กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--สำนักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
เจ้าของร้าน After you และธุรกิจ MTS Gold เป็นอีก 2 ธุรกิจ ร่วมหนุนโครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารการจัดการธุรกิจ SMEs ของ สสว. ถ่ายทอดสูตรการประกอบธุรกิจสู่ความสำเร็จเพื่อเสริมศักยภาพผู้บริหาร SMEs Advance
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้เชิญ นางสาวกุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ เจ้าของร้าน After you และ นายณัฐพงศ์ หิรันยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มทีเอส โกล์ด จำกัด(MTS Gold) หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อห้างทองแม่ทองสุข 2 ผู้บริหารที่ประสพความสำเร็จในการบริหารธุรกิจของตนเอง มาร่วมเสวนาถ่ายทอดประสบการณ์การทำธุรกิจให้ประสพความสำเร็จ ให้กับคณะผู้บริหาร SMEs ที่เข้ารับการอบรมหลักสูตรนักบริหารSMEsระดับสูง หรือ SMEs Advance ภายใต้โครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารการจัดการธุรกิจ SMEs ของ สสว.
นางสาว กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ เจ้าของร้าน After you ร้านขนมที่มีชื่อเสียง กล่าวถึงที่มาของธุรกิจว่า ตนเริ่มมีความคิดจะเปิดร้านขนมในแบบของร้าน After you มาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยความชื่นชอบเรื่องการทำขนมมากกว่าชอบเรียนหนังสือ จึงเริ่มต้นทดลองทำสูตรขนมชนิดที่ชอบและจัดเก็บสะสมสูตรการทำขนมนานาชาติที่ชื่นชอบไว้มากมาย แต่ในช่วงแรกยังไม่สามารถทำธุรกิจได้ เนื่องจากครอบครัวซึ่งทำธุรกิจอาหารแช่แข็งอยากให้เรียนหนังสือให้จบปริญญาตรีเสียก่อน จนกระทั่งเมื่อเรียนจบและได้ทดลองทำธุรกิจเปิดร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากธุรกิจอาหารแช่แข็งของครอบครัวระยะหนึ่งแต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงตัดสินใจเลิกกิจการ และขออนุญาตครอบครัวเปิดร้านขนมในแบบที่ตนเองชอบและมุ่งมั่นซึ่งบิดาก็ให้การสนับสนุนเต็มที่พร้อมกับตั้งชื่อร้าน After you ให้ด้วย
ตนได้ศึกษาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการเปิดร้านอาหารตามแบบที่ครอบครัวต้องการในครั้งแรก และนำมาแก้ไข ปรับปรุง พัฒนา ปิดจุดบอดเดิมทำให้บริหารจัดการธุรกิจใหม่ได้ดียิ่งขั้น เกิดเป็นกำลังใจว่า จะต้องขายให้ได้
“ การจับธุรกิจจากความฝันมาทำให้เป็นจริงทำให้เรามีพลัง มีกำลังใจ กิจการของร้านAfte you ดีขึ้นเป็นที่พอใจมาก จนปัจจุบันมีสาขาในกรุงเทพและขยายเป็น 8 สาขา มีรายได้เป็นหลักร้อยล้าน เพราะเรามีหลักคิดที่ว่าเราควรทำในสิ่งที่เราเก่งที่สุด นั่นคือ การทำขนม”
สำหรับวิธีการทำให้ธุรกิจมีชื่อเสียงโด่งดังมีนั้น เจ้าของร้านอาหาร After You กล่าวว่าทำได้ไม่ยาก เพราะปัจจุบันมีเดียที่ช่วยกระจายชื่อเสียงออกไปได้มากและหลากหลาย แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่า คือ ดังแล้วทำอย่างไรไม่ให้แผ่ว และยังคงชนะใจคน ชนะใจลูกค้า อย่างต่อเนื่อง ลูกค้าไม่เบื่อ ตนคิดว่าสิ่งนั้นคือ การทำให้ลูกค้ารักในสินค้า และแบรนด์สินค้าจึงจะทำให้ธุรกิจสามารถอยู่ได้ยืนยาวตลอดไปในวันข้างหน้า ในการบริหารร้าน ตนจึงให้ความใส่ใจในรายละเอียดอย่างมาก ทำทุกอย่างด้วยใจ ทำในสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา เพื่อสร้างให้ร้านเป็นร้านที่มีชีวิต
ส่วนนายณัฐพงศ์ หิรันยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท MTS Gold จำกัด ถ่ายทอดประสบการณ์ว่า การที่ธุรกิจของตนประสบความสำเร็จได้เพราะยึดสูตรสำเร็จว่า ทำสิ่งที่เก่งจริงเพียงเรื่องเดียว แต่ต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้นๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ที่ผ่านมาการทำธุรกิจในตลาดทองมีทั้งโอกาสและการเปลี่ยนแปลง ครอบครัวตนเริ่มต้นจากร้านค้าทองรูปพรรณ “แม่ทองสุข” เป็นธุรกิจในครอบครัว ที่ดูทั่วไปแล้ว เป็นธุรกิจที่น่าเบื่อ เพราะต้องมาเปิดและเฝ้าร้านเป็นคนแรก และเป็นคนสุดท้ายที่ต้องออกจากร้านเพื่อปิดเซฟ จนต่อมาเติบโตมาสู่ธุรกิจการเงิน ทั้งที่ไม่มีพื้นฐานธุรกิจทางด้าน การเงินมาก่อน
“เมื่อคราวเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณได้รับผลกระทบมาก ก็ปรับมาเพิ่มเรื่องการทำธุรกิจค้าส่ง แล้วขยายธุรกิจเป็นนำเข้าส่งออกทองคำแท่งเพิ่มขึ้น จนกระทั่งมาถึงจุดที่ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครั้งใหญ่แบบหน้ามือเป็นหลังมือก็ว่าได้ คือ ในช่วง 5 ปีหลังที่ผ่านมานี้ ทำให้การค้าขายทองเปลี่ยนเป็นรูปแบบใหม่ เป็นการซื้อขายทองเพื่อการลงทุน รองรับกับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคการสื่อสารออนไลน์แบบสมัยใหม่ การรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่มีความรวดเร็วขึ้นและรับรู้ได้ทุกที่ที่ไป ในรูปแบบของอินเตอร์เน็ต เฟสบุ๊ค ทวิสเตอร์ กลายเป็นยุคที่ปลาเร็วกินปลาช้า ไม่ใช่ยุคที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กแล้ว เพราะธุรกิจเปลี่ยนแปลงได้ในทุกวัน”
นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า การที่ธุรกิจของครอบครัวเติบโตขึ้นมาจนถึงปัจจุบันได้ เพราะว่ามีการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์มาโดยตลอด “คุณพ่อผมสอนว่า ทำอะไร ให้ทำอย่างเดียวแต่ขอให้เก่งจริง ผมว่าเป็นสูตรสำเร็จที่ดีให้กับธุรกิจ SMEs เพราะเราต้องสเปเชี่ยลไลซ์ในสินค้าของเรา เราจึงมีจุดยืนทีว่ เก่งจริง รู้จริง ในธุรกิจเรื่องทอง”
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
โทร 0-2298-3033 , 0-2298-3037