กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--เวิรฟ
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยโฉม The new Sprinter รถตู้โฉมใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล OM 642 CDI ทั้งประหยัด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย อาทิ ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวเมื่อถูกแรงลมปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Highbeam Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดบอด (Blind Spot Assist) ระบบช่วยเตือนให้รถขับอยู่ในเลน (Lane Keeping Assist) รวมทั้งแชสซีรถโดยสารใหม่ล่าสุด รุ่น OC 500 RF 2542 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์อันทรงพลัง OM457LA สมรรถนะดีเยี่ยม รุกตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจได้เตรียมยลโฉมในงาน Bus & Truck 2013 ระหว่างวันที่ 7 — 9 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “งานแสดงรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษ ครั้งที่ 10 หรือ Bus & Truck 2013 เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการตลาดของแผนกรถเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งทางบริษัทฯ ได้นำรถเพื่อการพาณิชย์รุ่นใหม่เข้ามาจัดแสดงถึง 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ The new Sprinter ซึ่งนับเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ที่โดดเด่นในเรื่องระบบความปลอดภัย รวมทั้งยังประหยัดพลังงาน และแชสซีรถโดยสาร รุ่น OC 500 RF 2542 โดยบริษัทฯ ได้เข้ามาทำตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2548 โดยมีการทำการตลาดและมียอดจำหน่ายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของแชสซีรถโดยสาร ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนตุลาคม 2556 บริษัทฯได้ทำการส่งมอบแชสซีรถโดยสารไปแล้วมากกว่า 100 คัน ซึ่งในปีนี้คาดว่าทั้งแชสซีรถโดยสารและรถ The new Sprinter จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจ และสามารถทำยอดจำหน่ายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยบริษัทฯ มองว่า ตลาดรถโดยสารหรือรถบัสและรถตู้ขนาดใหญ่เป็นตลาดที่กำลังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 อันเนื่องมาจากรัฐบาลมีการขยายเส้นทางการคมนาคมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งภาคธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจด้านโลจิสติกส์ และธุรกิจโทรคมนาคมกำลังขยายตัว เพื่อรองรับกับความต้องการใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น และเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC จึงทำให้ตลาดรถกลุ่มนี้ยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจไม่แพ้กับตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล”
The new Sprinter รถตู้ขนาดใหญ่เพื่อการพาณิชย์ผู้ช่วยคนสำคัญของภาคธุรกิจ
The new Sprinter เป็นยานยนต์เพื่อการพาณิชย์แบบผนังทึบ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล OM 642 CDI แบบวี 6 สูบ 24 วาล์ว เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,987 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 140 กิโลวัตต์ (190 แรงม้า) ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย 9.7 — 10.1 กม. / ลิตร ผ่านมาตรฐานการควบคุมมลพิษของสหภาพยุโรป Euro 5 ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC) ซึ่งให้การปรับเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้งเป็นไปอย่างแม่นยำและนุ่มนวล นอกจากนี้ยังได้เพิ่มเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยควบคุมการทรงตัวเมื่อถูกแรงลมปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Highbeam Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดบอด (Blind Spot Assist) ระบบช่วยเตือนให้รถขับอยู่ในเลน (Lane Keeping Assist) นอกจากนั้นยังมีโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Adaptive ESP? (Electronic Stability Program) ใหม่ เวอร์ชั่น 9i ที่เพิ่มประสิทธิภาพการเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งเพิ่มหน้าที่การทำงานของระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย 2 ฟังก์ชั่นพิเศษ ได้แก่ Brake Disc Wipe ซึ่งช่วยขจัดความชื้นและคราบน้ำที่เกาะบนจานเบรก และ Electronic Brake Prefill ซึ่งช่วยควบคุมการทำงานของผ้าเบรก
