กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.พรพรหมเม็ททอล หรือ PPM โชว์งบผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2556 กำไรแตะ 10.78 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 401.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.56% ด้านกรรมการผู้จัดการ “ชำนาญ พรพิไลลักษณ์” ระบุสาเหตุที่ผลการดำเนินงานดีขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของยอดขายที่เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น พร้อมเตรียม Grand opening The Salaya ปลาย พ.ย.นี้ เชื่อจะมีรายได้เพิ่มเฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อปี
นายชำนาญ พรพิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2556 (กรกฎาคม - กันยายน) ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 401.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 373.17 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้นในสำหรับไตรมาสนี้ 49.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.57% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 44.06 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.78 ล้านบาท ลดลง 5.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.37% เนื่องด้วยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม - กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้ที่ 1,194.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.81% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 53.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.78 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.20% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 47.37 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับสาเหตุที่บริษัทฯ มีอัตราผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยรวมของบริษัทฯ ได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการขยายพื้นที่ในการจำหน่าย โดยผ่านตัวแทนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้บริษัทฯ อัตราการขยายตัวของผลการดำเนินงานอย่างเด่นชัดในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายชำนาญ ยังได้กล่าวถึงแผนในการขยายงาน โดยเฉพาะการสร้างศูนย์การค้าที่อำเภอศาลายา หลังมหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้ “The Salaya” ซึ่งเป็น Education Hub บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร โดยในเบื้องต้นบริษัทฯ คาดว่าจะ Grand opening ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม สำหรับประมาณการรายได้ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 1.7-1.9 พันล้านบาท บริษัทฯ คาดว่ากำไรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 58.62 ล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีความสามารถทำกำไรได้แล้วกว่า 42.37 ล้านบาท โดยการเติบโตของกำไรมาจากบริษัทฯ ได้มีการประกอบกิจการทั้งหมดถึง 7 ธุรกิจ มีการบริหารจัดการทางด้านต้นทุนได้ดีมากขึ้น มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น และการขยายฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ พร้อมทั้งมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดรับกับการแข่งขันทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง