กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--เอ.พี.ฮอนด้า
Honda Big Wing ยกระดับประสบการณ์ขับขี่ครั้งยิ่งใหญ่เหนือใคร จัด Exclusive Trip To Japan (Fukuoka-Kumamoto) พาลูกค้าวีไอพีกว่า 30 ชีวิตควบบิ๊กไบค์ฮอนด้าสู่บ้านเกิด ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้หลักการ S : Society ตอกย้ำแนวคิด “The Destination for Riders” หรือ “จุดหมายปลายทางของนักบิดทุกคน” พร้อมเยี่ยมชมการผลิตรถโรงงานคุมาโมโต้ สะท้อนคุณภาพการผลิตโรงงานไทยฮอนด้าฯ คาดจบปี 2556 ยอดขายโตเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2555 ขณะที่ฮอนด้าบิ๊กไบค์มียอดขายสะสม 9 เดือนกว่า 2,300 คัน พร้อมเตรียมเปิดรถรุ่นใหม่กระหึ่ม Motor Expo 2013 และเปิดศูนย์ฯ Honda Big Wing เพิ่มอีกสองแห่งภายในไตรมาสแรกปีหน้า
มร.โทชิโอะ คาวาซึท กรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด โรงงานคุมาโมโต้ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับลูกค้าวีไอพี “Honda Big Wing” กว่า 30 ท่าน ที่เดินทางมาจากประเทศไทย โดยขับขี่รถบิ๊กไบค์ฮอนด้ารุ่นต่างๆ อาทิ CBR 1000, CBR 1100, 1200, R600, NC700 และ CDX ท่องเที่ยวไปตามเส้นทางมหัศจรรย์ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ บนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการผลิตรถบิ๊กไบค์รุ่นต่างๆ ภายใต้เทคโนโลยีอันทันสมัย ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตอย่างเข้มงวดในทุกๆ ขั้นตอน ณ โรงงานคุมาโมโต้ ซึ่งเป็นฐานผลิตหลักเพื่อการวิจัยพัฒนาและผลิตรถบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่ ทั้งเพื่อจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและส่งออกจำหน่ายทั่วโลก
ขณะที่โรงงานไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง ที่มีขนาดโรงงานและไลน์ผลิตเล็กกว่า โรงงานคุมาโมโต้ แต่คุณภาพการผลิต ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนใดก็ตาม ทั้งสองโรงงานต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ผลิตรถที่มีคุณภาพเหนือความคาดหมายของผู้บริโภค ภายใต้นิยาม “รถบิ๊กไบค์ฮอนด้า ไม่ใช่ขับขี่แล้วเท่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องขับขี่สนุกและปลอดภัยสูงสุด” อีกด้วย โดยปัจจุบันโรงงานไทยฮอนด้าฯ ได้ดำเนินการผลิตรถรุ่น CBR500 และรุ่น CBR 600 เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกทั่วโลก และในอนาคตอันใกล้นี้จะเพิ่มศักยภาพการผลิตรถได้หลากหลายรุ่นมากขึ้น
“ด้วยมาตรฐานการผลิตขั้นสูงสุดของฮอนด้า ที่ถ่ายทอดให้วิศวกรชาวไทยที่มาศึกษาเรียนรู้งาน ณ โรงงานคุมาโมโต้แห่งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการคิดค้นวิจัย พัฒนา และผลิตรถบิ๊กไบค์ที่โรงงานไทยฮอนด้าฯ ที่สั่งสมประสบการณ์การผลิตรถมานานกว่า 48 ปี พนักงานทุกคนมีทักษะฝีมือและประสบการณ์สูงได้ดียิ่งขึ้นไปอีก” มร.โทชิโอะ คาวาซึท กล่าวต่อว่า แนวคิดในการทำงานทุกๆ ขั้นตอน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญต่อการปฏิบัติงานในทุกภาคส่วนของฮอนด้าทั่วโลก คือ คุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด ตั้งแต่คิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนส่งถึงมือผู้บริโภค “อย่างยูนิฟอร์มของพนักงานฮอนด้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในไลน์ผลิตหรือส่วนอื่นๆ ชุดจะเป็นสีขาวเหมือนกัน หากเพียงแค่ชุดที่ใส่ทำงาน พนักงานไม่สามารถดูแลรักษาความขาวสะอาดไว้ได้ ก็ย่อมไม่สามารถรักษาคุณภาพและมาตรฐานสูงสุดเหนือความคาดหวังของผู้บริโภคไว้ได้ ซึ่งโรงงานไทยฮอนด้าฯ ได้ยึดถือหลักปฏิบัตินี้เช่นกัน ขณะที่ตลาดรถบิ๊กไบค์ในประเทศไทยส่งสัญญาณการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และภายในปี 2558 ภูมิภาคอาเซียนจะเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจเสรี หรือ AEC ขึ้น ยิ่งจะช่วยยกระดับให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ส่งผลให้รถบิ๊กไบค์ฮอนด้าเติบโตตามไปด้วยอย่างแน่นอน โดยโรงงานไทยฮอนด้าฯ จะเป็นฐานผลิตที่มีบทบาทในภูมิภาคนี้ด้วย”
