PJW ส่งสัญญาณปีหน้ามุ่งเน้นการใช้กำลังการผลิตที่ได้ลงทุนไว้แล้วในปีนี้ ตามแผนการลงทุนที่วางไว้เพื่อการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 26, 2013 11:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--IR network PJW ส่งซิกปีหน้ามาแน่ เตรียมกลยุทธ์เพิ่มยอดขายในตลาดต่างๆโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์โดยมุ่งเน้นสร้างยอดขายเพื่อใช้กำลังการผลิตที่ได้ลงทุนไปแล้วล่วงหน้าในปีนี้ คาดยอดขายหลักทั้งบรรจุภัณฑ์ นมและนมเปรี้ยว ยานยนต์และเคมีภัณฑ์ ทะยานขึ้นถ้วนหน้า “วิวรรธน์ เหมมณฑารพ” เผยกลยุทธ์ช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ถึงปีหน้าจะเป็นการเพิ่มยอดขายของลูกค้าเก่าและใหม่ ซึ่งลูกค้าเก่ามีการขยายกำลังการผลิตและแผนการเติบโตที่ชัดเจนและมีลูกค้าใหม่ที่มีออเดอร์ของโมเดลใหม่รอส่งมอบในปี 2557-2558 คาดยอดขายใหม่นี้จะทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของบริษัทในปีหน้ามีประสิทธิภาพขึ้น หลังจากการลงทุนไปแล้วในปีนี้ ทั้งอาคารและ เครื่องจักรสำหรับยอดขายบรรจุภัณฑ์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมทั้งโรงพ่นสีซึ่งมีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านบาท และยังมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นภายใต้แนวทาง World Class Manufacturing ควบคู่ไปกับแผนการเติบโตของยอดขาย นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) (PJW) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2557 คาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นจากปี 2556 โดยยอดขายทั้งในด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกบรรจุน้ำมันหล่อลื่น นมและนมเปรี้ยว สินค้าอุปโภคบริโภค สารเคมีสำหรับการเกษตร และยานยนต์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามประมาณการยอดขายของลูกค้า ทั้งส่วนของลูกค้าเก่าที่มีแผนขยายกำลังการผลิต และลูกค้าใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อออกขายในปี 2557-2558 ซึ่งจะช่วยผลักดันผลดำเนินงานบริษัทฯ ให้มีทิศทางดีขึ้นตามไปด้วย สำหรับปีหน้าคาดว่าจะมีออเดอร์ใหม่จากลูกค้าเข้ามามากขึ้น ทั้งในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภค นม เคมี และยานยนต์ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการลงทุนทั้งในด้านอาคารโรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์ จากก่อนหน้านี้ได้รับออเดอร์ใหม่ด้านยานยนต์ ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ กำหนดออกสู่ตลาดช่วงปี 2557-2558 และยอดขายจากโรงพ่นสี ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ โดยคาดว่ารายได้ในอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตประมาณร้อยละ 30 ในส่วนของบรรจุภัณฑ์นม คาดว่าปีหน้าจะมีการเติบโตสูงเช่นเดียวกัน เนื่องจากลูกค้าจะมีการขยายกำลังการผลิตในไตรมาส 2 ปีหน้า โดยคาดว่าจะเติบโตประมาณ ร้อยละ 20-25 และในส่วนของบรรจุภัณฑ์เคมีเกษตร ทางบริษัทฯประมาณการว่าจะยังคงเติบโตได้ในอัตราร้อยละ 30 โดยสามารถเพิ่มยอดขายในตลาดดังกล่าวได้ถึงร้อยละ 37 (ยอด 9 เดือน) เนื่องจากมีการผลิตสินค้าตัวใหม่ๆ และขยายฐานสู่ลูกค้าใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น “สำหรับบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น เราคาดว่าตลาดในประเทศจะเติบโตประมาณร้อยละ 3- 5 ตามประมาณการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แต่สำหรับตัวเลขการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ PJW จะมุ่งเน้นการเติบโตตลาดในประเทศจีน ซึ่งขณะนี้มีการขยายตัวอย่างมากในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันคือด้านน้ำมันหล่อลื่น ซึ่งปัจจุบันเรามีโรงงานทำบรรจุภัณฑ์ด้านน้ำมันหล่อลื่นอยู่แล้ว มีแผนที่จะขยายตลาดและกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ด้วยการให้บริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง” ในด้านผลประกอบการในไตรมาส 3/56 มีต้นทุนค่าวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่จะสามารถปรับราคาขายได้ในไตรมาสถัดไป โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตรากำไรลดลงเนื่องจากมีต้นทุนการผลิตอื่นที่สูงขึ้น จากการขยายกำลังผลิตโดยการก่อสร้างโรงงานใหม่ สั่งซื้อเครื่องจักรและลงทุนในโรงพ่นสี รวมถึงการจ้างงานสำหรับวิศวกรและที่ปรึกษา เพื่อรองรับธุรกิจโรงพ่นสี ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ค่าใช้จ่ายในการทดสอบสินค้า โมเดลใหม่การลงทุนและค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เพื่อรองรับออเดอร์ในอนาคต นอกจากนี้ จากสถานการณ์การเมืองและสภาพเศรษฐกิจในประเทศ ที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ทำให้ลูกค้าบางรายเลื่อนการส่งคำสั่งซื้อกับ PJW ออกไป ทั้งนี้ผลดำเนินงานไตรมาส 3/2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 506.56 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 23.17 ล้านบาท โดยงวด 9 เดือนมีรายได้รวม 1,602.84 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 119.82 ล้านบาท นายวิวรรธน์ กล่าวต่อถึงกลยุทธ์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้าว่าบริษัทฯ จะเน้นการเติบโตโดยเพิ่มยอดขายในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อใช้กำลังการผลิตส่วนเกินที่เหลืออยู่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลงทุนตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ดียิ่งๆ ขึ้น สู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด ซึ่ง PJW มีจุดแข็งด้านทีมวิจัยและพัฒนา ในการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า โดยเตรียมความพร้อมบุคลากรทั้งในด้านเทคนิคการผลิต (Production Technician) และความรู้ความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Cross Cultural) เพื่อเพิ่มศักยภาพ รองรับการแข่งขันที่จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะภายหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ปี 2558

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