กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--นิโอ ทาร์เก็ต
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับสมาชิกองค์กรภาคธุรกิจ การเงินและการลงทุน เดินหน้ายื่นหนังสือแถลงการณ์ต่อสถานเอกอักคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเพื่อแสดงจุดยืนการคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ได้ผ่านวาระ 2 และวาระ 3 จากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ด้วยคะแนน 310 ต่อ 0 ชี้ให้เห็นผลกระทบร้ายแรงต่อคนไทยทั้งประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ต้องการให้สังคมนานาชาติทราบถึงเคลื่อนไหวเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันขององค์กรฯ ที่ต้องการผลักดันการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไทยกำลังดำเนินการขัดต่ออนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านการทุจริตค.ศ. 2003 (UNCAC 2003) ที่มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2548และรัฐบาลไทยได้ให้สัตยาบันเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554
องค์กรฯ เน้นย้ำจุดยืนที่จะคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในประเด็นเรื่องการคอร์รัปชันเท่านั้น เพราะจะยิ่งส่งเสริมการกระทำทุจริต และล้างผิดคนโกง ส่งผลให้เกิดความล้มเหลวของกระบวนการต่อสู้คอร์รัปชันของทุกภาคส่วนในสังคมไทย รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อนานาชาติในเรื่องความโปร่งใสที่จะส่งผลต่อการเข้ามาลงทุนจะยิ่งตกต่ำลง และจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มาถึงคนไทยทั้งประเทศในเรื่องเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ รวมถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมและความเชื่อมั่นของประชาคมโลกในอนาคตคุณหญิงชฎา กล่าวสรุป
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อต้านการทุจริตในสังคมไทย โดยวางบทบาทในการป้องกัน ปลูกฝัง และเปิดโปง
สมาชิกองค์กรฯ ภาคธุรกิจ การเงินและตลาดทุนประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ซึ่งประกอบด้วยสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมนัก วิเคราะห์หลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย