Bangkok--14 Nov--ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยแนะเอสเอ็มอีลดต้นทุนพลังงาน ออกบริการสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย วงเงินกู้ 100% ของค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหลอดไฟ ไม่ต้องมีหลักประกัน ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้สูงสุด 80% เฉลี่ยคืนทุนภายใน 2 ปี พร้อมจับมือ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มอบเงินสนับสนุนแผนลงทุนที่ผ่านเกณฑ์
นายบุนชาน กุลวทัญญู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องมีการปรับตัวเพื่อรับการแข่งขันและต้นทุนทางธุรกิจที่เพิ่มสูง โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้า ที่มีสัดส่วนประมาณ 10% ของต้นทุนทั้งหมดในธุรกิจ ดังนั้น การบริหารจัดการเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในธุรกิจจึงนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระยะยาวได้
ธนาคารกสิกรไทยจึงได้ออก บริการสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย (K-Top Up Loan for Energy Saving (Lighting Solution)) ให้วงเงินสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการ ในการลงทุนปรับเปลี่ยนหลอดไฟที่ใช้ในธุรกิจ ให้เป็นหลอดประหยัดไฟ LED ซึ่งจะช่วยเรื่องการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ถึง 80% พร้อมร่วมมือกับภาครัฐ ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการนำแผนการลงทุนเปลี่ยนหลอดไฟ LED ของผู้ประกอบการที่ผ่านหลักเกณฑ์เข้ารับเงินสนับสนุนจากภาครัฐอีกด้วย
สำหรับผู้ประกอบการที่ยื่นขอวงเงินสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 100% ของเงินลงทุนทั้งหมดที่ใช้ในการเปลี่ยนหลอดไฟ ได้แก่ ค่าหลอดไฟ LED ค่าติดตั้ง และค่าดำเนินการอื่น ๆ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 3 ปี อนุมัติภายใน 2 วันทำการ หลังจากผู้ประกอบการสรุปและเสนอแผนการลงทุนให้กับธนาคาร
นอกจากนี้ จะได้รับบริการครบวงจรจากบริษัทจัดการด้านพลังงาน (ESCO) และบริษัทซัพพลายเออร์หลอดไฟที่มีความรู้ด้านการจัดการพลังงานแสงสว่างที่ร่วมโครงการ ได้แก่ บริการคำแนะนำในการวางแผนปรับเปลี่ยนหลอดไฟ คุณภาพแสงสว่างที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้า และผลการประหยัดไฟฟ้าที่จะได้รับจากการลงทุนเปลี่ยนหลอดไฟ โดยบริษัท ESCO และซัพพลายเออร์จะเป็นผู้รับประกันผลคุณภาพสินค้า (Warrantee Product) สำหรับตัวหลอดไฟ LED และรับประกันผลการประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการลงทุน (Warrantee Performance)
สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเข้ารับบริการสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย เป็นธุรกิจที่มีการใช้ไฟฟ้า 12 ชั่วโมงต่อวัน เช่น อุตสาหกรรมผลิตอาหาร เครื่องดื่ม เคมี กระดาษ สิ่งทอ โรงพยาบาล โรงแรม ธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น ติดต่อสอบถามได้ที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าผู้ประกอบการ (RM) หรือที่ K-Biz Contact Center 0 2888 8822
นายประมวล จันทร์พงษ์ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้จัดโครงการส่งเสริมวัสดุและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องจักรเพื่อการประหยัดพลังงาน โดยจะให้เงินสนับสนุนในสัดส่วนสูงสุด 30% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย ทั้งนี้แผนการลงทุนของผู้ประกอบการที่ขอรับเงินสนับสนุน จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่โครงการกำหนด โดยราคาอุปกรณ์และค่าติดตั้งเป็นไปตามราคากลางที่ พพ. กำหนด และมีระยะเวลาคืนทุน ไม่เกิน 7 ปี
นายสุวัฒน์ เชี่ยวชาญชัย รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยว่า ได้จัดโครงการอุตสาหกรรมประหยัดไฟ ช่วยไทยลดใช้พลังงาน 1 เซฟ: 1 บาท ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงอุตสาหกรรม และ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน มอบเงินสนับสนุนตามพลังงานไฟฟ้าที่ประหยัดได้ คิดที่อัตราคงที่ 1 บาทต่อไฟฟ้าที่ประหยัดได้ 1 กิโลวัตต์ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่โครงการกำหนด อาทิ เป็นแผนการเปลี่ยนจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ T8 มาใช้หลอดไฟ LED ตั้งแต่ 250 หลอดขึ้นไป มีผลการใช้พลังงานไฟฟ้าลดลงไม่ต่ำกว่า 50% จากที่เคยใช้ภายใต้อุปกรณ์เดิม คุณภาพและอายุการใช้งานหลอดไฟชุดใหม่ดีกว่าหลอดเดิม และมีค่าความสว่างและอายุการใช้งานไม่ด้อยกว่าหลอดเดิมด้วย
นายบุนชาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเลือกขอสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย ทั้งมูลค่าการลงทุน หรือในกรณีที่แผนการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามโครงการของภาครัฐ ผู้ประกอบการสามารถขอรับเงินสนับสนุนจากภาครัฐส่วนหนึ่ง และขอรับวงเงินสินเชื่อเพื่อประหยัดไฟกสิกรไทยสำหรับส่วนที่เหลือได้ ทั้งนี้ การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ที่มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงาน ถือเป็นมาตรการลดใช้พลังงานอย่างง่ายที่เริ่มดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการลงทุนที่โครงการสามารถชำระหนี้ได้ด้วยตัวเอง (Self-financing project) โดยการนำเม็ดเงินที่เป็นผลจากการประหยัดพลังงานมาชำระหนี้ จึงไม่กระทบต่อกระแสเงินสด ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อจากโครงการนี้ที่ 500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยมีการดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนธุรกิจสีเขียวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการให้สินเชื่อเพื่อการดำเนินธุรกิจเพื่อลดการใช้พลังงาน และการให้สินเชื่อแก่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการ K-Energy Saving Guarantee Program (โปรแกรมสินเชื่อรับประกันการประหยัดพลังงานกสิกรไทย) ให้คำปรึกษาด้านการประหยัดพลังงานอย่างครบวงจรแก่ผู้ประกอบการและให้สินเชื่อสนับสนุนการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบการจัดการด้านพลังงานให้เกิดการประหยัดพลังงานสูงสุด ในรูปของสินเชื่อลีสซิ่งเช่าซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ และเงินกู้ระยะยาว โดยมีบริษัทจัดการด้านพลังงาน (ESCO) รับประกันการประหยัดพลังงาน รวมทั้งการเป็นธนาคารผู้นำด้านการให้สินเชื่อสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก