กรุงเทพ--18 ก.พ--ดิจิตอล
สำหรับในปี 2541 ดิจิตอล ได้มีกลยุทธ์ที่สำคัญเพื่อสร้างความเป็นผู้นำทางการตลาดด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่เด่นๆดังนี้
การรวมผลิตภัณฑ์อินเทลและอัลฟาเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อ “ดิจิตอล เซิร์ฟเวอร์” นำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดบนระบบ Windows NT
บริษัท ดิจิตอล อีควิปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของเซิร์ฟเวอร์และซอฟท์แวร์ รวมไปถึงการบริการต่าง ๆ สำหรับความต้องการของผู้ใช้ในระดับที่ต้องการใช้โซลูชั่นต่าง ๆ ที่ดีที่สุดบนระบบ Windows NT โดยตามวิธีใหม่นี้จะมีการรวมสายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ ทั้งที่เป็นอินเทลเบสและอัลฟาเบส (Intel-based Alpha-based) เข้าเป็นสายผลิตภัณฑ์เดียวกันภายใต้ชื่อใหม่เดียวกันคือ ดิจิตอลเซิร์ฟเวอร์ (DIGITAL Server) เพื่อเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นในด้านราคาประสิทธิภาพ และด้านการเพิ่มขยายระบบงาน รวมไปถึงระบบการจัดการเทคโนโลยีคลัสเตอร์ ตลอดจนด้านการบริการต่าง ๆ เพื่อขยายความสามารถบนระบบ Windows NT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Windows NT 5.0 ที่จะออกมาในอนาคต ซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นแบบ 64 บิทที่สนับสนุนการทำงานแบบ 64 บิท บนอัลฟาเบส เซิร์ฟเวอร์ (Alpha-based Server) ด้วย ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสิทธิภาพอย่างสูงสุดของการประมวลผลแบบ 64 บิท ทั้งในส่วนฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการอย่างแท้จริง
สำหรับสายผลิตภัณทางด้านอินเทลเบส เซิร์ฟเวอร์ (Intel-based Server) ประกอบด้วยเครื่องรุ่นใหม่ 6 รุ่น ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเล็กๆ ไปจนถึงรุ่นใหญ่ๆ อย่างระดับเมนเฟรม นั้นคือ 8way Pentium Pro Server ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้กับเพนเทียมโปร (Pentium Pro) ได้ถึง 8 ตัว และจากผลการทดสอบประสิทธิภาพของ LoadSim Benchmark ที่ทำการทดสอบกับ Microsoft Exchange พบว่าเซิร์ฟเวอร์ในรุ่นต่าง ๆ ของ ดิจิตอล สามารถรองรับจำนวนผู้ใช้ได้ตั้งแต่ 1,800 คนบนเซิร์ฟเวอร์รุ่นเล็กของอินเทลเบส ไปจนถึง 11,580 คน บนเครื่องของอัลฟาเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้น ผู้ใช้จึงสามารถใช้จำนวนเซิร์ฟเวอร์น้อยลงถึงแม้ว่าจะมีปริมาณงานมหาศาล เปรียบเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ของยี่ห้ออื่นๆ ที่ต้องใช้จำนวนเซิร์ฟเวอร์มากมายเพื่อรองรับกับปริมาณงานเดียวกัน ด้วยระบบการจัดการที่ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่า เป็นผลให้ผู้ใช้ DIGITAL Server เสียค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของ (TCO) ต่ำลง
ในด้านราคา ดิจิตอล ได้เสนอผลิตภัณฑ์ DIGITAL Server ที่ให้โพรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง Alpha 64-bit รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows NT ประกอบด้วยเครื่องในตระกูล DIGITAL Server 3300, 5300 และ 7300 ในราคาที่ถูกลงโดยเฉลี่ย 43 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นระดับเดียวกันที่ให้ประสิทธิภาพเท่ากันและมีคุณสมบัติที่เหมือนกัน
