กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--PRDD
สภาวะตลาดวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,271.33-1,276.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ13 อยู่ที่ 19,200 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 130 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,330 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ13 อยู่ที่ 663 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 663 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.55 น.ของวันที่ 19/11/13)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556
แรงซื้อในตลาดทองคำซบเซาลงหลังจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นได้ลดความน่าดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและความน่าสนใจในตลาดทองคำลง ดัชนีดาวโจนส์พุ่งแตะเหนือระดับ 16,000 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ และดัชนี S&P 500 พุ่งแตะเหนือระดับ 1,800 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้เทรดเดอร์ในตลาดทองคำขายทำกำไรทองออกมา ประกอบกับราคาทองคำถูกถ่วงลงอย่างรวดเร็วหลัง นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ระบุถึง ความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และนายชาร์ลส พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่ดีขึ้นบ่งชี้ว่า เฟดควรกำหนด ขนาดของโครงการซื้อพันธบัตรในปัจจุบัน และยุติโครงการเมื่อถึงระดับดังกล่าว ทั้งนี้นักโดยนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟด ประจำวันที่ 29-30 ตุลาคมที่ผ่านมา ในวันเวลาตี 2 ของคืนพุธนี้ และความเห็นของ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ"Communication and Monetary Policy" วันช่วงเช้าพุธนี้ เพื่อประเมินกำหนดเวลาในการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาอ่อนตัวลงได้มีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้ หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีการประชุมผู้นำและเปิดเผยแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี โดยสนับสนุนการเปิดเสรีตลาดมากขึ้น การปล่อยให้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่ผลักดันการบริโภคและการบริการแบบตะวันตก และรัฐบาลจีนยืนยันที่จะเร่งเปิดเสรีทางการเงินและบัญชีทุน เพื่อทำให้เศรษฐกิจของจีนมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้ จีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกและเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพได้สร้างมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำมีการแกว่งตัวและผันผวน และอยู่ในช่วงของการพักฐาน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวผันผวน คาดการณ์ว่าราคาทองคำพยายามพยุงราคาและพยายามตั้งฐานของราคา แต่หากราคาทองคำขยับขึ้นยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านที่ระดับราคา 1,280 -1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างมั่นคง นักลงทุนยังคงต้องระวังการย่อตัวลงของราคาทองคำ โดยหากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นดีดตัวขึ้นระยะสั้นอีกครั้ง ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,267-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับนักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองคำเพื่อลงทุนระยะสั้นจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
ทองคำแท่ง (96.50%
แนวรับ 1,267 (18,910บาท) 1,260 (18,800บาท) 1,252 (18,680บาท)
แนวต้าน 1,287 (19,210บาท) 1,295 (19,330บาท) 1,307 (19,510บาท)
GOLD FUTURES (GFZ13)
แนวรับ 1,267 (19,090บาท) 1,260 (18,980บาท) 1,252 (18,860บาท)
แนวต้าน 1,287 (19,390บาท) 1,295 (19,510บาท) 1,307 (19,690บาท)
SILVER FUTURES (SVZ13)
แนวรับ 20.15 (659 บาท) 19.90 (651 บาท) 19.65 (643 บาท)
แนวต้าน 20.60 (673 บาท) 20.90 (683 บาท) 21.15 (691 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888