กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--พีอาร์อิสระ
โรงพยาบาลพญาไท 1 ตั้งเป้าดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร นำเข้าหุ่นยนต์ช่วยฝึกเดิน และหุ่นยนต์ช่วยในการฝึกการเคลื่อนไหวของมือและแขน รายแรกของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย พร้อมดูแลผู้ป่วยจากภาวะอ่อนแรงตามแขนขา
ดร.นพ.เกริกยศ ชลายนเดชะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 1 เปิดเผยว่า “ตามที่โรงพยาบาลพญาไท 1 ได้มุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่ง และความโดดเด่น ด้วยการพัฒนานวัตกรรมทาง การรักษาให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลาประกอบกับการวางเป้าหมายในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร ซึ่งจากรายงานการวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่มีภาวการณ์อ่อนแรงของกล้ามเนื้อซึ่งเกิดจากสมองขาดเลือด การกระตุ้นให้ผู้ป่วยได้เริ่มหัดเดินอย่างรวดเร็ว นุ่มนวล และต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสอันเป็นบทบาทที่สำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของสมอง”
“ดังนั้น โรงพยาบาลพญาไท 1 จึงได้นำเข้าหุ่นยนต์ช่วยฝึกเดิน และหุ่นยนต์ช่วยในการฝึกการเคลื่อนไหวของมือและแขน เพื่อนำมาช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยอัมพาตหลังการรักษา ซึ่งหุ่นยนต์ช่วยฝึกเดินนี้ ตัวเครื่องจะมีสายช่วยพยุงตัว และส่วนขาที่เป็นหุ่นยนต์จะช่วยให้คนไข้เดินได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมคุณภาพสำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยอัมพาต”
ด้าน พญ.วรรณวดี ลักษณ์สุรพันธุ์ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.พญาไท 1 กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในอดีตแนวทางหลังการรักษาผู้ป่วยที่เกิดจากภาวะอ่อนแรงตามแขนขา จนไม่สามารถเดินหรือใช้ชีวิตเป็นปกติ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อ และการฝึกเดิน แต่เดิมใช้นักกายภาพบำบัดเพื่อคอยช่วยเหลือคนไข้ในการพยุงเดิน แต่เนื่องจากการฝึกเดินนั้น ต้องใช้เวลาในการฝึกนานพอสมควรเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเรียนรู้ เเละพัฒนาทักษะในการเดิน โดยผู้ป่วยเองต้องใช้แรงในการฝึกเดิน และนักกายภาพต้องออกเเรงในการช่วยพยุง ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเมื่อยล้า การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อจากการใช้งานมากเกินไป ขาดความสม่ำเสมอในการฝึก และไม่สามารถกำหนดความเร็วในการก้าวเดินที่เหมาะสมได้”
“อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงได้มีผู้คิดค้นประดิษฐ์หุ่นยนต์ช่วยฝึกเดิน และหุ่นยนต์ช่วยในการฝึกการเคลื่อนไหวของมือและแขน มาช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย โดยหุ่นยนต์ ฝึกเดินนี้จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยฝึกเดินนานขึ้นอย่างเต็มที่ตามศักยภาพที่มี และกำหนดความเร็ว แรงพยุงตัวและ แรงที่หุ่นยนตร์ขาช่วยพยุงในการก้าวเดินให้ที่เหมาะสมกับคนไข้เฉพาะราย ขณะเดียวกันมีระบบคอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลในการฝึกของผู้ป่วยแต่ละครั้งเพื่อนำไปพัฒนาในการรักษาต่อไป”
“สำหรับช่วงเวลาที่คนไข้ฝึกจะมีจอแสดงภาพในลักษณะของเกมให้เล่น เพื่อส่งเสริมการฝึกให้ได้ทักษะที่ต้องการ และสร้างแรงจูงใจในการฝึกสร้างความสนุกสนาน กำหนดเป้าหมายในการฝึกแก่คนไข้ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ป่วยบางรายที่มีภาวะเบื่อหน่ายในฝึก อีกทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยระหว่างฝึก มีเซนเซอร์จับการเกร็งต้านของกล้ามเนื้อเครื่องจะหยุดทันทีเพื่อป้องกัน การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ และมีอุปกรณ์พยุงตัวที่เเข็งแรงเพื่อป้องกันการล้ม”
พญ.วรรณวดี กล่าวย้ำว่า “การฟื้นฟูผู้ป่วยด้วยหุ่นยนต์นี้จะช่วยทำให้คนไข้โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังมีภาวะอ่อนแรงกล้ามเนื้อที่ไม่สามารถลุก เคลื่อนไหวร่างกายเองได้สามารถเข้าร่วมการฟื้นฟู ลดภาวะ ติดเตียง ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคหลอดเลือด สมองตีบ เช่น การเกิดแผลกดทับ กล้ามเนื้อตึงรั้งและข้อยึดติด โรคกระดูกพรุน เป็นต้น โดยเครื่องนี้สามารถฟื้นฟูผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่มีปัญหาของระบบประสาทที่มีภาวะอ่อนแรง เช่น ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุทางสมอง กลุ่มประสาทไขสันหลังบาดเจ็บหรือถูกกดทับ โรคกล้ามเนื้อเสื่อม โดยคนไข้ต้องผ่านการประเมินจากแพทย์ว่าไม่มีโรคที่เป็นอันตราย เช่น โรคหัวใจหรือโรคปอดชนิดรุนแรง ภาวะข้อติดเเข็ง เป็นต้น ส่วนการเตรียมตัวของคนไข้ก่อนที่จะใช้หุ่นยนต์ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารมาก่อนครึ่งชั่วโมง ใส่เสื้อผ้ารัดกุมเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย และ สวมรองเท้าชนิดหุ้มส้น”