นอกเหนือจาก DIGITAL Server ตระกูลใหม่ที่ใช้โพรเซสเซอร์อินเทลนี้ จะถูกออกแบบมาสำหรับใช้กับ Windows NT แล้ว ยังสามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการชั้นนำอย่าง Novell NetWare, SCO Unix และอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน
เพื่อขยายความเป็นผู้นำในการทำคลัสเตอร์บน Windows NT ดิจิตอล ได้ประกาศแพ็คเกจคลัสเตอร์ Ready-to-Go High-Availability พร้อมกัน 4 ชุด โดยแต่ละชุดจะประกอบด้วย DIGITAL Server 2 ตัวและ Digital StorageWorks RAID array ที่ติดตั้งบน rack มาตรฐานตัวเดียว และระบบทั้งหมดจะบรรจุอยู่ในตัวถังเดียว เพ็กเกจคลัสเตอร์ทั้งหมดจะติดตั้งซอฟท์แวร์มาให้มีสองแบบให้เลือก Microsoft NT 4.0, Enterprise Edition (ซึ่งรวมทั้ง Microsoft Cluster Server มาด้วย) หรือ DIGITAL Clusters for Windows กับ Windows NT 4.0 แพ็กเกจคลัสเตอร์ทั้ง 4 ชุดได้แก่ DIGITAL Server 3100 HA, 3300 HA, 7100 HA และ 7300 HA
ด้วยโซลูชั่น Ready-to-Go High-Availability Cluster ของดิจิตอลจะช่วยให้ผู้จัดการ IT และผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจอื่นๆ สามารถปรับปรุงระบบที่ใช้กับ Windows NT ให้สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างง่ายดาย
สายผลิตภัณฑ์ DIGITAL Server ใหม่ของดิจิตอลจะรวมซอฟท์แวร์จัดการระบบชั้นนำและได้รับการรับรองจากวิศวกรทาง Windows NT เป็นจำนวนมากที่สุด ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถให้ลูกค้าด้วยโซลูชั่นบน Windows NT ที่พร้อมสรรพสำหรับองค์กร
DIGITAL ServerWORKS 3.2 ซึ่งเป็นโซลูชั่นจัดการเครือข่ายจัดการตัวเซิร์ฟ เวอร์ชั่นใหม่ของ ดิจิตอล (เป็นซอฟท์แวร์ที่แจกให้ฟรีกับ DIGITAL Server ทุกรุ่น) ServerWORKS 3.2 เวอร์ชั่นนี้ยังได้เพิ่มส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนสำหรับเซิร์ฟเวอร์อื่นไม่ใช่ของดิจิตอล ได้ด้วยความสามารถในการทำงานและจัดการสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้ และ Smart Agents ตัวใหม่ก็จะปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น ServerWORKS 3.2 ยังสนับสนุนการจัดการ NTS/E Clustered Systems ด้วย
นอกจากนี้ ในปี 2541 ดิจิตอล ยังได้มีผลิตภัณฑ์และบริการที่สำคัญเพื่อสร้างความเป็นผู้นำทางการตลาด ดังนี้
ยุทธศาสตร์สำคัญของผลิตภัณฑ์ ดิจิตอลอัลฟาเซิร์ฟเวอร์ ในปี 2541 (DIGITAL AlphaServer)
ในปีนี้ Alpha Microprocessor 64 bit ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและประสิทธิภาพสูงสุดในท้องตลาด สามารถใช้งานภายใต้ระบบ DIGITAL UNIX, Open VMS และ Windows NT นั้น ล่าสุดได้มีการประการใช้ชิปความเร็ว 600 MHz ในรุ่น 4100 พร้อมปรับลดราคาลงกว่า 20% นอกจากนี้ดิจิตอล อัลฟาเซิร์ฟเวอร์ยังเป็นผู้นำในด้านค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จในการเป็นเจ้าของระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Total Cost Of Ownership (TOC) (ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่ค่าพื้นที่, ค่าไฟ, ค่าเครื่อง, ค่าซ่อมบำรุง ฯลฯ) ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่อง Midrange ชั้นนำทั่วไป
ในปี 1998 นี้ดิจิตอล ได้นำ AlphaServer 21264 ซึ่งเป็นรุ่นที่ 6 ออกสู่ตลาด ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า AlphaServer 21164 ซึ่งเป็นรุ่นที่ 5 ถึง 1 เท่าตัวในระดับความเร็วของสัญญาณนาฬิกา (Clock Speed) ที่เท่ากัน สถาปัตยกรรมของ AlphaServer 21264 นี้ยังรองรับความเร็วของสัญญาณนาฬิกาได้มากกว่า 1,000 MHz หรือ 1 GHz