The new Sprinter ได้รับการออกแบบให้มีความหลากหลายของดีไซน์และมีรูปลักษณ์ให้เลือกตามความต้องการ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านโลจิสติกส์ เพื่อรองรับกับการบรรทุกสินค้าจำนวนมาก ด้วยการออกแบบพื้นที่ภายในตัวรถให้สูงโปร่งและกว้างขวาง ธุรกิจโทรคมนาคม ในการทำเป็นรถถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม หรือรถถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงนอกสถานที่ รวมทั้งยังสามารถทำเป็นรถพยาบาล นอกจากนั้นในส่วนห้องผู้ขับขี่และห้องโดยสารด้านหลังยังติดตั้งผนังกั้น เพื่อแยกฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจได้อย่างแท้จริง
The new Sprinter ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอก ตั้งแต่ฝากระโปรงห้องเครื่องถูกออกแบบใหม่ให้ดูสูงขึ้น กันชนด้านหน้าถูกออกแบบให้ดูปราดเปรียว คล่องแคล่ว สอดรับกับกระจังหน้า รวมทั้งไฟหน้าเป็นแบบ daytime ส่องสว่างในเวลากลางวัน ดูโฉบเฉี่ยวและโดดเด่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทัศนวิสัยในการขับขี่ ส่วนไฟท้ายดีไซน์ใหม่ให้ดูสะดุดตามากขึ้น ส่วนภายในได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นสำคัญไม่ต่างจากรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ด้วยการออกแบบและผลิตขึ้นตามหลักสรีรศาสตร์ โดยเบาะนั่งของผู้ขับขี่และผู้โดยสารถูกกำหนดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อรองรับกับการเคลื่อนไหวในทุกอิริยาบถ ส่วนอุปกรณ์และสวิตช์ควบคุมการทำงานต่างๆ ถูกจัดวางให้สะดวกต่อการใช้งาน พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ในการควบคุมหรือเลือกใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย พร้อมทั้งเครื่องเล่นวิทยุ-ซีดี MB Audio 10 ซึ่งรองรับการใช้งานกับ Bluetooth ด้วยถ
แชสซีรถโดยสาร รุ่น OC 500 RF 2542
แชสซีรถโดยสารใหม่นำเข้าจากประเทศสเปน รุ่น OC 500 RF 2542 ความยาวสูงสุด 15 เมตรได้รับการออกแบบสำหรับตัวถังรถโดยสารให้มีขนาดความกว้างสูงสุดถึง 2.55 เมตร และสามารถต่อตัวถังที่มีความยาวสูงสุดสำหรับรถโดยสารสองเพลา (6 ล้อ) ที่ 13.5 เมตร และ ยาวถึง 14.6 เมตร สำหรับรถโดยสารสามเพลา (8 ล้อ) เป็นแชสซีที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ความแข็งแรงทนทาน มาพร้อมกับเครื่องยนต์อันทรงพลัง OM457LA เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ มีความจุกระบอกสูบ 11,967 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 310 กิโลวัตต์ (422 แรงม้า) ที่ 2,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 1,900 นิวตันเมตรที่ 1,100 รอบต่อนาที โดยแชสซีมีขนาด (กว้างxยาวxสูง) ที่ 2,510 x 14,355 x 1,720 มม. มีระบบการจัดการเครื่องยนต์ควบคุมโดยอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงระบบยูนิตปั๊ม ซึ่งช่วยให้การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้สมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น แรงบิดที่สูงขึ้นในรอบเครื่องที่ต่ำ รวมถึงช่วยประหยัดเชื้อเพลิง และยืดอายุการใช้งานเพิ่มเติมอีกด้วย
ด้านระบบความปลอดภัย เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานและระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP? ระบบป้องกันการลื่นไถล (ASR) ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBS) ระบบป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ รีทาร์ดเดอร์ และระบบเบรกไอเสีย และระบบเบรกจากหัวลูกสูบ โดยจะเป็นดิสค์เบรกทุกล้อ และเพลาหน้าแบบคานอิสระ ซึ่งให้ความนุ่มนวลแก่ผู้โดยสาร ความสะดวกสบายในการขับขี่ และความปลอดภัยเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นเพลาท้ายซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญของแชสซีรุ่นนี้ ได้ถูกออกแบบให้มีสภาพแข็งแรง ทนทาน เพื่อให้อายุการใช้งานยาวยิ่งขึ้น อีกทั้งยังให้สมรรถนะในการขับขี่อันเป็นเลิศ และกำลังในการเบรกสูงสุด อีกทั้งยังมีระบบอิเล็คโทรไฮดรอลิก ในการควบคุมบังคับเลี้ยวเพลาที่ 3 โดยสามารถบังคับได้ทั้งขับเคลื่อนเดินหน้า หรือ ถอยหลังด้วย
นายคมกริช กล่าวเพิ่มเติมว่า “กลุ่มบริษัทเดมเลอร์ถือเป็นผู้นำแห่งวงการอุตสาหกรรมรถเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและระบบความปลอดภัยที่เพียบพร้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการในหลากหลายธุรกิจ และด้วยคุณภาพในเรื่องความทนทานแข็งแกร่งสำหรับทุกสภาวะการขับขี่ การประหยัดพลังงานรวมถึงระบบความปลอดภัยที่เพียบพร้อม ทำให้ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก นอกจากนั้นเรายังได้สร้างความประทับใจและความมั่นใจให้กับลูกค้าผ่านการบริการหลังการขายและการใส่ใจและดูแลลูกค้าที่เป็นเลิศ ด้วยการรับประกัน 3 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร และสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับรถ The Sprinter Panel Van และรับประกันคุณภาพ 2 ปี โดยไม่จำกัดระยะทางในปีแรก และสูงสุดถึง 800,000 กิโลเมตรในปีที่สอง สำหรับแชสซีรถโดยสาร รุ่น OC 500 RF 2542 ด้วย”