ไตรมาส 3/2556 บจ. mai ยอดขายยังคงโตต่อเนื่อง แม้กำไรสุทธิลดลง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 20, 2013 15:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทจดทะเบียนใน mai มียอดขายไตรมาส 3 ปี 2556 เพิ่ม 7.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรสุทธิรวมลดลง เนื่องจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 90 บริษัท จาก 92 บริษัท (1 บริษัทยังไม่ส่งงบการเงิน และ 1 บริษัทยังไม่ครบกำหนดส่งงบการเงิน) นำส่งงบการเงินไตรมาส 3 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2556) พบว่ามียอดขายอยู่ที่ 28,748 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิ 1,336 ล้านบาท ลดลง 26.84% เนื่องจากเผชิญภาวะต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 21.30% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 20.25% ขณะที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่าย ประกอบกับ บจ. หลายแห่งยังอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจและลงทุนเพิ่ม ทำให้อัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 6.67% เหลือ 4.60% โดยมีบริษัทที่มีผลกำไรในงวดนี้มี 74 บริษัท หรือคิดเป็น 82% ของบริษัทใน mai ทั้งหมด “อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาข้อมูลตามกลุ่มธุรกิจ พบว่าธุรกิจบริการเฉพาะกิจ ธุรกิจไอซีที และธุรกิจภาคการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม เป็นกลุ่มธุรกิจที่ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ ซึ่งแสดงถึงความสามารถบริหารจัดการในภาวะที่มีแรงกดดันด้านต้นทุนได้ดี และพบว่าบริษัทจดทะเบียนที่มีความแข็งแกร่ง มีอัตราการเติบโตของยอดขายและกำไรสะสม 12 เดือนย้อนหลัง พิจารณาข้อมูลไตรมาสต่อไตรมาส ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีจำนวน 4 บริษัทในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว ได้แก่ บมจ. เออาร์ไอพี (ARIP) บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) และ บมจ. พลาสติค และหีบห่อไทย (TPAC)” นายชนิตร กล่าว สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2556 บริษัทจดทะเบียน mai มียอดขาย 83,802 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.89% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันมีกำไรสุทธิ 4,841 ล้านบาท ลดลง 9.01% อย่างไรก็ดี หากหักกำไรจากการชดเชยค่าเสียหายจากการประกันอุทกภัย 277 ล้านบาท ของ บมจ. ไทยมิตซูว่า (TMW) เมื่อปี 2555 จะทำให้กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2556 ของบริษัทจดทะเบียน mai ลดลง 4.48% นอกจากนี้ พบว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai 14 บริษัทที่มียอดขายและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2556 และช่วงเดียวกันของปี 2555 ได้แก่ บมจ. 2 เอส เมทัล (2S) บมจ. แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) บมจ. สหการประมูล (AUCT) บมจ. บิวเดอสมาร์ท (BSM) บมจ. ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) บมจ. แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK), บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) บมจ. โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส (PPS) บมจ. ที เอส ฟลาวมิลล์ (TMILL) บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) บมจ. โรงพยาบาลไทยนครินทร์ (TNH) บมจ. พลาสติค และหีบห่อไทย (TPAC) และ บมจ. ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAC) ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 92 บริษัท ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 377.24 จุด ลดลง 9.25% จากต้นปี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมอยู่ที่ 184,658 ล้านบาท มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 2440.16 ล้านบาทต่อวัน ผู้ลงทุนที่สนใจข้อมูลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนใน mai สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ www.mai.or.th และ www.settrade.com หรือสอบถาม S-E-T Call Center โทร. 0-2229-2222

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