ยุทธศาสตร์สำคัญของผลิตภัณฑ์ดิจิตอลเวิร์คสเตชั่นในปี 2541 (DIGITAL Workstation)
DIGITAL Workstation เป็นเครื่องเวิร์คสเตชั่นยี่ห้อเดียวที่สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ Windows NT และระบบ UNIX ได้ในเครื่องเดียวกันสำหรับเครื่องที่ใช้ชิป Alpha และในปีนี้ได้มีการเปิดตัวรุ่น I+Series ซึ่งใช้ชิป Intel Pentium II ความเร็ว 266-300 MHz W/AGP (Accelelated Graphics Port) ซึ่งสามารถใช้งานได้เฉพาะในระบบ Windows NT จึงทำให้มีราคาถูกลง และมุ่งทำตลาดในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในด้าน CAD/CAM/CAE และ GIS
ยุทธศาสตร์สำคัญของผลิตภัณฑ์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโน๊ตบุ๊ค ในปี 2541 (DIGITAL PC & Notebook)
ในไตรมาสนี้ทางด้าน PC ยังคงเน้นในปัจจัยหลักๆ เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้า ดังนี้ 1. ราคา 2. ประสิทธิภาพ 3. ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา 4. การให้บริการจากศูนย์บริการ MCS (World-Class Service)
ในตลาด Entry Level ดิจิตอลได้มีการนำชิป AMD K6 เข้ามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของลูกค้า ซึ่งมีประสิทธิภาพทัดเทียมกับชิปอินเทล เพนเทียม ทู ในราคาที่ต่ำกว่า โดยจะเน้นช่องทางการจำหน่ายในต่างจังหวัด
สำหรับตลาดหลักของ PC ที่ใช้ชิปเพนเทียม และเพนเทียม ทู ยังคงเน้นที่ส่วนราชการและหน่วยงานเอกชนเป็นหลัก
ดิจิตอลเป็นผู้นำในตลาดโน๊ตบุ๊คระดับกล่างถึงระดับสูง โดยมีจุดเด่นที่ขนาดจอ กว้าง เริ่มตั้งแต่ 13” - 14” และน้ำหนักเบา CPU มีความเร็วตั้งแต่ 166 MHz ถึง 266 MHz with MMX Technology พร้อมประกันประสิทธิภาพด้วยรางวัลในระดับโลกที่ได้รับอย่างมากมาย
ยุทธศาสตร์สำคัญของแผนกบริการลูกค้าของดิจิตอล ในปี 2541 Multivendor Customer Services - Digital MCS
บริษัท ดิจิตอล อีควิปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีหน่วยงานบริการที่เรียกว่า Digital MCS (Multivendor Customer Services) เป็นหน่วยงานบริการระบบคอมพิวเตอร์ ที่ยิ่งใหญ่ทั้งในขอบเขตการปฏิบัติงานดูแลลูกค้าใน 113 ประเทศ โยงใยติดต่อถึงกันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย และยิ่งใหญ่ด้วยจำนวนบุคลากรกว่า 23,000 คน พรั่งพร้อมด้วยศูนย์อะไหล่สินค้ากว่า 14,400 รายการจาก 1,300 ผู้ผลิตสินค้าทางด้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำจากทุกมุมโลก จากศูนย์บริการอะไหล่กว่า 1,000 แห่ง เพื่อตอบรับการให้บริการของลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด
สำหรับประเทศไทยของเรานั้น ศูนย์บริการของบริษัท ดิจิตอล อีควิปเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 24 ศูนย์บริการทั่วประเทศ สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง และครอบคลุมได้เกือบทุกความต้องการของลูกค้าจริงๆ เพราะ MCS เราพร้อมให้บริการในสินค้าด้านคอมพิวเตอร์เทคโนโลยี ครอบคุมทั้งสิ้นค้าของดิจิตอลเอง และผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท อันได้แก่ Compaq, HP, 3 Com, Cisco ฯลฯ และยิ่งไปกว่านั้นแผนกบริการลูกค้าของดิจิตอลยังเป็นศูนย์บริการทางด้านเทคนิคของผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ สามารถกล่าวได้ว่า บริษัท ดิจิตอล อีควิปเม้นท์ จำกัด เป็นบริษัทที่มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองความรู้ในผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์มากที่สุดในโลก (Microsoft Certified Engineer)
