - นักลงทุนที่ถือ Long Position ยังแนะนำให้ขายปิดทำกำไร - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ปิดสถานะ Short ออกไปอย่างน้อย 70%คงเหลือเพียงส่วนน้อยเพื่อรอดูทิศทางที่ชัดเจนเนื่องจากตลาดเริ่มเกิด Divergence แต่ยังไม่ได้กลับทิศทาง Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,760 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,960 บาท Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,820บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,050 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