กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--โทเทิ่ล ควอลิตี้ พีอาร์
อีกหนึ่งคะแนนโหวตแห่งความมั่นใจที่มอบให้กับแอร์บัส จากสายการบินชั้นนำแห่งตะวันออกกลาง
สายการบินเอทิฮัด ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศคำสั่งซื้อเครื่องบิน เอ350 เอ็กซ์ดับเบิ้ลยูบี จำนวน 50 ลำ เอ320นีโอ จำนวน 36 ลำ และ เอ330-200เอฟ จำนวนหนึ่งลำ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การปรับฝูงบินให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น โดยได้มีการเซ็นสัญญาร่วมกันระหว่างเจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด และฟาบริซ เบรจิเย่ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์บัส วันนี้ที่งานดูไบ แอร์โชว์ 2013 (Dubai Airshow 2013)
คำสั่งซื้อในครั้งนี้ประกอบไปด้วยเครื่องบินรุ่น เอ350-900 จำนวน 40 ลำ รุ่น เอ350-1000 จำนวน 10 ลำ รุ่น เอ330-200เอฟ จำนวน 1 ลำ รุ่น เอ321นีโอ จำนวน 26 ลำ และรุ่น เอ320นีโอ อีกจำนวน 10 ลำ โดยฝูงบินในปัจจุบันของสายการบินเอทิฮัดประกอบไปด้วยเครื่องบินตระกูล เอ320 จำนวน 23 ลำ เอ330 จำนวน 25 ลำ และเอ340 จำนวน 11 ลำ โดยบรรดาเครื่องบินใหม่จากการซื้อในครั้งนี้จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับฝูงบินระยะไกลที่มีอยู่แล้วของเอทิฮัด โดยมอบทั้งประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการประหยัดต้นทุน
เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินเอทิฮัดกล่าวว่า “ในเดือนเดียวกันนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว เราได้เฉลิมฉลองการเปิดตัวเที่ยวบินจากอาบูดาบีเที่ยวแรกของเราโดยใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ330”
“อีกหนึ่งทศวรรษต่อมา เราได้พัฒนาจนกลายเป็นหนึ่งในสายการบินชั้นนำระดับโลก และแอร์บัสก็มีความสำคัญต่อการดำเนินงานที่เติบโตแบบรวดเร็วของพวกเราอย่างมากจริงๆ ปัจจุบันเรามีเครื่องบินแอร์บัสมากกว่า 60 ลำ ในฝูงบินของเรา และคำสั่งซื้อล่าสุดนี้ก็คือข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนถึงความร่วมมืออันเข้มแข็งและต่อเนื่องของเรา”
“ในฐานะที่เป็นหนึ่งสายการบินลำดับต้นๆ ที่จะได้รับเครื่องบินแอร์บัสรุ่น เอ350-100 ที่หลายคนต่างเฝ้ารอคอย เรามุ่งหวังที่จะได้รับผลประโยชน์จากประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการประหยัดต้นทุนจากเครื่องบินรุ่นนี้”
“เรารู้สึกยินดีที่สายการบินเอทิฮัดยืนหยัดความมั่นใจในการใช้เครื่องบินโมเดิร์นในตระกูลแอร์บัสทั้งหมดมาอย่างต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นดังกล่าวยิ่งถูกตอกย้ำด้วยคำสั่งซื้อใหม่ที่เราได้รับในวันนี้ ตั้งแต่เครื่องตระกูล เอ320นีโอ ที่ประหยัดเชื้อเพลิง จนถึงเครื่องบินอเนกประสงค์อย่างเอ330-200เอฟ ไปจนกระทั่งเครื่องตระกูล เอ350 เอ็กซ์ดับเบิ้ลยูบี รุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ” ฟาบริซ เบรจิเย่ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์บัสกล่าว “เราตั้งตาคอยที่จะได้เห็นเอทิฮัดได้รับประโยชน์จากความประหยัดที่ยากจะหาใครเทียบได้ รวมถึงความสะดวกสบายในเที่ยวบินที่ดีที่สุดที่เครื่องทุกรุ่นของเรามอบให้ เพื่อเป็นการรับประกันถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเอทิฮัดในฐานะสายการบินชั้นนำสำหรับปีต่อๆไป”
เอ350 เอ็กซ์ดับเบิ้ลยูบี (Xtra Wide-Body) คือเครื่องบินระยะไกลขนาดกลางรูปโฉมใหม่ทั้งลำ ซึ่งประกอบไปด้วยสามรุ่น เครื่องในตระกูลใหม่นี้นอกจากจะมีขนาดลำตัวที่กว้างขวางพอสำหรับการติดตั้งเบาะโดยสารชั้นประหยัดของแอร์บัสที่มีความกว้างถึง 18 นิ้ว เพื่อความสบายของผู้โดยสารในเที่ยวบินระยะไกลแล้ว ยังมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นที่มีอยู่ในขนาดเดียวกัน แม้จะมีกำหนดการเริ่มให้บริการในปี 2557 แต่ เอ350 เอ็กซ์ดับเบิ้ลยูบี ก็ได้รับคำสั่งซื้อแล้วถึง 764 ลำ จากลูกค้า 39 รายทั่วโลก
เอ320นีโอ ได้ถูกนำเสนอให้เป็นตัวเลือกสำหรับเครื่องในตระกูล เอ320 และได้มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการติดตั้งชาร์คเลทซึ่งเป็นอุปกรณ์ปลายปีกขนาดใหญ่ ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นได้ถึงร้อยละ 15 จนถึงปลายเดือนตุลาคม 2556 มีคำสั่งซื้อนีโออยู่ที่ 2,487 ลำ จากลูกค้า 44 ราย ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้กลายเป็นเครื่องบินเชิงพาณิชย์ที่ขายได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นการตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในตลาด
เอ330-200เอฟ เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าของตระกูลเอ330 ที่ขายดีที่สุด เครื่องบินรุ่นนี้ถือเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าขนาดกลางที่ทันสมัยที่สุดในโลกและสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 70 ตัน ด้วยพิสัยระยะทางสูงสุดถึง 4,000 ไมล์ทะเล จนถึงปัจจุบัน แอร์บัสได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบิน เอ330 รุ่นต่างๆ แล้วมากกว่า 1,280 ลำ โดยมีเครื่องบินกว่า 1,010 ลำ ทำการบินอยู่ในขณะนี้จากผู้ให้บริการกว่า 100 รายทั่วโลก