ในขณะนี้ แผนกบริการลูกค้า MCS กำลังมุ่งเน้นการขยายการให้บริการ ไปยังกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่มีความต้องการใช้บริการดังต่อไปนี้คือ
- การให้บริการในสินค้าไมโครซอฟท์ ทุกสายผลิตภัณฑ์โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจากไมโครซอฟท์ โดยเฉพาะการให้บริการติดตั้ง ระบบการทำงานชั้นสูงสำหรับระบบปฏิบัติการวินโดว์สเอ็นที และระบบ Mail and Messaging ของ Microsoft Exchange ตลอดจนการสั่งซื้อซอฟท์แวร์ต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์ เช่น Microsoft Select
- การให้บริการซ่อมบำรุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ในหน่วยงานของลูกค้า โดยไม่เจาะจงยี่ห้อ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในลักษณะของสัญญาการให้บริการรายปี
- การติดตั้งและออกแบบระบบงานคอมพิวเตอร์ และการให้บริการซ่อมบำรุง ณ ที่ทำการของลูกค้า ตลอดจนการออกแบบและปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน
- การให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตและอินทราเน็ต
- การให้บริการสำหรับธุรกิจที่ต้องการดูแลรักษาระบบเป็นกรณีพิเศษ (Business Critical Service - BCS) พร้อมทั้งการกำหนดให้มีวิศวกรระบบรับผิดชอบงานสำหรับลูกค้าแต่ละราย (Technical Account Manager - TAM)
ยุทธศาสตร์สำคัญของแผนกเน็ตเวิร์ค ซิสเต็มส์ อินติเกรชั่น เซอร์วิสของดิจิตอล ในปี 2541 DIGITAL NETWORK & SYSTEMS INTEGRATION SERVICES (NSIS)
ดิจิตอล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็มส์ อินติเกรชั่น เซอร์วิส ( DIGITAL Network and System Integration Services (NSIS) )ให้บริการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และโซลูชั่น ซึ่งเน้นในการช่วยพัฒนาการบริหารงานของลูกค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิผลพัฒนาการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่แม่นยำ และช่วยลดต้นทุน โดยรวมของระบบสารสนเทศให้องค์กรของลูกค้า กลุ่มลูกค้าของ NSIS จะมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ไปถึงองค์กรระดับกลาง
NSIS ให้บริการที่ครบวงจรตั้งแต่บริการด้านการวางแผน การปฏิบัติการวางระบบและบริการด้านการวางแผน การปฏิบัติการวางระบบ และการบริหารการติดตั้งผลิตภัณฑ์ของดิจิตอล และผลิตภัณฑ์ของคู่ค้าอื่น กับการบริการที่จะให้ลูกค้าได้มั่นใจว่าจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดจาก Client/Server technology
แผนการตลาดของ NSIS ในการดำเนินธุรกิจในปี 1998 จะมุ่งเน้นที่ 4 กลยุทธ์หลักคือ
1. Repeatable Solution :NSIS จะมุ่งเน้นในการหากลุ่มธุรกิจที่เราได้เคยทำ Solution ให้กับลูกค้าจนประสบความสำเร็จมาแล้ว ทั้งนี้การเสนอ Repeatable Solution ให้กับลูกค้าใหม่จะมีประโยชน์ต่อลูกค้า มาก เพราะลูกค้าจะได้ทราบ Site Reference ที่สามารถอ้างอิงได้ด้วย
