กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--TCEB
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บคว้าชัยชนะการประมูลสิทธิ์ เบียดเกาหลี ดึงสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติแห่งภูมิภาคเอเชียย้ายสำนักงานใหญ่มาตั้งในประเทศไทย เผยไทยได้รับเลือกเพราะความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์ศูนย์กลางของภูมิภาค จุดเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจด้วยเครือข่ายความร่วมมือระดับภูมิภาคหลากหลายทั้งอาเซียน อนุภาคลุ่มน้ำโขง และอ่าวเบงกอล พร้อมแผนกลยุทธ์การตลาดสำหรับส่งเสริมบทบาทสมาคมในภูมิภาคนี้
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการทีเส็บ เปิดเผยว่า ประเทศไทยสามารถเอาชนะประเทศเกาหลีในการแข่งขันประมูลสิทธิ์เสนอตัวเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติแห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ Asian Association of Conventions and Visitors Bureaus หรือ AACVB ซึ่งได้เปิดรับข้อเสนอและพิจารณาตัดสินในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยจะย้ายสำนักงานมาตั้งในกรุงเทพฯ ประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 จากเดิมมีสำนักงานอยู่ที่ประเทศมาเก๊านับตั้งแต่ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2526 รวมระยะเวลาทั้งสิ้นกว่า 30 ปี
“การที่ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสมาคม AACVB ครั้งนี้ มีความหมายมาก เพราะสมาคมฯนี้เป็นการรวมตัวกันขององค์กรส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการของภูมิภาคเอเชีย โดยในปัจจุบันมีประเทศสมาชิกจำนวน 8 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง เกาหลี มาเก๊า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาด ตลอดจนการพัฒนาธุรกิจและส่งเสริมการตลาดร่วมกันเพื่อส่งเสริมภูมิภาคเอเชียให้เป็นจุดหมายหลักของการจัดงานไมซ์ในระดับโลก และการที่ AACVB ตัดสินใจเลือกประเทศไทย เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์และบทบาทของประเทศในฐานะจุดศูนย์กลางเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจ และการพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุมของภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสอดรับกับแบรนด์ Thailand CONNECT ที่มุ่งเน้นสะท้อนภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมไมซ์ประเทศไทยในการเป็นผู้เชื่อมโยงธุรกิจสู่ความสำเร็จระดับโลกภายใต้สโลแกน Your Global Business Events Connection
นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากแนวคิดที่ใช้ในการประมูลสิทธิ์ คือ “Be the Best in Bangkok” นำเสนอจุดแข็งของประเทศไทยและกรุงเทพฯว่า จะช่วยผลักดันบทบาทของสมาคมฯให้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมที่ดีที่สุดสมาคมหนึ่งของโลก ขณะที่ประเทศไทยพยายามจะขับเคลื่อนการเติบโตผลักดันให้เอเชียเป็นจุดหมายสำหรับการจัดงานธุรกิจต่างๆ โดยนำเสนอจุดแข็งของประเทศไทย ได้แก่ การเป็นจุดเชื่อมโยงในด้านต่างๆของอุตสาหกรรมไมซ์ ประเทศไทยยังมีเครือข่ายความร่วมมือที่สำคัญระดับภูมิภาคในหลากหลายกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อตลาดของอุตสาหกรรมไมซ์ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS กลุ่มความร่วมมือในอ่าวเบงกอล หรือ BIMSTEC
ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยยังมีพันธะสัญญาในโครงการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่างๆเพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาคนี้เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปีพ.ศ.2558 ทั้งด้านคมนาคมทางอากาศ ระบบขนส่งทางบก ท่าเรือเดินทะเล ระบบรถไฟ นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบายสำคัญอันดับแรกๆที่จะสนับสนุนการจัดงานธุรกิจต่างๆภายใต้กรอบการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2557 ภายใต้โครงการ “Thailand’s New Growth Model” ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556
ยิ่งกว่านั้น ตลอด 30 ปีที่ผ่านมานับแต่ก่อตั้งสมาคม AACVB ไทยเป็นสมาชิกที่มีความตื่นตัวและให้ความร่วมมือกับสมาคมในทุกๆด้านมาตลอดและเคยได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมฯ ติดต่อกันนาน 4 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2551-2554 ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ในกลุ่มประเทศสมาชิกและภูมิภาค อาทิ การจัดตั้งกิจกรรมประชุมนานาชาติ Asia for Asia Forum
“ด้วยทำเลที่ตั้งประเทศไทยทางด้านภูมิศาสตร์ ความพร้อมของเครือข่ายความร่วมมือกับกลุ่มประเทศต่างๆ ทั้งอาเซียน GMS BIMSTEC ที่กำลังถูกจับตามองว่าจะเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงในอนาคตของเอเชีย ตลอดจนการสนับสนุนของรัฐบาลไทย จะช่วยอำนวยความสะดวกและขยายผลการทำงานของสมาคม AACVB ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการจัดประชุมในภูมิภาคเอเชียร่วมกับกลุ่มประเทศสมาชิกได้อย่างมีเอกภาพ”นายนพรัตน์ กล่าวสรุป