กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--ปตท.
ฝ่ายกลยุทธ์และแผนธุรกิจ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สรุปรายงานสถานการณ์น้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ราคาน้ำมันดิบ เบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 0.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 108.65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 0.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 106.94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามราคา น้ำมันดิบเวสท์ เท็กซัสฯ (WTI) ลดลง 0.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอยู่ที่ 96.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซิน 95 เพิ่มขึ้น 0.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 114.08 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 123.96 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ได้แก่
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งเป็นพนักงานกลุ่มบริษัทน้ำมันแห่งชาติ (NOC) ของลิเบียปฏิเสธข้อเสนอของรัฐบาลลิเบียในการปรับขึ้นค่าจ้าง 67% ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป ปัจจุบัน Reuters รายงานลิเบียส่งออกน้ำมันดิบอยู่ที่ระดับ 90,000 บาร์เรลต่อวัน หรือน้อยกว่า 10% จากปริมาณกำลังการส่งออกของประเทศในช่วงก่อนเกิดสงครามการเมืองในปี 54 ที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- กำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศ OPEC เดือน ต.ค. 56 ลดลง 110,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 29.90 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเป็นปริมาณการผลิตต่ำสุดในรอบ 2 ปี
- Nigeria National Oil Company (NNPC) รายงานแหล่งน้ำมันดิบ Bonga ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบในทะเลขนาดใหญ่ที่สุดของไนจีเรียจะปิดซ่อมบำรุงในเดือน พ.ย. นี้ เป็นเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ปริมาณการผลิตในเดือน ต.ค. 2556 รวมอยู่ที่ 193,000 บาร์เรลต่อวัน และไม่มีการผลิตในเดือน พ.ย. 56 และคาดว่าเดือน ธ.ค. 56 จะกลับมาดำเนินการผลิตที่ 123,000 บาร์เรลต่อวัน
- บริษัทน้ำมันแห่งชาติของอิรักรายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบเดือน ก.ย. 56 อยู่ที่ 2.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 55 และ ลดลงจากเดือนก่อน 500,000 บาร์เรลต่อวัน เพราะการปิดซ่อมบำรุงระบบมาตรวัดน้ำมันและท่าขนส่งทางตอนใต้ของประเทศ
- Reuters รายงานบริษัท Tokyo Electric Power Company (TEPCO) ของญี่ปุ่นใช้น้ำมันดิบและน้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้าในเดือน ต.ค. 56 รวมอยู่ที่ 450,000 ลิตรหรือ 91,000 บาร์เรลต่อวัน มากกว่าที่วางแผนไว้เบื้องต้นถึง 50% ขณะนี้ไม่มีโรงผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเปิดดำเนินการตามปกติ
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) คงนโยบายอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ (QE) ต่อไปเพื่อรักษาต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำโดย FED ดำเนินการต่อเพราะเห็นว่าการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มชะลอตัว และ FED ระบุจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำตราบใดที่อัตราว่างงานยังสูงกว่า 6.5% และอัตราเงินเฟ้อไม่สูงกว่า 2.5%
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาสที่ 3/56 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 0.8% สูงสุดในรอบมากกว่าสามปี
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- สำนักงานสารสนเทศพลังงานของสหรัฐฯ( EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ต.ค. 56 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 4.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 383.9 ล้านบาร์เรล เพิ่มมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เกือบ 2 เท่า
- Organization for the Prohibition of Chemical Weapons (OPCW) ได้ตรวจสอบสถานที่ผลิตและเก็บอาวุธเคมีในซีเรียไปแล้ว 21 แห่งจากทั้งหมด 23 แห่ง และเริ่มต้นทำลายอุปกรณ์ผลิตอาวุธเคมีแล้ว โดยสถานที่อีก 2 แห่งที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบเกิดจากปัญหาด้านความปลอดภัย
- ธนาคารกลางของอินเดีย (Reserve Bank of India) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Repurchase Rate) เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน จาก 7.5% เป็น 7.75% เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งคาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงที่เหลือของปี
