กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--IR network
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ. เอส พี วี ไอ (SPVI) เตรียมขายหุ้นไอพีโอ 110 ล้านหุ้น คาดระดมทุนและเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในปีนี้ นำเงินขยายธุรกิจเต็มสูบ เล็งเพิ่มจุดขายครอบคลุมขึ้น และเจาะตลาดคอร์ปอเรทเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ “ไตรสรณ์ วรญาณโกศล” ตั้งเป้าปี 2557 รายได้พุ่ง หลัง Apple คลอดสินค้าใหม่ อาทิ iPhone 5s iPhone 5c iPad Air ควักเงินจากกระเป๋าผู้บริโภค บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ชูจุดเด่น SPVI เป็นหุ้นที่มีศักยภาพ ธุรกิจมีอนาคตเติบโตจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่ม Apple ชี้สินค้ามีคุณภาพ ลูกค้า Brand Royalty สูง มีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย บนทำเลดี และมีการบริหารจัดการด้านสินค้าคงคลังยอดเยี่ยม
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI) กล่าวว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้พิจารณานับหนึ่งแบบไฟลิ่งของ SPVI เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อกลางเดือนพ.ย. 2556 ที่ผ่านมา โดยมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวนทั้งสิ้น 110 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 27.50% ของทุนจดทะเบียนของบริษัท เบื้องต้นคาดว่าจะระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 2556 นี้ โดยมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ในการขยายสาขาและศูนย์บริการ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ
“SPVI ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าอื่นๆ เพื่อใช้งานร่วมกับสินค้า Apple เป็นหลัก ถือว่ามีความน่าสนใจมาก เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ของ Apple ตัวสินค้ามีคุณภาพ มีลูกค้าที่มีความเป็น Brand Royalty สูง อีกทั้งมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายอยู่ในทำเลที่ดี รวมถึงมีการบริหารจัดการด้านสินค้าคงคลังที่ดี จากจุดเด่นของ SPVI ที่มีทำให้เชื่อว่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและได้การตอบรับที่ดี”นายสมภพ กล่าวในที่สุด
นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI) กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำไปใช้ในการขยายสาขาและศูนย์บริการ และปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งการที่มีความพร้อมทางด้านเงินทุนจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เป็นมา ซึ่งสอดคล้องไปกับการก้าวหน้าของเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์การสื่อสารที่มีคุณภาพมากขึ้น จากการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้ดำเนินธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และคาดว่าในปี 2557 รายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากมีแผนการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน Apple ได้ออกสินค้าตัวใหม่ อาทิ iPad Air ,iPad mini with Retina Display, MacBook Pro with Retina Display, iPhone 5c , iPhone 5s และ Mac Pro ทำให้ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง นอกจากนี้การระดมทุนยังทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต เช่นการขยายตลาดลูกค้าองค์กร เป็นต้น
บมจ.เอส พี วี ไอ มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 145 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 290 ล้านหุ้น หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วบริษัทจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 200 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทต่อประชาชนทั่วไปรวมจำนวนทั้งสิ้น 110 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 27.50 ของทุนจดทะเบียน
ปัจจุบัน “เอส พี วี ไอ” มีสาขาทั้งหมดจํานวน 17 สาขา โดยแบ่งได้เป็น iStudio จํานวน 6 สาขา iShop จํานวน 1 สาขา iBeat จํานวน 1 สาขา U-Store จํานวน 9 สาขา และศูนยบริการ Smart Bar จํานวน 3 สาขา นอกจากนี้ บริษัทยังมีจุดจำหน่ายสินค้า Apple ใน IT City และ Big C จํานวน 54 แห่ง ทั่วประเทศ โดยตั้งอยู่ที่ IT City จํานวน 28 สาขา และที่ Big C จํานวน 26 สาขา จึงถือเป็นอีกบริษัทที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวโน้มในอนาคตที่ยังสามารถเติบโตต่อไปได้อีกมาก ตามการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของ Apple และสินค้าของ บริษัทอื่นๆที่เป็นตัวแทนจำหน่าย