กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“บาร์บีคิวพลาซ่า” ร้านอาหารปิ้งย่างที่อยู่กับคนไทยมากว่า 25 ปี ได้เปลี่ยนโครงสร้างการบริหารธุรกิจครอบครัวสู่รุ่นที่ 2 โดยนักบริหารรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อนำความรู้มาใช้กับธุรกิจของครอบครัวยอมรับการศึกษาต่อทางด้าน MBA ที่ศศินทร์มีส่วนสำคัญช่วยต่อยอดให้ธุรกิจครอบครัวประสบความสำเร็จทำให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศรู้จัก “บาร์บีคิวพลาซ่า”เป็นอย่างดี ตั้งเป้าภายใน 5 ปีธุรกิจเติบโต 100%
นายชนินทร์ ชูพจน์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ศิษย์เก่าสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin) เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจร้านอาหารว่า ปัจจุบัน บาร์บีคิวพลาซ่ามี 100 กว่าสาขา ในประเทศไทย 94 สาขาและกำลังจะเปิดอีก 2 สาขาเร็วๆนี้ รวมทั้งในมาเลเซีย 15 สาขา และเพิ่งเปิดอีก 1 สาขาที่อินโดนีเซียโดยตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปีจะขยายสู่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนเพิ่มขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดแต่ละประเทศ เนื่องจากพฤติกรรมลูกค้าแตกต่างกันโดยเฉพาะวัฒนธรรมการบริโภค แม้ว่าเมนูจะไม่แตกต่างจากเมืองไทยแต่ต้องปรับเรื่องรสชาติให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าประเทศนั้นๆ อย่างไรก็ตาม การทำตลาดในประเทศไทยและตลาดอาเซียนมีความแตกต่างกันมาก การตอบรับที่มาเลเซียและอินโดนีเซียค่อนข้างดี เพราะบาร์บีคิวเป็นตลาดใหม่สำหรับที่นั่นนอกจากนี้ลูกค้ายังนิยมร้านอาหารไทยอีกด้วยซึ่งได้เปรียบด้านรสชาติและวัตถุดิบที่มีความหลากหลายและคุณภาพดี รวมทั้งการให้บริการที่โดดเด่น ทำให้ธุรกิจร้านอาหารไทยได้รับความนิยมในประเทศเพื่อนบ้าน
“ตลาดในต่างประเทศแข่งขันไม่สูงเหมือนในประเทศไทย ตลาดในบ้านเรามีร้านอาหารแบรนด์ต่าง ๆ ในห้างสรรพสินค้ามากมาย ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น จึงต้องสร้างแบรนด์บาร์บีคิวให้มีความชัดเจนและเป็นที่จดจำ ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีนโยบายรีแบรนด์ดิ้งเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสนใจมากยิ่งขึ้น ต้องการให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกใหม่ๆในแบรนด์ตลอดเวลา โดยเน้นเรื่องความทันสมัยด้านบริการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาชนะ เมนูอาหารมีโปรโมชั่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานตั้งเป้าภายใน 5 ปีธุรกิจทั้งในและต่างประเทศจะเติบโต 100%” นายชนินทร์กล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมว่าเพื่อรับมือกับการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารบริษัทฯได้กำหนดกลยุทธ์การตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างความสุขในการทำงานของพนักงานเพื่อส่งต่อความสุขไปถึงลูกค้าให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการรับประทานอาหาร แม้ว่าจะเป็นเมนูเดิม ๆ แต่การบริการและภาพลักษณ์ใหม่จะทำให้ลูกค้ามีความสุขมากขึ้น
นายชนินทร์ให้ความเห็นเกี่ยวกับการศึกษาต่อในสาขา MBA ที่ศศินทร์ว่า สามารถนำความรู้มาใช้กับธุรกิจ และมีส่วนช่วยทำให้ธุรกิจบาร์บีคิวพลาซ่าประสบความสำเร็จโดยจบปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร (Food science) จากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา เมื่อต้องกลับมาทำธุรกิจครอบครัวจึงตัดสินใจเรียนที่ศศินทร์เพื่อหาความรู้ด้านการบริหารจัดการ สิ่งสำคัญที่สุดสามารถนำความรู้มาใช้ในการทำงานกับบาร์บีคิวพลาซ่าได้เป็นอย่างดี หลาย ๆ วิชาที่เรียนทั้งสาขาการเงิน การตลาด การบริหารบุคคล รวมทั้งการปฏิบัติการต่าง ๆ เมื่อนำมารวมกันทำให้มีความเข้าใจในธุรกิจมากขึ้น
“การเรียนที่ศศินทร์เปิดโอกาสไห้รู้จักกับเพื่อนๆ หลากหลายธุรกิจได้แลกเปลี่ยนมุมมองในการทำงาน ซึ่งเป็นคนเก่งมีความสามารถในระดับต้น ๆ ของประเทศ ที่สำคัญอาจารย์ส่วนใหญ่มาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของต่างประเทศผมคิดว่าการเรียนMBA ที่ศศินทร์สุดยอดมากๆเมื่อเข้าไปเรียนแล้วสามารถนำมาใช้ได้จริง” นายชนินทร์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าผู้ที่กำลังตัดสินใจศึกษาต่อMBAแนะนำว่าควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์ ความต้องการนำความรู้ไปใช้รวมทั้งต้องรู้ว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไร เพื่อคนที่เข้ามาเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการทำงานได้ตามเป้าหมาย ที่น่าประทับใจมากคืออาจารย์ทุกท่านเข้าใจว่าผู้ที่มาเรียนต้องการอะไร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ :
วรารัตน์ วงศ์ประทีป Assistant Chief in Marketing & Communications โทร. 02-218- 3853-4 ต่อ 83853
E-mail: vararat.vongprateep@sasin.edu
แพรวทิพย์ ด่านวราวิจิตรPR&Marketing Coordinatorโทร. 02-218-4001-9 ต่อ 188
Email: Praewthip.Danwarawijitr@sasin.edu