กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--แสนสิริ
แสนสิริประกาศความสำเร็จจากการรุกขยายการพัฒนาโครงการในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการดำเนินธุรกิจใน 6 กุญแจสำคัญ ล่าสุดสร้างยอดขายรวมโดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดในปีนี้ได้แล้วถึง 17,500 ล้านบาท จากยอดขายรวม 41,000 ล้านบาท ใน 25 โครงการ 14 หัวเมืองใหญ่ครอบคลุมทั่วประเทศ ได้แก่ พัทยา - ชลบุรี - หัวหิน - เขาใหญ่- เพชรบุรี - ระยอง - เชียงใหม่ - เชียงราย - ขอนแก่น - อุดรฯ - โคราช - ภูเก็ต - สุราษฎร์ฯ และหาดใหญ่ พร้อมเตรียมทยอยส่งมอบอีก 7 โครงการต่างจังหวัด หัวหิน - ภูเก็ต - เขาใหญ่ - เชียงใหม่ ในไตรมาสสุดท้าย
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการรุกขยายการพัฒนาโครงการในตลาดต่างจังหวัดตามแผนการดำเนินธุรกิจใน 6 กุญแจสำคัญ เพื่อตอบรับกลุ่มลูกค้าของแสนสิริที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยล่าสุดบริษัทสามารถสร้างยอดขาย (พรีเซลล์) จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัดได้แล้วถึง 17,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 43% จากยอดขายรวม ณ ปัจจุบันที่ทำได้แล้วทั้งสิ้น 41,000 ล้านบาท จาก 25 โครงการ 14 หัวเมืองใหญ่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งพัทยา - ชลบุรี - หัวหิน — เขาใหญ่ - เพชรบุรี- ระยอง - เชียงใหม่ - เชียงราย - ขอนแก่น - อุดรธานี - โคราช - ภูเก็ต - สุราษฎร์ธานี และหาดใหญ่ รวมทั้งยังเริ่มทยอยส่งมอบห้องพักอาศัยให้แก่ลูกค้าในไตรมาส 4 อีกต่อเนื่องได้แก่ ซัมเมอร์, บ้านคุ้นเคยและบ้านคู่เคียง หัวหิน, ดีคอนโด ครีก และดีคอนโด กะทู้ - ป่าตอง ภูเก็ต, ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท เชียงใหม่ และ 23 องศา วิลล่า เขาใหญ่ ซึ่งโครงการทั้งหมดประสบความสำเร็จ สามารถปิดการขายโครงการได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ในจังหวัด เชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งนับเป็นหัวเมืองหลักทางภาคเหนือนั้น หลังจากบริษัทเปิดตัวการขาย 2 โครงการล่าสุด ได้แก่ บ้านเดี่ยวโครงการแรกในจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แบรนด์ เศรษฐสิริ ชื่อ “เศรษฐสิริ สันทราย” โดยเปิดการขายอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 15 — 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจนสามารถปิดการขายไปได้ถึง 35 ยูนิตในช่วงระยะเวลาเพียง 3 วันพรีเซลล์ ผลจากการตอบรับที่ดีนี้ มาจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นจากความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ส่งผลดีต่อภาคการบริโภคและการลงทุน ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในปัจจุบัน ทั้งทางอากาศและทางราง รวมถึงเอกชน จากการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและการพาณิชย์ในรูปแบบต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ “ดีคอนโด ซายน์” คอนโดมิเนียมโครงการที่ 3 ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 813 ยูนิต ก็สามารถปิดการขายไปได้แล้วถึง 85%
สำหรับจังหวัดเชียงราย ซึ่งนับเป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบรับกลุ่มลูกค้าในจังหวัดเชียงรายเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อโครงการ “ดีคอนโด ฮาย” คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ดีคอนโด จำนวนทั้งสิ้น 482 ยูนิต ล่าสุดบริษัทสามารถสร้างยอดขายไปได้แล้ว 45% ซึ่งนับว่าเป็นการตอบรับที่ดี จากอุปสงค์ของผู้บริโภคที่มีความต้องการสูง จากการที่จังหวัดเชียงรายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวที่สำคัญ นับว่าเป็นเมืองเศรษฐกิจชายแดน ที่มีความได้เปรียบทางด้านคมนาคมขนส่ง เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งพม่า ลาว และจีนตอนใต้ รวมทั้งยังมีการค้าขายที่คึกคัก โดยคาดว่าแนวโน้มจะมีการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว