กรุงเทพ--24 ธ.ค.--ปตท.
มูลค่าการค้าของ ปตท.อินเตอร์เนชั่นแนลมีการขยายตัวกว่าสองเท่าตัว หรือสูงกว่าปีที่แล้วถึงประมาณ 10,831 ล้านบาท ซึ่ง ปตท.มีแผนขยายตลาดสู่แถบอเมริกาและยุโรปนอกเหนือจากสิงคโปร์และเอเซีย หากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว
นายสุรงค์ บูลกุล รองผู้จัดการใหญ่จัดหาและการค้าต่างประเทศ ปตท. อินเตอร์เนชั่นแนล การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เปิดเผยถึงความสำเร็จในการประกอบธุรกิจค้าสากลและส่งออกของ ปตท. อินเตอร์เนชั่นแนลในปี 2540 (มกราคม-ธันวาคม) ว่ามีมูลค่าประมาณ 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2539 ที่มีการส่งออกเพียงประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่เกินความต้องการในประเทศ รวมมูลค่าประมาณ 11,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 6,149 ล้านบาท และทำการค้าผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศอีกประมาณ 4,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 3,072 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุของการขยายปริมาณการค้าที่ขยายตัวกว่า 200% นี้เป็นผลมาจากนโยบายในการรุกธุรกิจค้าสากลของ ปตท. ประกอบกับเศรษฐกิจไทยชลอตัว ทำให้การใช้ในประเทศลดลงรวมทั้งการลดค่าเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลังของประเทศด้วย
ผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากประเทศนั้น ปตท.ประมูลจากโรงกลั่นและโรงปิโตรเคมี ซึ่งประกอบด้วย น้ำมันเบนซินพิเศษ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเตา แนฟธา PYGAS รวมปริมาณประมาณ 5,522,608 บาร์เรล ก๊าซแอลพีจีจากโรงแยกก๊าซฯ ปตท. และโรงกลั่นในประเทศ รวมปริมาณ 439,788 ตัน โดยส่งออกไปจีนและเวียดนามเป็นหลักและเตรียมการพัฒนาตลาดบังคลาเทศ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินเดียและอินโดนีเซีย เป็นตลาดเสริมในอนาคต ก๊าซโซลีนธรรมชาติ และคอนเดนเสท ปริมาณรวมประมาณ 4,585,901 บาร์เรล โดยส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์
สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้แก่ เบนซิน พาราไซลีนและคอนเดนเสทเรสิดิว รับจากบริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รวมปริมาณ 176,681 ตัน ซึ่งในอนาคต ปตท.มีแผนที่จะขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์เอทธิลีนและโพรไพลีน จากบริษัทในเครือปตท.อีกด้วย ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปที่ทำการค้าระหว่างประเทศ รวมปริมาณประมาณ 5,930,446 บาร์เรล--จบ--