กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--IR network
กูรูฟันธง หุ้น “ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้” หรือ FPI อนาคตสดใส คาดกำไรไตรมาส 4/56 ทำนิวไฮ และปีหน้าจะเติบโตโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ แนะซื้อ เป้าหมายที่ 11.50 บาท ด้านผู้บริหาร FPI “สมพล ธนาดำรงศักดิ์” เผยปีหน้าลุยตลาดต่างประเทศเต็มที่ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีศักยภาพในการขยายตัวและกำไรขั้นต้นสูง ช่วยเพิ่มผลกำไรให้บริษัท ระบุขณะนี้มีออเดอร์เข้ามาแล้ว รวมทั้งขยายตลาดสู่อาเซียนรองรับ AEC พร้อมมุ่งเน้นทำเทรดดิ้งอื่นๆ เพิ่ม และหาพันธมิตรใหม่ที่เชี่ยวชาญ
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ได้วิเคราะห์ถึงทิศทางของ บริษัท ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ว่าแนวโน้มในอนาคตจะดีกว่าอุตสาหกรรม แม้ไตรมาส 3/2556 จะมีกำไรสุทธิที่ 52 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการชะลอการสั่งซื้อของลูกค้าในภูมิภาคตะวันออกกลางตามปัจจัยฤดูกาล ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลถือศีลอด ขณะที่ไตรมาส 2/2556 มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มจากเดิมเกือบ 40% โดยรายได้ไตรมาส 3/2556 ที่ 420 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นยังคงโดดเด่นที่ 26% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2556 ที่ 23.6% แต่ลดลงจากไตรมาส 3/2555 ที่ 29.8% เนื่องจากงานในปีก่อนส่วนใหญ่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าปกติ รวม 9 เดือน ปี 2556 มีกำไรสุทธิ 140 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ยังคาดการณ์ว่าปีนี้กำไรสุทธิ FPI จะทำได้ที่ 200 ล้านบาท โดยคาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/2556 มีลุ้นทำสถิติใหม่ หลังจากไตรมาส 3/2556 ยอดขายในภูมิภาคตะวันออกกลางชะลอตัว ขณะที่ไตรมาส 4 ปีนี้จะกลับสู่ภาวะปกติ สำหรับปี 2557 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 240 ล้านบาท จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตสินค้าประเภทรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ ซึ่งจะได้ผลกระทบจากแนวโน้มการผลิตรถยนต์ในปี 2557 ที่ยังชะลอตัว ขณะที่ยอดขาย FPI ส่วนใหญ่เป็นตลาดชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน หรือ REM (Replacement Equipment Manufacturing) และส่วนใหญ่ยังเป็นการส่งออก จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว จะกระทบต่อยอดการผลิตรถยนต์ใหม่ แต่ตลาดอะไหล่รถยนต์ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
พร้อมกันนี้ประเมินราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 11.50 บาท โดยอิง PER ราว 14-15 เท่า สูงกว่ากลุ่มยานยนต์ที่ส่วนใหญ่ประเมินด้วย PER ปีหน้าประมาณ 10 เท่า ตามผลการดำเนินงานของ FPI ที่คาดว่าจะแข็งแกร่งกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มาก ดังนั้นยังคงแนะนำ “ซื้อ”
ด้านนายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI กล่าวถึงทิศทางธุรกิจในปี 2557 ว่าจะมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำไรขั้นต้นสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลกำไรบริษัทมากขึ้น โดยขณะนี้เริ่มมีออเดอร์ต่างๆ เข้ามาบ้างแล้วจากบรรดาบริษัทชั้นนำ
“สหรัฐอเมริกาจะเป็นตลาดส่งออกใหม่ที่มีศักยภาพของเรา ซึ่งมีขนาดใหญ่มากกว่าประเทศไทยถึง 5 เท่า จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและกำไรมากขึ้น นอกเหนือก่อนหน้านี้ได้ลงทุนแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก ทั้งนี้หากมีออเดอร์ใหม่เข้ามาจากสหรัฐอเมริกา จะต้องมีการลงทุนเพิ่มในส่วนของแม่พิมพ์ โดยใช้เงินส่วนหนึ่งจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 250 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกจะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง”
พร้อมกันนี้ ยังได้วางแผนตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อรองรับ AEC หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลงทุนสำนักงานใหม่ เพื่อรองรับบุคลากรใหม่ๆ ในการขยายตลาด รวมทั้งจะมุ่งเน้นทำธุรกิจซื้อมาขายไป (Trading) อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ (Engine Part) โดยจะมีการหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มยอดขาย
“อนาคตจะใช้กลุ่มอาเซียนเป็นฐาน ซึ่งปัจจุบันเรามีลูกค้ามากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมีสัดส่วนต่างประเทศมากถึง 87% ทำให้ไม่ค่อยได้รับผลพวงจากปัจจัยในประเทศมากนัก โดยคาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะสามารถทำกำไรทุบสถิติสุงสุดต่อเนื่อง เนื่องจากได้โปรเจคใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับการลงทุนแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นและเกาหลีจะเริ่มเห็นผลไตรมาสนี้ โดยคาดว่าจะมีการเติบโตรายได้ปีนี้ที่ 15%” นายสมพล กล่าวในที่สุด