- Ifo รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือน ต.ค. 56 ลดลงจากเดือนก่อน 0.3 จุด มาอยู่ที่ 107.4 จุด สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และนับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากการอ่อนค่าของเงินยูโรซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดค่าลงมากที่สุดในรอบ 16 เดือน เพราะตลาดเงินคาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ย (ปัจจุบันอยู่ที่ 0.5%) หรือ เพิ่มปริมาณเงินอัดฉีดสู่ระบบเศรษฐกิจในการประชุมวันที่ 7 พ.ย. นี้เพื่อประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประกอบกับอุปทานน้ำมันในตลาดอยู่ในระดับสูงจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในทะเลเหนือกลับมาดำเนินการ และส่งมอบน้ำมันมากขึ้นในเดือน พ.ย. ทั้งนี้ในเดือน พ.ย. นี้ปริมาณผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Shale Oil ของแหล่ง Bakken และ Eagle Ford เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน สำหรับท่าทีของอิหร่านในการเจรจากับชาติตะวันตกเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์วันที่ 7-8 พ.ย. นี้ มีความชัดเจนมากขึ้นว่าต้องการลดแรงกดดันจากการคว่ำบาตรหลังผู้นำสูงสุด Ayatollah Ali Hosseini Khamenei สนับสนุนประธานาธิบดี Rouhani ให้เจรจาประนีประนอมกับมหาอำนาจตะวันตกวานนี้ อย่างไรก็ตามตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีความสำดัญต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกได้แก่สหรัฐฯ และจีนบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
โดย Index of US factory activity เดือน ต.ค. 56 เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ขณะที่ภาคบริการของจีนบ่งชี้การเติบโต และประธานาธิบดีจีนกล่าวให้ความมั่นใจกับผู้นำธุรกิจระดับโลกระหว่างการประชุมที่กรุงปักกิ่งวานนี้ว่าแนวทางการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีนให้มีการเจริญเติบโตที่มั่นคงยั่งยืน ด้วยการเพิ่มการบริโภคในประเทศ, ลดการเติบโตโดยอาศัยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งนี้ผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีกำหนดการประชุมระหว่างวันที่ 9 -12 พ.ย. นี้ซึ่งจะมีการร่างแนวนโยบายปฎิรูปเศรษฐกิจประเทศ ให้จับตาการเมืองในลิเบียที่มีการประกาศตั้งรัฐบาลใหม่ปกครองพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศเมื่อวานนี้และสถานการณ์ในอียิปต์ซึ่งศาลจะไต่สวนและพิจารณาคดีอดีตประธานาธิบดีอียิปต์นาย Morsi และผู้นำกลุ่ม Muslim Brotherhood อีก 17 ราย วันนี้ซึ่งหากศาลพิพากษาว่ามีความผิดอาจต้องโทษสูงสุดให้ประหารชีวิต คาดว่าการชุมนุมของผู้สนับสนุนที่เผชิญหน้ากับรัฐบาลทหารมีแนวโน้มรุนแรง สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent จะเคลื่อนไหวในกรอบ 94.76-95.78 USD/BBL และ 105.49-106.62 USD/BBL ตามลำดับ
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอุปทานเบนซินในตลาดสหรัฐฯตึงตัวหลังโรงกลั่น Lemont ขนาด 167,000 บาร์เรลต่อวัน ในรัฐ Illinois ปิดดำเนินการฉุกเฉินเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ และ อุปสงค์เบนซินจากอินโดนีเซียเดือน พ.ย. 56 อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาร์เรลสูงกว่าที่ประมาณการณ์ที่ระดับ 9 ล้านบาร์เรล และตลาดได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของเคนยา อย่างไรก็ตาม บริษัท Petrobras ของบราซิลกำลังเตรียมการกำหนดนโยบายและตั้งกลไกในการปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลในประเทศให้สอดคล้องกับตลาดโลกเพื่อเพิ่มกระแสเงินสดและลดภาระหนี้สินของบริษัท และ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรองเบนซินเชิงพาณิชย์ของสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ต.ค. 56 เพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 10.45 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 112.24-114.78 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาดีเซลปรับเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อของอินโดนีเซียโดย บริษัท Petral ซื้อดีเซล 0.35 %S ปริมาณ 600,000 บาร์เรล ส่งมอบต้นเดือน พ.ย. 56 และจอร์แดนซื้อเบนซินปริมาณรวม 3.8 ล้านบาร์เรล ส่งมอบช่วงเดือน พ.ย. 56 - ก.พ. 57 ขณะที่อุปทานในตลาดเอเชียตึงตัว โดยโรงกลั่น Kochi (190,000 บาร์เรลต่อวัน) ในอินเดีย ของ BPCL มีแผนปิดซ่อมบำรุงหน่วย Diesel Hydro Desulphurization ตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. 56 เป็นเวลา 30 วัน อย่างไรก็ตามรัสเซียมีแผนจะส่งออกเบนซินและน้ำมันอากาศยานปริมาณรวม 1.4 ล้านตัน ผ่านทางรถไฟของลัตเวียช่วง ต.ค. 56 - ธ.ค. 57 และ IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ของสิงคโปร์สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ต.ค. 56 เพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 9.09 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 122.14-124.58 เหรียญสหรัฐฯ/ บาร์เรล