2. Experience & methodologies: NSIS จะมุ่งเน้นที่จะใช้ประสบการณ์ความสามารถ ตลอดจนวิธีและขั้นตอนต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพ มาใช้เพื่อบริการลูกค้าอันจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อธุรกิจของลูกค้า
3. ร่วมทำธุรกิจกับ Independent Software Vendor และพันธมิตรทางธุรกิจในการให้บริการลูกค้าทางด้านระบบงาน Software ต่างๆ รวมถึงการส่งมอบหรือติดตั้งเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า
4. มุ่งเน้นการพัฒนาระบบงาน Software ให้กับลูกค้าบนระบบ UNIX, INTERNET, WINDOW NT Platform
กลุ่มธุรกิจที่ NSIS เน้นการทำตลาดในปีนี้ คือ
1. กลุ่มโทรคมนาคม ระบบงานที่นำเสนอให้กับลูกค้าอาทิเช่น Fraud Management System, Mediation, Call Center & Voice Integration, Intelligent Network เป็นต้น
2. กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม มีระบบงานที่นำเสนอให้กับลูกค้า เช่น ERP,Discrete & Process Management, SAP ’s Integration เป็นต้น
3. กลุ่มธนาคาร และการเงิน ระบบงานที่นำเสนอให้กับลูกค้าเช่น Financial Branch System (FBS), Risk Management, Credit control, Internet Banking เป็นต้น
นอกจากจะเน้นในกลุ่มธุรกิจหลัก 3 กลุ่มที่กล่าวมาแล้วข้างต้น NSIS ยังให้บริการทางด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้คือ
- Cross Industry Infrastructure: NSIS จะให้บริการกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ ต้องการ บริการด้านการวางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Internet/ Intranet) การจัดการระบงานต่าง ๆ (Network Management) และการวางระบบสัญญาณ (Network Integration)
- Cross Industry Application : NSIS จะให้บริการกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรให้รวมเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการพัฒนาระบบงานที่ใช้ Software เช่น Mail & Messaging, Data Warehouse และ Window NT - Migration เป็นต้น
NSIS ได้เริ่มให้มีการให้บริการทางด้าน leasing สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการแบบโครงการเบ็ดเสร็จ (Turn Key Solution) เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของลูกค้าในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
ในปี2541นี้ ดิจิตอลได้มีเครื่องรุ่นใหม่ในตระกูล DIGITAL Server ที่ใช้ประสิทธิภาพจากโพรเซสเซอร์ของอินเทลให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมอีกหลายรุ่นซึ่งประกอบด้วย
- DIGITAL Server 1000 Series เป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในระดับ entry-level และเวิร์คกรุปที่เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะของเซิร์ฟเวอร์ที่แท้จริงในขณะที่ราคาอยู่ในระดับเครื่องเดสท์ท็อป และเครื่อง DIGITAL Server 1200 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องรุ่นใหม่ในตระกูลนี้จะใช้โพรเซสเซอร์ Pentium II 233 MHz ได้ทั้งแบบตัวเดียวและสองตัว
