กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--แสนสิริ
แสนสิริ เผยผลประกอบการไตรมาส 3/56 รายได้โต 36%ขณะที่ผลประกอบการช่วง 9 เดือนโตต่อเนื่อง 25%Presale Backlog ยังสูงสุดในประวัติการครองยอดรอรับรู้รายได้กว่า 61,087 ล้านบาท
กลุ่มแสนสิริ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/56 รายได้เติบโตขึ้น 36% จากปีก่อนโดยรายได้หลักมาจากการโอนคอนโดมิเนียม ในโครงการ 9 Elvaston Place คอนโดมิเนียมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, โครงการเดอะ เบส แจ้งวัฒนะ, โครงการ ซาริ บาย แสนสิริ และออร์นิกซ์ พหลโยธิน ขณะที่ผลประกอบการรวมในช่วง 9 เดือนเติบโตต่อเนื่อง 25% โดยสร้างยอดขายรวม 37,183 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวม 20,020 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 872 ล้านบาท เผยเตรียมส่งมอบคอนโดสร้างเสร็จใหม่อีก 6 โครงการในช่วงไตรมาส 4 ขณะที่ยอด Presale Backlog ยังสูงสุดในประวัติการครองยอดรอรับรู้รายได้ที่ 61,087 ล้านบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในช่วงไตรมาส 3/2556 บริษัทสามารถปิดยอดขายได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวม 7,136 ล้านบาท เติบโตขึ้น 36% จากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 438 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินในช่วง 9 เดือนบริษัทสามารถสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยรวมได้กว่า 37,183 ล้านบาท มียอดรายได้รวมกว่า 20,020 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 872 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันหรือ 9 เดือนของปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้รวมที่ 16,013 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 25% โดยปัจจุบัน (1 มกราคม - 14 พฤศจิกายน 2556) บริษัทสร้างยอดขายรวมได้แล้วกว่า 41,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นสถิติการสร้างยอดขายที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ
“ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจโดยมีรายได้หลักมาจากการโอนคอนโดมิเนียมในโครงการ 9 Elvaston Place คอนโดมิเนียมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, โครงการเดอะ เบส แจ้งวัฒนะ, โครงการ ซาริ บาย แสนสิริ และออร์นิกซ์ พหลโยธิน เป็นต้น โดยในปีนี้กลุ่มบริษัทแสนสิริมีพันธกิจที่สำคัญที่จะต้องส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าตามสัญญาเป็นมูลค่าเกือบ 30,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดการโอนที่สูงมากในอันดับต้นๆ ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันบริษัทสามารถสร้างรายได้จากการโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าแล้วประมาณ 19,073 ล้านบาท รวมทั้งในไตรมาสสุดท้ายบริษัทยังมีพันธกิจในการโอนส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่อีกประมาณ 6 โครงการ ได้แก่ ซัมเมอร์, บ้านคุ้นเคย และบ้านคู่เคียง หัวหิน, ดีคอนโด สาธุประดิษฐ์ 49, ดีคอนโด ครีก และดีคอนโด กะทู้ - ป่าตอง ภูเก็ต ” นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนับเป็นช่วงที่ดีที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยที่ได้เลือกหาโครงการต่างๆ มาตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ผลจากการสร้างแบรนด์ที่ดีในช่วงที่ผ่านมายังส่งให้ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่อยู่อาศัยของแสนสิริเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลถึงการครองยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างรอรับรู้รายได้ (Presale backlog) ในอีก 5 ปีข้างหน้าสูงถึงประมาณ 61,087 ล้านบาทซึ่งนับเป็นยอดขายล่วงหน้าที่สูงที่สุดในระบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในขณะนี้ รวมทั้งยังนับเป็นยอดรอรับรู้รายได้ที่สูงที่สุดที่บริษัทเคยทำได้ตั้งแต่ดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกัน