กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--กระทรวงพลังงาน
กระทรวงพลังงาน ดีเดย์ ระดมรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการไฟฟ้า ก่อนเสนอเข้าครม.พิจารณาภายใน ธ.ค. 48 ย้ำทุกขั้นตอนกระทำอย่างรอบคอบ โปร่งใส สามารถใช้เป็นเครื่องมือกำกับดูแลกิจการไฟฟ้าได้สัมฤทธิ์ผลในอนาคต และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ที่โรงแรม ปริ๊นซ์พาเลช (โบ๊เบ๊ กทม.) กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ได้จัดสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการไฟฟ้า พ.ศ. ...” โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพลังงาน พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) นายคำผุย จีราระรื่นศักดิ์ ผู้จัดการใหญ่ธุรกิจระบบส่ง บริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) และนายเจน นำชัยศิริ จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกันอภิปรายและตอบข้อซักถามรับฟังความคิดเห็นจากผู้ร่วมสัมมนากว่า 350 คน ซึ่งมาจากภาคราชการ ภาคเอกชนต่าง ๆ ทั้งจากภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจอื่น ๆ รวมทั้งนักวิชาการ ตัวแทนจากองค์กรอิสระ และประชาชนทั่วไป
นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ประธานในการเปิดสัมมนาฯ เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการไฟฟ้า เป็นกฎหมายเฉพาะที่บัญญัติให้มีการจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลเพื่อกำกับดูแลการประกอบกิจการไฟฟ้าของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้มีการกำกับดูแลการบริหารจัดการ และพัฒนากิจการที่ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ ตลอดจนมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรับฟังความคิดเห็นจาก หลาย ๆ ฝ่าย เพื่อให้ยกร่างกฎหมายดังกล่าวมีความรอบคอบและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสามารถใช้บังคับได้อย่างเกิดประสิทธิผล และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ทั้งนี้ ในการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นประชาชนในวันนี้ กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อจัดทำร่าง พ.ร.บ.ฯ ตั้งแต่ต้นปี 2548 เพราะกฏหมายดังกล่าวเป็นเรื่องของผลกระทบต่อประชาชนในฐานะผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วทั้งประเทศ และขั้นตอนภายหลังการระดมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้ว กระทรวงพลังงานจะกลับไปปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการไฟฟ้าให้สมบูรณ์ สามารถใช้กำกับดูแลการประกอบกิจการไฟฟ้าของประเทศให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ทั้งนี้จะมีการนำเสนอคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติว่าด้วยการ พัฒนากฎหมาย ก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2548 นี้ เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
นายณอคุณ สิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานอนุกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการไฟฟ้า กล่าวว่า หลักการในการยกร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการไฟฟ้า ได้แก่ การแยกบทบาท หน้าที่ การกำกับดูแลและการกำหนดนโยบายอย่างชัดเจน โดยกระทรวงพลังงานเป็นผู้กำหนดนโยบาย ส่วนคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า ทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการไฟฟ้าภายใต้นโยบายของรัฐ มีความเป็นอิสระภายใต้นโยบายของรัฐ เนื่องจากไฟฟ้า เป็นเรื่องความมั่นคง จึงต้องมีการกำกับดูแลให้สอดคล้องกับนโยบายพลังงานของประเทศ
ทั้งนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาโดยมีตัวแทนผู้บริโภคเป็นองค์ประกอบหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้า มาทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภค กำหนดหลักการกำกับดูแลอัตราค่าบริการให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ใช้บริการและผู้ประกอบการ คำนึงถึงความปลอดภัยในการประกอบกิจการไฟฟ้า โดยมีวิธีการตรวจสอบตามหลักมาตรฐานทางวิศวกรรมและความปลอดภัยมีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นเงินชดเชยให้แก่ผู้ประกอบกิจการที่จัดให้มีบริการไฟฟ้าในท้องที่ชนบทห่างไกล เพื่อเป็นการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค รวมทั้งเป็นเงินพัฒนาให้แก่ท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้า--จบ--