กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAC) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2556 กำไร 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนประสิทธิภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง พร้อมผนึกพาร์ทเนอร์ต่างชาติ ขยายศักยภาพ เดินหน้าสร้างโรงผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) อย่างต่อเนื่อง มั่นใจผลงานสิ้นปีนี้เกินเป้า
นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกและและจำหน่ายสินค้าและบริการที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลังงาน เปิดเผยถึง ผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2556 (กรกฎาคม-กันยายน) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 248 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2556 (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 625 ล้านบาท ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผลการดำเนินงานที่เติบโตสะท้อนถึงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัท และการขยายตัวเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ รวมทั้งการทำงานเป็นทีมร่วมใจกันของพนักงาน
นายชัชพล ประสพโชค รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า สำหรับการขยายโรงผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) ทั้ง 20 โรงนั้น บริษัทฯ ได้เริ่มงานออกแบบก่อสร้างทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการยื่นใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ ทั้งนี้จะสามารถเริ่มงานก่อสร้างโรงงานใหม่ 2 โรงในจังหวัดเชียงใหม่ได้ภายในเดือน พฤศจิกายนนี้ โดยการก่อสร้างจะควบคุมดูแลโดยบริษัท เซบิกาซยูเอซี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ยูเอซี กับ SEBIGAS อิตาลี ส่วนโครงการที่ร่วมทุนกับนักลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบริษัท ยูเอซีทีพีที จำกัด น่าจะเริ่มงานก่อสร้างโรงงานแรกได้ภายในเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน คาดว่า โรงงาน 3 โรงแรกจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 3/2557 และ บริษัทฯ จะเร่งโครงการทั้งหมด 20 โครงการ ให้ทยอยแล้วเสร็จครบทั้งหมดภายในปี 2015 โดยกำลังการผลิต CBG อยู่ที่ 6 ตันต่อวัน หรือเทียบเท่ากำลังผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกะวัตต์ต่อโรง
“ หลังจากนี้ปี 2015 โครงสร้างธุรกิจของ UAC จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น โดยจะเติบโตจากธุรกิจพลังงานทดแทนมากขึ้นซึ่งหลังจากรับรู้รายได้จากการลงทุนต่าง ๆ ในเชิงพาณิชย์แล้ว เมื่อรวมกับรายได้จากธุรกิจในการจำหน่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ ก็จะทำให้รายได้ของ UAC มีอัตราการเติบโตที่ดีในระยะยาว และมีรายได้ที่แข็งแกร่ง ” นายชัชพล กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ในปี 2556 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จากผลงานในไตรมาส 3 ที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายต่อเนื่องกว่า 20% สะท้อนความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีที่อยู่ในสภาวะที่ดีต่อเนื่องไปถึงกลางปี 2557 ตามยอด Backlog ที่ได้รับมา