- DIGITAL Server 3000 Series เซิร์ฟเวอร์ในระดับกลางที่จำหน่ายในราคาเครื่องระดับ entry-level ที่มีให้เลือกทั้งรุ่นที่ติดตั้งไว้กับตัวเครื่องและแบบ rack-mount เครื่อง DIGITAL Server รุ่น 3100R, 3200R และ 3205R จะเป็นเครื่องแบบ rack-mounted ที่ใช้โพรเซสเซอร์ Intel Pentium Pro 200MHz และ Pentium II 266 และ 300 MHz ตามลำดับ เครื่อง DIGITAL Server 3100, 3200 และ 3205 เป็นการเปลี่ยนชื่อใหม่จากเครื่อง DIGITAL Prioris MX ที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้ว โดยเครื่องจะใช้โพรเซสเซอร์ Intel Pentium Pro 200 เมกะเฮิรตซ์ และ Intel Pentium II 266 และ 300 เมกะเฮิรตซ์ได้ทั้งแบบตัวเดียวและสองตัว และสำหรับองค์กรที่ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ดิจิตอล ยังมีเครื่อง DIGITAL Server 3300/3305, 3300R/3305R ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้โพรเซสเซอร์ Alpha ความเร็ว 400 และ 500 เมกะเฮิรตซ์ให้เลือกใช้
- DIGITAL Server 500 Series เป็นแอปปลิเคชั่นเซิร์ฟเวอร์ที่มีคุณสมบัติระดับองค์กร เช่น ช่องติดตั้งอุปกรณ์แบบถอดเปลี่ยนในขณะที่เครื่องทำงานอยู่และการทำซ้ำ เครื่อง DIGITAL Server 5205 เป็นเครื่องรุ่นใหม่ในตระกูลนี้ที่ใช้โพรเซสเซอร์ Pentium II 300 MHz ได้ทั้งแบบตัวเดียวหรือสองตัว ในขณะที่เครื่อง DIGITAL Server 5100, 5105 และ 5200 เป็นชื่อใหม่ของเครื่องรุ่น DIGITAL Prioris HX ซึ่งเคยได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้ว โดยมีให้เลือกใช้ทั้งรุ่นที่ใช้โพรเซสเซอร์ Intel Pentium Pro 200MHz และ Pentium II 266MHz และสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพในระดับองค์กรและมีราคาในระดับแอปปลิเคชั่นเซิร์ฟเวอร์ ก็มีเครื่องรุ่น DIGITAL Server 5300 และ 5305 ที่ใช้โพรเซสเซอร์ Alpha ความเร็ว 400 และ 533 ตามลำดับมาให้เลือกใช้
- DIGITAL Server 7000 Series เป็นเซิร์ฟเวอร์ในระดับองค์กรที่ต้องใช้การประมวลผลมากๆ DIGITAL Server 7100 เป็นเครื่องแบบติดตั้งกับตัวเครื่องที่ใช้โพรเซสเซอร์ Intel Pentium Pro 200MHz ได้ตั้งแต่หนึ่งถึงสี่ตัว และสามารถอัปเกรดหน่วยความจำแบบ DIMM ได้สูงถึง 4 กิกะไบต์และเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด คือ DIGITAL Server 7100H ซึ่งเป็นรูปแบบ rack-mounted และด้วยเหตุที่เครื่องหล่านี้ประกอบด้วยคุณสมบัติในการใช้งานที่ยอดเยี่ยมจึงทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ การทำงานกับแอปปลิเคชั่นที่ต้องใช้การประมวลผลมากๆ และทำงานได้ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบคลัสเตอร์ เครื่อง DIGITAL Server 7300/7305/7300R/7305R เป็นรุ่นที่ใช้โพรเซสเซอร์ Alpha 400 หรือ 533MHz ได้ตั้งแต่หนึ่งถึงสี่ตัว และมีทั้งรุ่นที่ติดกับตัวเครื่องและแบบ rack-mounted เครื่องเหล่านี้ได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการทำงานกับแอปปลิเคชั่นด้านเมล์/ข่าวสาร และฐานข้อมูลขนาดใหญ่
- DIGITAL Server 9000 Series เป็นเครื่องในระดับซูเปอร์เซิร์ฟเวอร์สำหรับองค์กรที่ให้ความสามารถในการขยายโพรเซสเซอร์ได้ถึง 8 ตัว และขยายหน่วยจัดเก็บข้อมูลและ I/O ให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เครื่อง DIGITAL Server 9100R จะใช้โพรเซสเซอร์ เพนเทียมโปร 200MHz ได้ตั้งแต่หนึ่งถึงแปดตัว และมีให้เลือกใช้ทั้งรุ่นที่ติดตั้งกับตัวเครื่องและแบบ rack-mounted นอกจากนั้ยังให้การขยาย I/O ที่มีขนาดใหญ่ (มีสล็อตแบบ PCI 15 สล็อตและ EISA 4 สล็อต) และสามารถอัปเกรดหน่วยจัดเก็บข้อมูลภายใน (สำหรับรุ่นที่ติดตั้งกับตัวเครื่อง) ได้ถึง 218 กิกะไบต์
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: ราเมศ รัตยันตรกร
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด
โทร. 331-9384-5--จบ