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยภาพรวมตลาดรถบิ๊กไบค์เมืองไทยปี 2556 ว่า มีอัตราเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมากว่า 2 เท่าตัว คาดว่ายอดจำหน่ายเมื่อจบปีนี้ จะมีปริมาณราว 12,000-13,000 คัน (ปี 2555 มียอดขายประมาณ 6,000 คัน) ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนหลายประการ ทั้งค่ายผู้ผลิตหลักหันมาทำตลาดอย่างจริงจัง ผนวกกับการมีผู้นำเข้ารถแบรนด์ใหม่จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดหลายราย โดยในส่วนของฮอนด้าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-ตุลาคม 2556) มียอดขายสะสมแล้วกว่า 2,300 คัน ส่วนสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ จะไม่ส่งกระทบต่อตลาดบิ๊กไบค์มากนัก เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับพรีเมียม
“การมีผู้เล่นหลายรายในตลาดถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะช่วยสร้างความคึกคักให้กับตลาด ผู้บริโภคเองมีทางเลือกมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดรถบิ๊กไบค์เติบโตอย่างรวดเร็ว ฮอนด้าก็มีสัดส่วนตลาดเพิ่มตามไปด้วย อีกทั้งการที่เราได้รับความไว้วางใจจากประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นฐานหลักในการผลิตรถบิ๊กไบค์ระดับกลางขนาด 400-500 ซี.ซี. เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก ทำให้ราคาขายถูกกว่านำเข้าเกือบเท่าตัว พร้อมกับยกระดับในการสร้างมาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่าใคร ทั้งการจำหน่ายและการให้บริการของ Honda Big Wing ภายใต้หลักการ 6S คือ Sales, Service, Spare Parts, Safety Riding, Second Hand และ Society ซึ่งเรียนรู้มาจากการทำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กกว่า 40 ปี ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายขึ้น”
โดยเฉพาะ S : Safety Riding หรือการอบรมการขับขี่อย่างถูกวิธีนั้น “Honda Big Wing” ดำเนินการการจัด Big Bike Training เป็นประจำทุกเดือน เพื่อเรียนรู้การขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัย ร่วมถึงกิจกรรม Exclusive Trip ภายใต้หลักการ S : Society โดยเริ่มต้นพาสมาชิกคนคอเดียวกันร่วมขับขี่ภายในประเทศหลายครั้ง และยกระดับการเปิดประสบการณ์ขับขี่สู่ประเทศเพื่อนบ้าน ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดกับ Exclusive Trip To Japan (Fukuoka-Kumamoto) การเดินทางสู่บ้านเกิดของรถบิ๊กไบค์ฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเยี่ยมชมการผลิตในทุกขั้นตอน ณ โรงงานคุมาโมโต้ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อให้สมาชิกสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือใคร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Destination for Riders” หรือจุดหมายปลายทางของนักบิดทุกคนไปตามเส้นทางท่องเที่ยวบนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่สามารถจะแสวงหาได้ง่ายๆ จากที่อื่น นับเป็นการสร้าง Society เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ร่วมกับคนคอเดียวกันอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งของ “Honda Big Wing”
“ปัจจุบันฮอนด้ามีศูนย์บริการ Honda Big Wing อยู่ 5 แห่ง คือ กรุงเทพฯ, พัทยา, เชียงใหม่, อุดร, ภูเก็ต และภายในไตรมาสแรกของปีหน้าจะเปิดเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งเพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น คือ สุราษฎร์ธานีและนครราชสีมา อีกทั้งในงานมหกรรมยานยนต์หรือ Motor Expo 2013 ช่วงปลายปีนี้ ฮอนด้าจะเปิดตัวแนะนำรถบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ล่าสุดให้คนไทยได้สัมผัสเทคโนโลยีแห่งการขับขี่ที่เหนือใครอีกครั้ง” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด