กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--นิโอ ทาร์เก็ต
ประเทศไทย จัดเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางภูมิศาสตร์ ทำการเกษตรได้ผลผลิตดี และมีคุณภาพ ประเทศไทยจึงเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ข้าว” ซึ่งถือเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาขาดแคลนเกษตรกร โดยข้อมูลของจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ พบว่าอายุเฉลี่ยของเกษตรกรไทยนับวันจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 2523 อายุเฉลี่ยเกษตรกรไทยอยู่ที่ 33 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 40 ปี ในปี 2545 และเพิ่มเป็น 51 ปี ในปี 2550 เนื่องจากคนรุ่นใหม่ได้หันไปทำอาชีพอื่นแทนเพราะเชื่อว่าการเป็นเกษตรกร เป็นอาชีพที่มีแต่ความเหนื่อยยากลำบาก และทำเงินได้น้อย
บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัด “กิจกรรม KUBOTA Smart Farmer Camp 2013” ภายใต้แนวคิด “เปิดหัวใจ เปิดเส้นทางสู่เกษตรกรรมยุคใหม่” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 เพื่อกระตุ้นให้นิสิต นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และการพัฒนาแนวทางการทำเกษตรเพื่อให้เกิดการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พร้อมเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเกษตรยุคใหม่ และทดลองฝึกฝนการทำการเกษตรด้วยเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย โดยในปีนี้มีนิสิต นักศึกษาที่มีความสนใจจากทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการมากถึง 2,264 คน และผ่านคัดเลือกเหลือเพียง 100 คน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเป็นเวลา 6 วัน ที่โรงแรมพินนาเคิลรีสอร์ทแอนด์สปา จอมเทียน จังหวัดชลบุรี
นายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงโครงการนี้ว่า“ภาคการเกษตรเป็นรากฐานของชีวิตคนไทยมายาวนาน แต่ในปัจจุบันภาคเกษตรกรรมกำลังถูกลดความสำคัญลง เนื่องจากถูกมองว่าเป็นงานที่หนัก เหนื่อย หรือมีเกียติน้อยกว่าอาชีพอื่น ๆ ซึ่งสยามคูโบต้าตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว จึงมีแนวคิดที่อยากจะปลูกฝังแนวความคิดให้กับเยาวชน คนรุ่นใหม่ ว่าภาคการเกษตรไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ทุกวันนี้เรามีองค์ความรู้ มีเครื่องไม้ เครื่องมือ ที่เข้ามาช่วยให้เราทำการเกษตรได้ง่ายขึ้น ซึ่งบริษัทได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 13 ปี แล้ว โดยใช้ชื่อว่า ค่ายยุวเกษตร และได้มีการเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น KUBOTA Smart Farmer Camp เมื่อปี 2555 ผมหวังว่าโครงการนี้ จะช่วยจุดประกายความคิด หรือดึงจิตวิญญาณการทำการเกษตรที่มีอยู่ในตัวตนของทุกคนออกมาร่วมกันพัฒนาภาคการเกษตรของไทย ให้เติบโตโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศไทยของเราได้อย่างยั่งยืน และสำหรับประสบการณ์ ความรู้ ที่น้อง ๆ ได้มีโอกาสได้เก็บเกี่ยวจากค่ายในครั้งนี้ ก็อยากจะให้มีการนำไปเผยแพร่ต่อให้กับเพื่อน ๆ หรือสร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป”
กิจกรรม KUBOTA Smart Farmer Camp ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดี และมีประโยชน์ สร้างความรู้ เสริมสร้างประสบการณ์ที่ไม่ใช่เพียงแค่เกษตรกรรมเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลในการดำเนินชีวิตที่ดี ที่สำคัญตลอดระยะเวลา 6 วันที่น้อง ๆ นิสิต นักศึกษาได้ใช้ชีวิตร่วมกันทำให้ก่อเกิดมิตรภาพที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ เก็บเป็นความประทับใจตลอดไป สำหรับนิสิต นักศึกษา ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมในปีถัดไป สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.siamkubota.co.th และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางwww.facebook.com/kubotacamp