สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 9.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 21, 2013 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,275 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,266 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.68 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,050 บาท กับ 19,150 บาท และกลับมาปิดที่ 19,000 บาท กับ 19,100 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 308 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,807 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.6% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.01% GFZ13 ปิด 19,200 บาท และ GFG13 ปิด 19,280 บาท GF10Z13 ปิดที่ 19,200 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,290 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 15.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,258 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 27.6 เซ็นต์ ที่ระดับ 20.058 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 860.31 ตัน (ขายออก 2.7 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ระดับ 93.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 66.21 จุด ปิดที่ 15,900.82 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำร่วงลงอย่างมากหลังจากมีการรางานการประชุมจากเฟดซึ่งในรายละเอียดนั้นบ่งบอกว่าว่าเฟดอาจลด QE ลงในการประชุมอีก 2-3 ครั้งข้างหน้าอีกทั้งค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเข้ากดดันตลาดทองคำให้เป็นภาวะหมีขาลง รายงายคิทโก้ระบุว่า อย่างไรก็ตามเฟดนั้นไม่ได้เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าจะทำการปรับลดลงเมื่อใดโดยที่ยังคงต้องรอคอยตัวเลขงานว่าจะยังคงต้องดีขึ้นเสียก่อนที่ยังคงต้องทำให้นักลงทุนในทองคำนั้นเฝ้าจับตาดูอัตราการจ้างงานของสหรัฐฯเป็นพิเศษ จิม เวคคอฟ ได้กล่าวว่าราคาทองคำมีแนวต้านที่แข็งแกร่งที่ระดับ 1,300 เหรียญ และแนวรับที่แข็งแกร่งเมื่อเดือนมิถุนายนครั้งก่อนนั้นอยู่ที่ระดับ 1,187.90 เหรียญ เมื่อวานนี้ SPDR เทขาย 2.7 ตัน จากระดับ 863.01 ตัน สู่ระดับ 860.31 ตัน จีนนั้นบริโภคทองคำแซงหน้าอินเดียสำหรับปีนี้ที่ได้นำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากเดิมหลังจากที่ทางการจีนนั้นได้เปิดเส้นทางการค้าโลหะมีค่าผ่านทางฮ่องกง ยอดการผลิตเหมืองนั้นลดลงจากการรายงานของ World Gold Mine ที่ลดลงติดสถิติจากการที่นักลงทุนส่วนมากผิดหวังกับราคาทองคำที่ลดลงและไม่สามารถรอการผลิตได้จึงทำให้ยอดลดลง 24 %สำหรับปีนี้ การรายงานประชุมเฟดเมื่อวานนี้กล่าวว่าเฟดนั้นมีความเป็นไปได้ที่อาจจะลดQEลงในเดือนหน้าถ้าตัวเลขเศรษฐกิจนั้นดีขึ้นแล้วซึ่งข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านั้นจะต้องได้มาพร้อมกับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งที่จะเป็นตัวการันตีอีกด้วย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานการประชุมของ เฟดส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะลดขนาดมาตรการ QE นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า เขามีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะเรียกร้องให้เฟดชะลอการใช้ QE เจมส์บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซ็นต์หลุยส์กล่าวว่าเฟดนั้นจะยังไม่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยในขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าระดับ1.5% ซึ่งการตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ผลสำรวจจากบลูมเบริ์กพบว่า นักลงทุน 4 ใน 5 รายเชื่อว่าเฟดนั้นจะเริ่มลด QEในเดือนมีนาคม 2014 หรือต่อไปจากนั้นอีก ที่ในการประชุมเฟดและตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญนั้นจะมีขึ้นในวันที่ 18-19 ธันวาคมนี้ที่จะเป็นครั้งหน้าที่สำคัญ เช้านี้ตัวเลขภาคการผลิต HSBC Flash Manufacturing PMI ของจีนออกมาแย่ลงที่ระดับ 50.4 จากที่คาดว่าจะเท่าเดิมที่ระดับ 50.9 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ หลังจากรายงานการประชุมของ เฟด ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะลดขนาดมาตรการ QE ตลาดหุ้นโตเกียว เพิ่มขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์และกลุ่มส่งออกทั้งนี้ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเหนือกรอบ 100 เยน ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทส่งออกให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วม นปช. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ขณะนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักชุมนุมอย่างคึกคัก ส่วนบนเวทีปราศรัย นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมแกนนำได้ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อคำวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาของ ส.