กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--ไฮโดรเท็ค
“ไฮโดรเท็ค” เผยช่วง 3 เดือน(ต.ค.-ธ.ค.) สุดท้ายของปี 2556 เตรียมยื่นประมูลงานไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ มูลค่า 1500 ล้านบาท เหตุภาครัฐมีการเบิกจ่ายงบประมาณปีหน้าและเอกชนมีการลงทุนต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทยังมีงานบริการที่ครบวงจร ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ที่ดี และฐานทุนแข็งแกร่ง ระบุปี 2557 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมทั้งรับรู้รายได้จากโครงการลงทุนรูปแบบ BOO และ BOT ประมาณ 50 ล้านบาท หวังเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงของรายได้ระยะยาว
นายสลิบ สูงสว่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฮโดรเท็ค จำกัด (มหาชน) หรือ HYDRO ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง งานด้านบริหารจัดการ และธุรกิจลงทุนงานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจในช่วง 3 เดือน(ต.ค.-ธ.ค.) สุดท้ายของปีนี้มีความคึกคักอย่างมาก เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐมีการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ออกมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้มีการเปิดประมูลโครงการเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันภาคเอกชนก็มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทมีการบริการที่หลากหลายในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งงานก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction : EPC ) ได้แก่ การรับจ้างออกแบบ (Design and Engineering) ก่อสร้าง และติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด (Construction Contractor)
นอกจากนี้ยังมีงานบริหารจัดการเดินระบบและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance) ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการส่วนใหญ่ เป็นลูกค้าที่ว่าจ้างบริษัททางด้าน EPC มาก่อน ซึ่งบริษัทจะมีหน้าที่เดินระบบเพื่อผลิตน้ำเพื่อให้ได้คุณภาพ และปริมาณตามที่ลูกค้าต้องการ และสุดท้ายงานด้านการลงทุนในโครงการผลิตน้ำเพื่อจำหน่ายให้กับภาครัฐและเอกชน ในรูปแบบ Build Own and Operate (BOO) และ Build Operate and Transfer (BOT) โดยบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบต่อภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนและการบริหารโครงการตามระยะเวลาสัญญาของโครงการ
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการลงทุนรูปแบบ BOO หรือ BOT จำนวน 2 โครงการคือ งานระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ให้กับบริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPC ระยะเวลาสัญญา 10 ปี และงานผลิตน้ำประปาเพื่อขายให้กับ 6 เทศบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ระยะเวลาสัญญา 30 ปี
ทั้งนี้คาดว่าในปี 2557 บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการลงทุนดังกล่าวประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอ รวมถึงลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากการก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนกว่า 90% ของโครงสร้างรายได้รวม ขณะเดียวกันอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ก็สูงกว่า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2560 รายได้จากการลงทุนจะอยู่ที่ 50% ของรายได้รวม
“การเข้าประมูลงานในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้คึกคักมาก มีหลายโครงการที่เปิดให้ยื่นประมูลแล้ว โดยมีทั้งโครงการภาครัฐและเอกชนไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้เชื่อว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทจะได้งานเข้ามาเพิ่มอย่างแน่นอน และทำให้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2557 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากการที่บริษัทรุกหางานทั้งในและต่างประเทศ” นายสลิบ กล่าว