กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
จุดประสงค์หลักของการสั่งซื้อคือเพื่อรองรับการขยายตัวของสายการบิน เพิ่มประสิทธิผลในการให้บริการและการปรับปรุงฝูงบิน
การเปิดตัวลูกค้ารายแรกสำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777-8X และลูกค้าสายการบินรายใหญ่ที่สุดสำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์
สายการบินเอทิฮัดสายการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้แจ้งให้ทราบในวันนี้ถึงการยืนยันคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งแบบลำตัวกว้าง เครื่องใหม่จำนวน 56 ลำพร้อมสิทธิในการเลือกซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 26 ลำเพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปยังทั่วทุกมุมโลก การสั่งซื้อในครั้งนี้แสดงถึงการลงทุนสูงที่ถึง 25.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามราคาเสนอโดยรวมเครื่องยนต์ที่เกี่ยวข้อง
การตกลงซื้อขายซึ่งได้รับการเปิดเผยที่งานดูไบแอร์โชว์ประกอบด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777X รุ่นต่อไปจำนวน 25 ลำ ในจำนวนนี้ 17 ลำเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 777-9X ส่วนอีก 8 ลำเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 777-8X สายการบินเอทิฮัดเป็นสายการบินแรกที่สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777-8X และเป็นลูกค้ารายแรกที่เปิดตัวสำหรับเครื่องบินที่คาดว่าจะเริ่มให้บริการประมาณช่วงปลายทศวรรษนี้
สายการบินยังได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787-10 ดรีมไลเนอร์จำนวน 30 ลำ การประกาศในวันนี้ทำให้สายการบินเอทิฮัดเป็นลูกค้าสายการบินรายใหญ่ที่สุดสำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ เมื่อรวมกับการสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นพิเศษจำนวน 41 ลำและเมื่อรวมกับเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ที่จะสั่งซื้อซึ่งเป็นลำที่อยู่ในลำดับที่ 1,000 นอกจากนี้สายการบินยังได้สั่งซื้อเครื่องบินขนส่งสินค้าโบอิ้ง 777-200 อีก 1 ลำ
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานกรรมการบริหารของสายการบินเอทิฮัดกล่าวว่า “การสั่งซื้อในครั้งนี้เป็นการสั่งซื้อครั้งสำคัญ เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับเราเนื่องจากเรากำลังฉลองวาระการครบรอบปีที่ 10 และเป็นการวางแผนสำหรับทศวรรษหน้าและทศวรรษต่อไป”
“ในระยะเวลาเพียง 10 ปี เราได้เติบโตจากสายการบินที่เพิ่งเริ่มดำเนินการไปเป็นสายการบินระดับโลก การสั่งซื้อเครื่องบินในครั้งนี้ทำให้เรามั่นใจในความสำเร็จของเราโดยการใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ช่วยสนับสนุนพัฒนาการของเราต่อไปในอนาคต”
“โบอิ้งเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระยะยาวของเอทิฮัดตลอดการเดินทางโดยมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของเรา ผมรู้สึกยินดีที่เรากำลังขยายความสัมพันธ์ของเราออกไปอีกโดยการนำเครื่องบินระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม เข้ามายังฝูงบินอันทันสมัยของเรา”
เอทิฮัดจะใช้เครื่องบินเหล่านี้ในการเปิดเที่ยวบินไปยังปลายทางใหม่ๆซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพสำหรับตลาดที่มีอยู่และทดแทนเครื่องบินที่มีประสิทธิผลน้อยลงในปัจจุบัน
มร. เจมส์ โฮแกนกล่าวว่าการตกลงซื้อขายในครั้งนี้ยังส่งผลดีโดยตรงต่อเศรษฐกิจภายในประเทศและระหว่างประเทศ “การตกลงซื้อขายในครั้งนี้เป็นผลดีต่อสายการบินเอทิฮัดและโบอิ้ง ในขณะเดียวกันก็เป็นผลดีต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหรัฐอเมริกา สำหรับสหรัฐอเมริกาแล้วการสั่งซื้อในครั้งนี้ส่งผลโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศและเป็นการสนับสนุนการจ้างงานในอุตสาหกรรมการบิน”
เครื่องบินทุกลำที่สั่งซื้อในครั้งนี้จะประกอบด้วยเครื่องยนต์ GE9X, GEnx และ GE90 ของบริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริก
มร. เรย์ คอนเนอร์ ประธานและประธานกรรมการบริหารของบริษัทโบอิ้งคอมเมอร์เชียลแอร์เพลนกล่าวว่า “เราภูมิใจในความสัมพันธ์ของเรากับสายการบินเอทิฮัดที่เริ่มขึ้นเมื่อเก้าปีที่แล้วกับการสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 5 ลำ
“น่าปลื้มใจในฐานะที่เป็นสายการบินที่เติบโตอย่างรวดเร็วแห่งหนึ่งของโลก สายการบินเอทิฮัดยังคงเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของโบอิ้งโดยการเลือกโบอิ้ง 777X และโดยการเพิ่มการสั่งซื้อสำหรับโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ เราพยายามที่จะกระชับความเป็นหุ้นส่วนนี้ในขณะที่สายการบินเอทิฮัดก็พยายามปูทางสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก”
โบอิ้ง 777-9X เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่และประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบันของสายการบิน โดยปกติสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 400 ที่นั่ง โบอิ้ง 777-9X สามารถบินในระยะทางเดียวกันกับเครื่องบินรุ่นก่อนหน้าแต่บรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้ถึง 40 ที่นั่งจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและปริมาณการใช้เชื้อเพลิงต่อที่นั่งลง
เครื่องบินโบอิ้ง 777-8X เป็นรุ่นที่เล็กกว่าแต่บินได้ไกลกว่าซึ่งทำให้สายการบินเอทิฮัดสามารถให้บริการเส้นทางบินที่มีระยะทางไกลเป็นพิเศษ เช่น อาบูดาบี — ลอสแอนเจลิส โดยมีประสิทธิผลมากกว่าเครื่องบินใดๆที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน เครื่องบินรุ่นนี้สามารถใช้แทนและให้สิ่งที่ดีกว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777-200LR ที่มีอยู่ซึ่งเป็นเครื่องที่ให้บริการเชิงพาณิชย์ในระยะทางที่ไกลที่สุดในปัจจุบัน
เครื่องบินโบอิ้ง 787-10 เป็นเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นรุ่นล่าสุดของตระกูลดรีมไลเนอร์ โดยปกติสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่า 320 ที่นั่ง สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่าเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ถึง 50 ที่นั่งซึ่งสายการบินเอทิฮัดจะนำมาให้บริการในช่วงปลายปี 2557
เครื่องบินทั้ง 10 ลำสามารถบินจากอาบูดาบีไปยังปลายทางระยะกลาง เช่น ดับลินหรือโจฮันเนสเบิร์ก โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น เผาผลาญเชื้อเพลิงน้อยลงและใช้พลังงานต่อที่นั่งน้อยกว่าเครื่องบินรุ่นปัจจุบัน
เครื่องบินใหม่ลำแรกที่จะเข้าร่วมในฝูงบินของสายการบินเอทิฮัดคือโบอิ้ง 787-10 ซึ่งจะมาถึงในปี 2561 ตามมาด้วย โบอิ้ง 777-9X โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2563 และโบอิ้ง 777-8X โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565
ปัจจุบันสายการบินเอทิฮัดมีเครื่องบินให้บริการทั้งหมด 86 ลำ โดยมีการยืนยันคำสั่งซื้ออีกว่า 80 ลำ การตกลงซื้อขายเครื่องบินครั้งสำคัญที่ผ่านมามีขึ้นที่งานฟาร์นโบโร่แอร์โชว์ ปี 2551โดยสายการบินเอทิฮัดได้ประกาศยืนยันการสั่งซื้อเครื่องบินจำนวน 100 ลำซึ่งรวมถึงเครื่องบินโบอิ้งจำนวน 45 ลำในการสั่งซื้อระยะยาวที่ในเวลานั้นถือว่าเป็นหนึ่งในการสั่งซื้อจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน
กลุ่มบริษัทซีเบอรี่รับหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาในการสรุปข้อตกลงการซื้อขายในครั้งนี้
คำบรรยายภาพ: (จากซ้ายไปขวา )ม.ร เรย์ คอนเนอร์ ประธานและประธานกรรมการบริหารบริษัทโบอิ้งคอมเมอร์เชียลแอร์เพลน มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานกรรมการบริหารสายการบินเอทิฮัด มร. เดวิด จอยซ์ ประธานและประธานกรรมการบริหารบริษัทจีอีเอวิเอชั่น ร่วมฉลองการตกลงซื้อขายเครื่องบินลำใหม่พร้อมเครื่องยนต์ ณ งานดูไบแอร์โชว์พร้อมผู้บริหารอาวุโส
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
Etihad Airways Corporate Communications
Email: media@etihad.ae
Tel: +971 50 818 9596
สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
คุณเมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์
บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2260-5820 ต่อ 115 โทรสาร 0-2260-5847-8
E-mail: mae@tqpr.com