กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ลีสซิ่งกสิกรไทย โชว์ผลงาน 9 เดือนแรกปี 56 ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ใหม่ได้ 55,732 ล้านบาท พร้อมรุกตลาดโค้งสุดท้ายปลายปี เน้นกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Big Bike) ที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูงถึง 45% ภาพรวมสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปีนี้ยังชะลอตัว คาดจะฟื้นครึ่งหลังปี 57
นายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2556 บริษัทฯ สามารถปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ใหม่ได้ 55,732 ล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างในระบบ (Outstanding Loan) ของบริษัทฯ อยู่ที่ 86,809 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 96,794 ล้านบาท หรือคิดเป็น 89.68% ของเป้าหมาย และมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL อยู่ที่ 0.83% ส่งผลให้มีกำไร 366 ล้านบาท และเมื่อตั้งสำรองพิเศษ เพื่อรองรับความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและอาจเป็นผลกระทบต่อลูกค้าได้ในอนาคต ทำให้ 9 เดือนแรกปี 2556 บริษัทฯ ยังคงมีกำไรสุทธิ 274 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2556 ตลาดรถยนต์ยังคงอยู่ในช่วงชะลอตัวจากผลกระทบด้านการส่งมอบรถในโครงการรถยนต์คันแรกสิ้นสุดลง อีกทั้งแรงกดดันด้านราคาในตลาดรถยนต์มือสองที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ลีสซิ่งกสิกรไทย จึงเน้นทำการตลาดในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Big Bike) ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปีนี้ตลาดบิ๊กไบค์จะขยายตัวออกไปได้อีกมาก จากการที่ค่ายรถจักรยานยนต์ต่างประเทศทยอยมาตั้งโรงงานผลิตในไทยเพื่อรองรับการปิดเสรีภายใต้กรอบเออีซีในปี 2558 ส่งผลให้ราคาขายบิ๊กไบค์ถูกลง รวมทั้งมีกลุ่มเป้าหมายที่นิยมบิ๊กไบค์มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้สูง มีงานอดิเรกชอบการเดินทางท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยคาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ปีนี้น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 70,000 คัน เติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 45%
ด้านนายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2556 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์ว่า ทิศทางสินเชื่อเช่าซื้อจะเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงและคาดว่าจะต่อเนื่องถึงครึ่งแรกปี 2557 ทั้งนี้ การกระตุ้นยอดขายของค่ายรถยนต์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ด้วยการจัดรายการส่งเสริมการขาย อาทิ ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน ดาวน์ต่ำ จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไทย และมีส่วนช่วยประคองตัวเลขยอดขายรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้ อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังระมัดระวังในการพิจารณาเครดิตของลูกค้าเพื่อควบคุมความเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ คาดว่ายอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ตลอดปี 2556 จะเติบโต 18% จากปีก่อน เทียบกับการเติบโตถึง 34% ในปี 2555
อย่างไรก็ตาม ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสสุดท้าย แม้อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงทรงตัวที่ระดับ 2.5% แต่สภาพคล่องทางการเงินที่ทยอยตึงตัวขึ้น ทำให้สถาบันการเงินมุ่งระดมเงินฝากโดยเสนอดอกเบี้ยพิเศษเพื่อรองรับความต้องการสินเชื่อและเตรียมความพร้อมด้านสภาพคล่องในกรณีที่อาจเกิดความผันผวนทางการเงินขึ้น ในขณะที่ การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อที่ดำเนินมาติดต่อกันนานกว่า 5 ปี ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อจัดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด โดยผู้ประกอบการมีส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยที่น้อยมากอยู่แล้ว ทำให้โอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อเป็นการทั่วไปจะยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้