กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--สนพ.
สนพ. เผยตัวเลขการใช้ไฟฟ้า 10 เดือน สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา 6.26% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทั้งปีของปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะไม่สูงตามเป้าหมายการพยากรณ์ สาเหตุเพราะการรณรงค์ประหยัดไฟฟ้าและน้ำมันของรัฐบาล รวมถึงภาวะฝนตกต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อากาศไม่ร้อนมากนัก ผู้ใช้ไฟฟ้าจึงสบายไม่ต้องเปิดแอร์
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ปริมาณการใช้พลังไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมกราคม — ตุลาคม 2548 (10 เดือนที่ผ่านมา) สูงขึ้น 6.26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2547 จากระดับ 106,812 ล้านหน่วย มาอยู่ที่ระดับ 113,494 ล้านหน่วย
ทั้งนี้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูง ได้แก่ หมวดวัสดุก่อสร้าง ซึ่งขยายตัวตามการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และหมวดยานยนต์ โดยเฉพาะการผลิตรถจักรยานยนต์และรถยนต์ รวมทั้งการผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับการส่งออกปรับตัวดีขึ้น เป็นต้น โดยปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นเครื่องชี้นำทางเศรษฐกิจที่ดีว่าเศรษฐกิจไทยกำลังขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2548 เพิ่มขึ้นเป็น 4.25 - 4.75% จากการประมาณครั้งก่อนที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในอัตรา 3.5 - 4.5%
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งปีของปี 2548 จะต่ำกว่าเป้าหมายการพยากรณ์การใช้ไฟฟ้าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 137,432 ล้านหน่วย เนื่องจากผลของมาตรการรณรงค์ประหยัดพลังงานของรัฐบาลทั้งการลดใช้ไฟฟ้าและลดการใช้น้ำมัน รวมถึงการปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ทำให้ประชาชนตระหนักในการประหยัดการใช้พลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาเกิดภาวะฝนตกต่อเนื่อง ทำให้อากาศในเมืองไทยไม่ร้อนมากนัก จึงส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าลดการใช้แอร์ลง และทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าลดลง
ขณะที่ด้านความต้องการใช้พลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) คาดว่า Peak เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2548 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 20,573.5 เมกะวัตต์ จะเป็น Peak สูงสุดของปี 2548 ซึ่งสูงกว่า Peak ในปีที่ผ่านมา 6.27% (19,325.80 เมกะวัตต์) แต่จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ได้พยากรณ์ไว้เช่นกันซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 21,143 เมกะวัตต์--จบ--