กรุงเทพ--22 เม.ย.--ล็อกซ์เล่ย์
ตั้ง "ล็อกซ์คอมม์" ลุยตลาดโทรคมนาคมทั่วทั้งทวีปยุโรปตั้งเป้าหวังครองเจ้าตลาด
นายพัลลภ นาคพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ บิสซิเนส อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด และประธานกรรมการของล็อกซ์คอมม์ เปิดเผยว่า "ขณะนี้ล็อกซ์บิท ได้ร่วมลงทุนกับ บริษัทแฟกซ์ & โฟน บีวี จำกัด (FAN AND PHONE B.V.) ของประเทศเนเธอร์แลนด์ จัดตั้งบริษัท ล็อกซ์คอมม์ (LOXCOMM) จำกัด ขึ้นโดยบริษัท ล็อกซ์บิท ถือหุ้น 60% และบริษัท แฟกซ์ & โฟน บีวี จำกัด ถือหุ้น 40% ซึ่งบริษัทล็อกซ์คอมม์มีที่ตั้งอยู่ที่เมือง HUIZEN ประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีบริษัทในเครือคือ บริษัท LOXCOMM AMERICA INC. อยู่ที่เมือง ดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
"บริษัท ล็อกซ์คอมม์ (LOXCOMM) จำกัด จะให้การบริการทางด้านโทรคมนาคม (TELECOMMUNICATIONS) แบบเพิ่มมูลค่าครบวงจร โดยจะเริ่มต้นที่บัตรพินโฟนซึ่งเป็นบัตรโทรศัพท์แบบชำระเงินล่วงหน้า (PREPAID CALLING CARD) เป็นหลัก โดยทางล็อกซ์บิทได้มีโครงการพินโฟน 108 ให้กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยและโครงการลักษณะเดียวกัน ในศรีลังกา นอกจากนี้ บริษัท ล็อกซ์คอมม์ ยังให้การบริการทางด้านอื่น ๆ เช่น การฝากและการส่งข้อความด้วยเสียง (Voice Mail) และ โทรศัพท์แบบมีภาพ (Virtual Telephony) การให้บริการ Enhanced Fax Services และ ระบบการชำระงินทางอิเลคโทรนิค (Electronic Payment Systems) พร้อมทั้งเป็นเจ้าของเครื่องหมายทางการค้า "PINPHONE" ในประเทศเนเธอร์แลนด์
"บริษัท ล็อกซ์คอมม์ จำกัด มีลูกค้าหลักรายแรกของบริษัท คือ สายการบินแห่งชาติ เนเธอร์แลนด์ KLM ROYAL DUTCH โดยทางสายการบินจะให้บัตร PIN PHONE แก่ผู้โดยสารของ KLM ทุกท่าน ณ ท่าอากาศยาน SCHIPOL ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ซึ่งถือว่าเป็นท่าอากาศยานหลักขนาดใหญ่สำหรับสายการบินต่าง ๆ ในยุโรป ผู้โดยสารจะได้รับบัตรพินโฟนซึ่งสามาถโทรได้ 3 นาทีฟรี ไปยังที่ต่าง ๆ ในโลกนี้ได้ผ่านทางเครือข่ายของล็อกซ์คอมม์ โดยผู้โดยสารสามารถเพิ่มมูลค่าการใช้บัตรพินโฟนได้ จากเครดิตการ์ดตามต้องการโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถเติมจำนวนเงินได้ถึง 25 เหรียญสหรัฐหรือมากกว่านั้นเพื่อใช้ในการโทรศัพท์ ทั้งนี้บัตรพินโฟนของล็อกซ์คอมม์สามารถใช้งานได้จากสถานที่ต่าง ๆ เช่นที่บ้าน สำนักงาน โรงแรมหรือโทรศัพท์สาธารณะ โดยที่การร่วมทุนในครั้งนี้ถือได้ว่าเป้นก้าวสำคัญของการขยายธุรกิจออกเป็น 2 ส่วนโดยในส่วนแรกเป็นการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการบริการ และในส่วนที่ 2 เป็นการขยายธุรกิจการลงทุนไปสู่ระดับนานาชาติ" นายพัลลภ กล่าวสรุป
ส่วนทางด้าน นายเอ็ดเวิดร์ สโตร์ก ประธานบริษัท แฟกซ์ & โฟน บีวี จำกัด และประธานบริหารของล็อกซ์คอมม์ เปิดเผยว่า "จากประสบการณ์ของล็อกซ์บิทในด้านการทำโครงการพินโฟนในประเทศไทยและศรีลังกา เป็นส่วนสำคัญในการร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจในครั้งนี้ ซึ่งเราจะนำเอาประสบการณ์ ความรู้ความชำนาญของล็อกซ์บิทในประเทศไทยทางด้านพินโฟนไปสู่ยุโรป พร้อมกันนี้เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในการได้สายการบิน KLM มาเป็นลูกค้ารายสำคัญ ซึ่งทางล็อกซ์คอมม์ได้ให้บริการและการขยายบัตรพินโฟนให้กับผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าอีก 2 บริษัท ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้าย โดยความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ทางล็อกซ์คอมม์จะแถลงให้ทราบต่อไป"
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : คุณราเมศ รัตยันตรกร บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โทร.331-9384-5--จบ--