กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--WorkLink
PPS โชว์กำไรไตรมาส 3 โตกว่า 36.57%ที่ 7.88ล้านบาท จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีบวกรับงานใหม่เพิ่มเผยแผนโค้งสุดท้าย รุกเดินหน้าคว้างานภาคเอกชนต่อพร้อมขยายฐานลูกค้าภาคพลังงาน อุตสาหกรรม จับมือพันธมิตรเตรียมพร้อมประมูลงานบริหารโครงการภาครัฐ
นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ว่า บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 79.40ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.71ล้านบาท หรือ 15.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 68.69ล้านบาทและมีกำไรสุทธิจำนวน 7.88ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น2.11ล้านบาท หรือ 36.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 5.77ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 16.42ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 14.40 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตเนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรับงานบริหารงานโครงการ และมีการจัดการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีส่งผลให้ค่าใช้จ่ายรวมลดลง และอัตราส่วนในการทำกำไรของไตรมาส 3ปรับตัวดีขึ้น แม้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจะมีการรับพนักงานเพิ่ม เพื่อรองรับปริมาณงานที่มากขึ้น แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรแต่อย่างใด
“การเติบโตของบริษัทในไตรมาส 3ที่ผ่านมา เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ มีการรับรู้รายได้จากงานบริหารโครงการทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่มากขึ้น อีกทั้งมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เชื่อว่าในปีนี้รายได้รวมของบริษัทจะเติบโตอย่างน้อย 10% หรือมีรายได้รวมประมาณ 280 ล้านบาทตามเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งการเติบโตดังกล่าว ยังไม่รวมถึงการเข้ารับงานออกแบบของบริษัทลูกซึ่งจะทยอยเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้”นายธัชกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานโค้งสุดท้ายของปี 56 บริษัทยังคงเดินหน้ารุกเสนองานภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง แต่จะเน้นการเสนองานบริหารโครงการก่อสร้างในภาคธุรกิจพลังงานและโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งหากบริษัทได้รับงานจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าว จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานในปี 57 อย่างต่อเนื่อง ขณะที่งานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ บริษัทมีความพร้อมเป็นอย่างมากในการเข้าเสนองาน โดยได้มีการเจรจากับพันธมิตรหลายรายเพื่อเสนองานร่วมกัน แต่ขณะนี้ยังต้องรอความชัดเจนในการเริ่มดำเนินโครงการ
ส่วนมูลค่างานในมือ ณ สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ประมาณ 320ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีนี้ไปจนถึงปี2559 ทั้งนี้บริษัทมีการรับงานบริหารโครงการใหม่และเข้าเสนองานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ ขณะเดียวกันยังได้เตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัวของงานบริหารโครงการ โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรมีการฝึกอบรมสัมมนา เสริมทักษะการปฏิบัติงานให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ และเริ่มมีการนำเทคโนโลยีด้านไอทีเข้ามาช่วยในงานบริหารโครงการ เพิ่มการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