ว. พร้อมระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นศาลการเมืองที่ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ทุกประการ ส่วน กรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเวทีราชดำเนิน จะออกมาปฏิวัติประชาชนในวันที่ 24 พฤศจิกายน ถือเป็นการทำร้ายตัวเอง โดยหลังจากนี้ ทางกลุ่มแกนนำเตรียมที่ประกาศถึงจุดยืน และแนวทางการเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการของกลุ่ม ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน -Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1 % ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.1% -Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3 % ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.2% -Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1 % ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.4% -CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ -0.1% -Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.29M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 5.17 M ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 5.12M ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ - PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.2% - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 339K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 333K - Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1% - Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 51.8 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 52.6 - Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 19.8 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 15.8 ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากที่เฟดออกมายังคงยืนยันในระบบของการที่จะลด QE แต่ยังไม่ได้กำหนดวันชัดเจน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นปีหน้าเป็นต้นไปมากกว่า อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่ออกมาในเมื่อวาน โดยภาพรวมก็เกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ค่อนข้างทรงตัว ในส่วนของตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง คือ Existing Homes Sales ก็ออกมาไม่ดี แต่ว่าตลาดไม่ได้ตอบสนองใดๆ โดยภาพรวมเมื่อวานตัวเลข CPI ออกมาก็ยังต่ำกว่าเกณฑ์ของเฟดมาโดยตลอด ส่วนวันนี้จะมีตัวเลข PPI และ Philly Fed Manufacturing Index ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง ส่วน Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาดีขึ้น โดยตัวเลขเศรษฐกิจโดยภาพรวมยังคาดว่าจะออกมาใกล้เคียงกับตัวเลขเดิม และวิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำคงจะเคลื่อนไหวตามสภาพแรงกดดันของข่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขเศรษฐกิจ ในส่วนของ SPDR ก็ยังมีการขายต่อเนื่องลงมาอีก 2.7 ตัน คงเหลือการถือครองทองคำที่ 860.31 ตัน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำเคลื่อนตัว Sideways ในกรอบแคบ และเมื่อหลุดแนวรับด้านล่างของ Sidewaysบริเวณ 1,270 เหรียญ ก็หลุดลงมาอย่างรวดเร็ว ตามที่ MTS Gold ได้วิเคราะห์ให้นักลงทุนได้พยายามให้ลดสถานะ Long และเปิด Short ไปแล้ว เห็นได้ว่าเมื่อราคาหลุดกรอบ Sideways ด้านล่าง ก็จะหลุดลงมาได้อย่างรวดเร็ว และในขณะนี้ก็เป็นลักษณะการฟอร์ม Pattern Head and Shoulder ที่สมบูรณ์ จึงคาดว่าราคาทองคำน่าจะทดสอบระดับ 1,180 เหรียญในเร็วๆนี้ คงไม่เกินเดือนหน้า หมายความว่า โอกาสที่จะหลุดลงมาประมาณ 80 เหรียญตามลักษณะ Head and Shoulder นั้นมีค่อนข้างสูงในเชิงเทคนิค จะเห็นได้ว่าแนวรับตามจิตวิทยาบริเวณ 1,250 เหรียญ ก็ดูจะไม่แข็งแกร่งนัก สรุปได้ว่าแนวรับสั้นๆถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 1,230 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 1,270 เหรียญ ซึ่งเป็นลักษณะการวิเคราะห์ใน Daily Trade ซึ่งก็ย้ำนักลงทุนเสมอว่า MTS Gold ใช้บทวิเคราะห์และกลยุทธ์เป็นลักษณะรายวัน คือระยะสั้นมาก ดังนั้นเมื่อนักลงทุนอ่านบทวิเคราะห์ จึงขอให้เข้าใจถึงระดับแนวรับแนวต้านที่ให้ไว้เป็นลักษณะวันต่อวัน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเป็นลักษณะการลงทุนในแนวโน้มขาลง และยังแนะนำที่จะพยายามเปิด Short Position ก่อนเสมอ โดยเฉพาะเมื่อราคาเด้งตัวสูงขึ้นให้เปิด Short Position ไม่แนะนำให้ทำการช้อนซื้อก่อน -นักลงทุนที่ถือ Long Position ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Long และทำ Stop Loss ออกไป -นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ซื้อปิดทำกำไรในระยะสั้นเป็นช่วงๆ และแนะนำให้ขายซ้ำเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,000 บาท Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,050 บาท หมายเหตุ : สำหรับค่าเงินบาทนั้น ยังมีทิศทางในการอ่อนค่าอยู่จากปัญหาวิกฤตการณ์ของการเมืองภายในประเทศ ซึ่งมีโอกาสจะเห็นเงินบาทอ่อนไปที่ 32 บาทต่อดอลลาร์ได้ เนื่องจากในเชิงของ Technical แล้ว เงินบาทก็เป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น (อ่อนค่า) โดยสมบูรณ์ มาแล้วกว่า 3 วัน โดยที่คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถทำให้เกิดความสงบขึ้นในประเทศได้เท่าที่คาดหวังกัน บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