กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--IR network
บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) สร้างความประทับใจอีกครั้ง โชว์กำไรไตรมาส 3/2556 ทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง งวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 112.27 ล้านบาท พุ่งกระฉูดถึง 335.25% สร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้น พร้อมรับปันผลจาก “บ่อพลอย โซล่าร์” 56.8 ล้านบาท ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จังหวัดลพบุรี อยู่ในขั้นตอนสุดท้าย คาดเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ รวมทั้งเดินหน้าลงทุน Solar Roof จำนวน 9 โครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนขอใบอนุญาต ส่วนการเจรจากับพันธมิตรที่ญี่ปุ่นเพื่อลงทุนโซลาร์ฟาร์ม ขนาด 100 เมกะวัตต์ จะได้ข้อสรุปโครงการแรกช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ที่เหลือได้ข้อสรุปไตรมาส 1 และ 2 ปีหน้า พร้อมยืนยันรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 30% กำไรเพิ่มเกิน 160%
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยถึงผลดำเนินงานไตรมาส 3/2556 ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 179.52 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 132.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 และกำไรสุทธิ 23.91 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 2.31 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าจากบ่อพลอย โดยงวด 9 เดือนมีรายได้รวม 595.96 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 473.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 และกำไรสุทธิ 112.27 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 335.25 โดยเป็นกำไรจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ 56.26 ล้านบาท และกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้า 56.01 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 128.46 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.72 ซึ่งเป็นรายได้จากสิ่งพิมพ์ลดลง 25.32 ล้านบาท และรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเป็นเงิน 153.78 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทฯ มีต้นทุนขายลดลง 14.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.70 ซึ่งเป็นต้นทุนสิ่งพิมพ์ลดลง 48.61 ล้านบาท และต้นทุนโรงไฟฟ้าเป็นเงิน 34.53 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 5.94 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.86 เนื่องจากมีการโอนกลับหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5.82 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 33.55 ล้านบาท เนื่องจากใช้เงินกู้ยืมในโครงการโรงไฟฟ้า จึงมีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น
“ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ที่ผ่านมาที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่อง เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ด้วยวิสัยทัศน์และศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นเป็นอย่างมาก โดยมีสัดส่วนรายได้ขายจากสิ่งพิมพ์ร้อยละ 70.4 ไฟฟ้าร้อยละ 29.6 และงวด 9 เดือน มีรายได้การขายจากสิ่งพิมพ์ร้อยละ 73.3 ไฟฟ้าร้อยละ 26.7 โดยประมาณการทั้งปีจะมีรายได้ขายจากสิ่งพิมพ์ทั้งสิ้นร้อยละ 66.6 และไฟฟ้าร้อยละ 33.3”
นายยุทธ กล่าวต่อถึงความคืบหน้าแผนการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาหรือโซลาร์รูฟ (Solar PV Rooftop) ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด หลังจากได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายไฟฟ้า โดยแบ่งเป็นโครงการของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 11 โครงการ กำลังการผลิต 2.2 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ได้รับคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 9 โครงการ กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่างๆ
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าไปมาก ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้าย คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบต่อไป ส่วนแผนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการโซล่าร์ฟาร์ม (Solar Farm) ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 100 เมกกะวัตต์ ซึ่งซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปโครงการแรก 24 เมกะวัตต์ช่วงไตรมาส 4/2556 และไตรมาส 1/2557 จะได้ข้อสรุปอีก 3 โครงการ ประมาณ 32 เมกะวัตต์ และไตรมาส 2/2557 ได้ข้อสรุปอีก 2 โครงการ ประมาณ 40 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังมีแผนการขยายไปทำธุรกิจในประเทศอื่นๆ อาทิ ลาวและกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุน ตลอดจนการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Energy) อื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพและฐานรายได้
“ภาพรวมธุรกิจของ EPCO ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน โดยยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 หรือประมาณ 900 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ที่ 691.17 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่โตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพิ่มขึ้นร้อยละ 160 จากปีก่อนที่ทำได้ 65.21 ล้านบาท เนื่องจากจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัดขึ้น ซึ่งเป็นผลจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่มีกำไรมากขึ้น และรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า” ประธานกรรมการบริหาร บมจ. โรงพิมพ์ตะวันออก กล่าวในที่สุด