กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 29 ตุลาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,341.03-1,360.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV13 อยู่ที่ 19,880 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 110 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,980 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV13 อยู่ที่ 660 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 660 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.24 น.ของวันที่ 29/10/13)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 30 ตุลาคม 2556
ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดอินเตอร์แบงก์ของจีน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางจีนได้ทำการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรอง (open market operation) นับตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม โดยอัดฉีดเงินจำนวน 1.3 หมื่นล้านหยวน ซึ่งได้ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ประกอบกับราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนตุลาคมจะอยู่ในระดับอ่อนแอเกินคาดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ผลผลิตภาคโรงงานของสหรัฐ ปรับขึ้นน้อยมากในเดือนกันยายน ในขณะที่ยอดการทำสัญญาซื้อบ้านมือสองร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีครึ่ง และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยดัชนียอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 5.6% สู่ระดับ 101.6 ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี และลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยตัวเลขเหล่านี้สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในปีหน้า ประกอบกับราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าปรับขึ้นจากการที่ลิเบียปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมัน หลังจากเกิดการประท้วงครั้งใหม่ในแหล่งน้ำมันและท่าเรือของลิเบีย ทั้งนี้ ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียร่วงลงสู่ 90,000 บาร์เรลต่อวัน ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,334 หรือ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,363 หรือ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรออกมา ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอการย่อตัวของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,334 หรือ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางที่อ่อนตัวลง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,334-1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,363 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน และแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,334 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในระยะสั้นหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวในช่วงสั้นและแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,334 (19,580บาท) 1,325 (19,440บาท) 1,315 (19,300บาท)
แนวต้าน 1,363 (20,000บาท) 1,375 (20,180บาท) 1,384 (20,310บาท)
GOLD FUTURES (GFV13)
แนวรับ 1,334 (19,710บาท) 1,325 (19,570บาท) 1,315 (19,430บาท)
แนวต้าน 1,363 (20,130บาท) 1,375 (20,310บาท) 1,384 (20,440บาท)
SILVER FUTURES (SVV13)
แนวรับ 22.15 (654 บาท) 21.90 (646 บาท) 21.65 (638 บาท)
แนวต้าน 22.70 (671 บาท) 22.95 (679 บาท) 23.30 (689 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888